ทีโอทีชงบอร์ดพิจารณาความคืบหน้า 3G คาดขายซองประกวดราคา 10-23 พ.ย. และเคาะราคาในช่วง 31 ธ.ค.53ถึง 5 ม.ค.54 และทำสัญญาได้ภายในสิ้นเดือนม.ค.54
แหล่งข่าวจากบริษัท ทีโอที กล่าวว่าในการประชุมบอร์ดทีโอทีวันที่ 29 ต.ค.นี้ จะมีการพิจารณาความคืบหน้าโครงการขยายโครงข่าย 3G ทั่วประเทศของทีโอที หลังจากครม.อนุมัติวงเงินลงทุน 19,980 ล้านบาทเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาซึ่งโครงการ 3G ถือเป็นหนึ่งในแผนโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ โดยรัฐบาลเร่งว่าจะต้องเปิดประมูลเพื่อหาผู้มาติดตั้งโครงข่ายภายใน 3 เดือนทั้งนี้ความคืบหน้าล่าสุด TOT 3G อยู่ระหว่างแก้ไขรายละเอียดบางรายการในร่างทีโออาร์ชุดใหม่ ตามมติบอร์ดทีโอที เมื่อวันที่ 13 ต.ค. และจะส่งให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ
ทั้งนี้ทีโอที ได้จัดทำแผนสำหรับ 3G เรียบร้อยแล้วโดยกำหนดกรอบระยะเวลาว่าจะเปิดขายซองประกวดราคาในระหว่างวันที่ 10-23 พ.ย.และจะเปิดรับคำถามจากผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาในช่วง 24-30 พ.ย.และเปิดประชุม bidder conferenceในวันที่ 1-2 ธ.ค. หลังจากนั้นจะกำหนดให้ยื่นเอกสารประกวดราคาด้านเทคนิควันที่ 8 ธ.ค.และจะมีการสรุปของคณะกรรมการด้านเทคนิควันที่ 22 ธ.ค. และมีการแจ้งผลการคัดเลือกเบื้องต้นในช่วง 24-27 ธ.ค.
หลังจากนั้นจะมีการเคาะราคา และคณะกรรมการสรุปการพิจารณาเสนอราคาในช่วง 31 ธ.ค.2553 - 5 ม.ค.2554 และจะมีการสรุปรายงานผลการดำเนินการขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้างในช่วงกลางเดือนม.ค.2554 โดยกระบวนการทั้งหมดคาดว่าทีโอทีจะนำเสนอบอร์ดเพื่ออนุมัติและทำสัญญาได้ภายในสิ้นเดือนม.ค.2554
ตามแผนของทีโอทีจะติดตั้ง สถานีฐานทั้งหมด 4,772 แห่งโดยเป็นการทยอยติดตั้งและมีการใช้สถานีฐานร่วม(Co-site) กับโอเปอเรเตอร์รายอื่นคือร่วมใช้สถานนีฐานกับเอไอเอสจำนวน 2,392 สถานีฐานและกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำนวน 137 สถานีฐาน
สำหรับโครงการ 3G ทั่วประเทศได้มีการประเมินความเสี่ยงไว้ 8 เรื่อง ซึ่งเป็นความเสี่ยงสูง3เรื่องและ เสี่ยงปานกลาง 5 เรื่อง รายการที่มีความเสี่ยงสูงคือ 1.ทีโอทีอาจไม่สามารถลงนามสัญญาจัดจ้างได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะอาจล่าช้าตามกระบวนการแก้ทีโออาร์ ซึ่งต้องให้อัยการตรวจร่างสัญญา หรือไม่สามารถขจัดข้อโต้แย้งการร้องเรียนต่างๆได้ในเวลาที่กำหนด 2.ความเสี่ยงจากการนำเข้าอุปกรณ์สื่อสาร 3G เพราะต้องรอให้กทช.อนุมัติ 3. การสร้างโครงข่ายเสร็จไม่ทันเวลา เพราะการประสานงานสำรวจในการ co-site ล่าช้าหรือเจ้าของสถานที่ตัดสินใจลงนามสัญญาเช่าช้า
ส่วนประเด็นที่ความเสี่ยงปานกลางประกอบด้วย การจัดหาเงินกู้ได้ล่าช้ากว่ากำหนด , คุณภาพโครงข่ายไม่สามารถสร้างความพอใจให้ลูกค้า , จำนวน MVNO ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ , มีการออกใบอนุญาต 3G ในความถี่ใหม่ 2100หรือ 2300 MHz ในช่วง2ปี รวมทั้งโอกาสเกิดปัญหาในเรื่องระบบบิลลิ่งและซีอาร์เอ็ม ทำให้ไม่สามารถเปิดทันกับการขยายโครงข่าย3G ที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งอาจทำให้ระบบบิลลิ่งไม่สามารถคิดอัตราค่าบริการบางรายการได้และทำให้ MVNO ไม่เชื่อมั่น
สำหรับการดำเนินการของ TOT 3G ขั้นแรกที่เปิดให้บริการไปตั้งแต่ปลายปี 2552 นั้น ปัจจุบันมีเลขหมายที่เปิดให้บริการไปแล้ว 212,845 เลขหมาย(ตัวเลขวันที่ 21 ต.ค.53) ทำรายได้ให้ TOT 3G ในราว 173ล้านบาท ซึ่งMVNOที่ขายเลขหมายได้มากที่สุดคือสามารถ ไอ-โมบายอยู่ที่ 80,000 เลขหมาย
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหารเอไอเอสกล่าวว่า TOT 3G เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะเอไอเอสเป็นบริษัทคู่สัญญาร่วมการงานและเคยเซ็นเอ็มโอยูระหว่างกันตั้งแต่สมัยพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธานบอร์ดทีโอที อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูศักยภาพของโครงการ 3G ของทีโอทีทั่วประเทศก่อนว่าจะร่วมมือกันอย่างไรได้บ้าง แต่เอไอเอสหวังว่าหากมีความร่วมมือกับทีโอทีในลักษณะการร่วมทุน (joint venture) เพื่อให้เอไอเอสสามารถเข้าไปดำเนินการเพื่อบริหารโครงข่ายและบำรุงรักษาสถานีฐานต่างๆ ที่เอไอเอสส่งมอบให้ทีโอที ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับทีโอทีเพราะสถานีฐานเหล่านั้น ก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเอไอเอสหรือในพื้นที่ของบริษัทที่เอไอเอส ทำสัญญาเช่าอยู่
Company Related Link :
3G TOT
ที่มา: manager.co.th
