“กิ๊ฟ กฤชภร” นิสิตจุฬาฯ กวาด 4 รางวัล พร้อมคว้ามงกุฏนางสาวไทยปี 53 พลิกโผตัวเก็งได้เฉียดฉิว เตรียมพาครอบครัวทัวร์ทำบุญ มุ่งทำงานเพื่อสังคมโดยการช่วยเหลือเด็กและคนชรา
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยสำหรับเวทีการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2553 ผู้ที่สามารถคว้ามงกุฎนางสาวไทยคนที่ 46 ไปครองได้ก็คือ “นางสาว กฤชภร หอมบุญญาศักดิ์” หรือ “กิ๊ฟ” สาวชาวเชียงใหม่ อายุ 20 ปี นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งคว้ามงกุฎเพชรอันทรงเกียรติ สายสะพาย เงินสด 1 ล้านบาท รถยนต์ และเครื่องเพชรมูลค่า 200,000 บาท รวมมูลค่าของรางวัลที่ได้รับทั้งหมดกว่า 3 ล้านบาทเลยทีเดียว รวมทั้งยังดำรงตำแหน่ง “ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว” และ “ทูตทางการค้า” อีกด้วย
นอกจากนั้นสาว “กิ๊ฟ” ยังคว้าไปอีกถึง 3 รางวัลด้วยกัน ก็คือ รางวัล Miss Intelligent, รางวัล Miss Body Perfect และรางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้าที่จะเข้ามาประกวดนางสาวไทยนี้ เจ้าตัวก็เพิ่งคว้ารางวัลนางงามเชียงใหม่ปี 53 มาหมาดๆ เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเก็งของการประกวดครั้งนี้ตีคู่มากับผู้เข้าประกวดเบอร์ 10 คือ “นางสาว วรรัตน์ นิยมเดช” หรือ “โอปอ” ที่พาดมงกุฏคว้าได้เพียงรองอันดับ 1 รับเงินรางวัล 500,000 บาท พร้อมสายสะพาย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้รับรางวัล Miss Think Positive กับรางวัล นางงามบุคลิกภาพ มาแล้วก็ตาม
ส่วนตำแหน่งรองนางสาวไทย อันดับ 2 ก็ได้แก่ผู้เข้าประกวดเบอร์ 12 “นางสาว สิริมา อรชร” หรือ “อุ๋ม” ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท พร้อมสายสะพาย และรางวัลอื่นๆ
โดย “กิ๊ฟ” นางสาวไทยคนล่าสุด พร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแบบมั่นใจเกินร้อยว่า เป็นรางวัลที่คาดหวังไว้ตั้งแต่แรก และอยากจะมอบรางวัลนี้ให้กับพ่อและแม่ที่คอยให้กำลังใจมาตลอด
“สำหรับรางวัลนี้กิ๊ฟก็คาดหวังไว้ค่ะ และอย่างแรกที่กิ๊ฟนึกถึงก็คือคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่คอยตามเชียร์และให้กำลังใจมาตลอดค่ะ ซึ่งพอได้ตำแหน่งแล้วก็นำรางวัลมามอบให้คุณพ่อคุณแม่ก่อนเลยค่ะเป็นอันดับแรก นอกจากนั้นก็จะทำภารกิจหลักของนางสาวไทยที่จะได้รับต่อไปค่ะ แต่อย่างแรกที่อยากจะทำก็คือทำบุญนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมค่ะ และอย่างที่สองก็อยากจะช่วยเหลือสังคมโดยการเริ่มต้นจากการช่วยเหลือเด็กและคนชราค่ะ และอยากจะช่วยคนประสพภัยและผู้เดือดร้อนจากที่ต่างๆ ค่ะ”
“ส่วนการเตรียมตัวกับตำแหน่ง อย่างแรกเลยก็คงต้องเตรียมพร้อมทำงานหนักค่ะ เพราะว่านางสาวไทยต้องปฏิบัติหน้าที่ทุกๆ วัน และอาจจะหนักกว่าเดิมจากที่เคยทำงานเกี่ยวกับสังคมมาค่ะ และอาจจะต้องเตรียมใจที่จะต้องอยู่หน้ากล้องตลอดเวลา แล้วก็ดูแลรักษาเรื่องของบุคลิกภาพและดูแลรักษาเรื่องของภาพพจน์ให้ดียิ่งขึ้นค่ะ”
“สิ่งที่ชนะใจคณะกรรมการ กิ๊ฟคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องความมีไหวพริบค่ะ และกิ๊ฟเป็นคนที่จิตใจดีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และจิตใจของกิ๊ฟก็จะนึกถึงพุทธศาสนาตลอดเวลาค่ะ การตอบคำถามของกิ๊ฟก็เกี่ยวกับพุทธศาสนาและหลักคำสอนค่ะ และก็อยากจะขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชน แล้วก็พี่ๆ ทั้งจากทางบ้าน และกองประกวดที่เป็นกำลังใจให้กับกิ๊ฟค่ะ กิ๊ฟรู้สึกภูมิใจมากที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้นะคะ สำหรับกิ๊ฟไม่สามารถที่จะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ถ้าขาดพวกพี่ๆ ไปหรือว่าขาดกำลังใจจากทางบ้าน กำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่นะคะ กิ๊ฟก็ขอขอบคุณเป็นอย่างมากเลยค่ะ”
ที่มา: manager.co.th
