Author Topic: สงครามราคา "อีรีดเดอร์" โอกาสทางธุรกิจในสังคม "นักอ่าน"  (Read 1468 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

คอลัมน์ Click World




สงครามราคาปะทุขึ้นอีกครั้ง ณ สนามการแข่งขัน เครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรืออีรีดเดอร์ ล่าสุด บริษัทโซนี่ เจ้าของ "โซนี่อีรีดเดอร์" ประกาศหั่นราคายกแผง ทั้งรุ่น "Daily Edition" ลงเหลือ 299 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม ราคา 349 ดอลลาร์สหรัฐ, รุ่น "Touch Edition" ราคา 169 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม ราคา 199 ดอลลาร์สหรัฐ และรุ่นเล็ก "Pocket Edition" ราคา 149 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม ราคา 169 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกัน อีรีดเดอร์เวอร์ชั่นใหม่โซนี่ คาดว่าจะเตรียม เปิดตัวสู่ตลาดภายในเร็ว ๆ นี้

โซนี่อีรีดเดอร์ ถือเป็นผู้เล่นในตลาดล่าสุด ที่หั่นราคาอีรีดเดอร์ตามหลังคู่แข่ง "Nook" ของ Barnes & Noble และ Kindle จากค่ายอะเมซอน ที่เพิ่งมีการปรับลดราคา Kindle DX อีรีดเดอร์ จาก 489 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 379 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่คินเดิล รุ่นเบสิก ที่รองรับ 3 จี อย่างเดียว เหลือเพียง 189 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วน Nook นั้น ลดราคาเหลือ 189 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม ราคา 259 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับแนะนำ Nook เวอร์ชั่นไวไฟ ราคา 149 ดอลลาร์สหรัฐ

และนอกจากการปรับราคาแล้ว ทั้งสองแบรนด์ยังมีเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนซอฟต์แวร์ด้วย อาทิ Nook ได้อัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สามารถรองรับเกมที่พัฒนาบนระบบแอนดรอยด์ได้ ขณะที่ "คินเดิล" เพิ่มฟังก์ชั่นด้านเครือข่ายสังคม

ฟอเรสเตอร์รีเสิร์ชรายงานว่า ภาพรวมตลาดอีรีดเดอร์เฉพาะในสหรัฐอเมริกาปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือประมาณ 6.6 ล้านเครื่อง และจะเพิ่มเป็น 29 ล้านเครื่อง ในปี 2558 โดยปัจจุบันคินเดิลมีส่วนแบ่งประมาณ 60% ของตลาด ตามมาด้วยโซนี่อีรีดเดอร์มีประมาณ 35%

"สตีฟ ฮาเบอร์" ประธานกลุ่มธุรกิจเครื่องอ่านดิจิทัลของโซนี่ กล่าวว่า การปรับราคา ถือเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรม คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะภารกิจองค์รวมของโซนี่ คือการขยายตลาดการอ่านแบบดิจิทัลไปยังกลุ่มผู้ชมให้ได้มากที่สุด โดยเสนอให้คอนซูเมอร์สามารถเข้าถึงมีทางเลือก และมีคุณค่าในการใช้งานให้ได้มากที่สุด

"ราคาที่สามารถแข่งขันได้ของเรานั้น คือความแข็งแกร่ง และพวกเรามีความยินดีที่สินค้าของพวกเรานั้นถูกนำไปเปรียบเทียบ แบบด้านต่อด้านกับคู่แข่งของเรา"

เป็นที่รู้กันว่า ผู้เล่นอีรีดเดอร์ทั้งสามราย ต่างเผชิญความกดดันจากไอแพดของแอปเปิล ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ และมียอดขายทะลุ 3 ล้านเครื่อง ในเวลาเพียง 80 วัน ด้วยคุณสมบัติบวกกับความสามารถใช้งาน เช่น การท่องเว็บไซต์ ชมวิดีโอ เล่นแอปพลิเคชั่น ซึ่งเป็นมากกว่าเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิกส์อย่างเดียว

"พอล เรย์โนลด์" จากคอนซูเมอร์รีพอร์ต แสดงความเห็นว่า อีรีดเดอร์พยายามที่จะสร้างความน่าสนใจ โดยเน้นให้เห็นถึงราคาสินค้าที่ถูกกว่าไอแพด และส่วนใหญ่ยังคงโฟกัสที่หนังสือ มากกว่า การเพิ่มแอปพลิเคชั่นใหม่ ๆ เพื่อสู้กับไอแพดโดยตรง

ด้าน "วินเลี่ยม คิดด์" ผู้อำนวยการ และนักวิเคราะห์บริหารการเงินจาก iSuppli เขียนรายงานหลังจากผู้ผลิตอีรีดเดอร์แต่ละแบรนด์เปิดฉากสงครามราคาว่า "การตัดราคาอีรีดเดอร์ครั้งนี้ คาดว่ากำไรของการจำหน่ายฮาร์ดแวร์ จะเท่ากับศูนย์ เพราะคาดว่าราคาอีรีดเดอร์ของบริษัททั้งสองคงจะอยู่ในราคาต้นทุนการผลิตแล้ว และบริษัทอะเมซอนและ Barnes & Noble คงหวังที่จะสร้างรายได้ผ่านการขายหนังสือมากขึ้นแทน"

นอกจากยักษ์ใหญ่วงการอีรีดเดอร์ทั้งสามแบรนด์แล้ว ยังมียักษ์ค้าปลีกสินค้า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ชื่อดัง "Borders" วางแผนการตลาด เพื่อกระตุ้นการขายอีรีดเดอร์ของบริษัท ภายใต้แบรนด์ "Kobo" เช่นกัน ในราคา 149.99 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเสนอให้บัตรกำนัล มูลค่า 20 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อมีการซื้อ Kobo รุ่นใดก็ได้ เพื่อล่อใจคอนซูเมอร์ หลังจากที่อะเมซอนและ Barnes & Noble ประกาศตัดราคา นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า "Borders" กำลังสั่งซื้อ "Libre e-reader" เข้ามาจำหน่ายอีกตัว ในราคา 119.99 ดอลลาร์สหรัฐ

Border ระบุว่า จากผลวิจัยของ บอสตันคอนซัลติ้งกรุ๊ปสรุปว่า ปัจจัย ด้านราคาสินค้ายังคงเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้ซื้อในการนำอีรีดเดอร์มาใช้งาน ทั้ง ๆ ที่ความสนใจในสินค้าประเภทนี้โดดเด่นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยราคา ที่คอนซูเมอร์สนใจและต้องการจะซื้ออยู่ในช่วงราคา 100-150 ดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ปัจจุบันก็มีผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หลายรายให้ความสนใจและมีแผนนำ อีรีดเดอร์เข้าสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้ ไม่ว่า จะเป็นเอเซอร์, อัสซุส รวมทั้งซัมซุง

และจากภาวะตลาดอีรีดเดอร์แดนมะกันมีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ส่งผลให้ "ซัมซุง" ซึ่งเดิมคิดจะถอนตัวการทำตลาดในสหรัฐ ประกาศว่าบริษัทต้องการนำอีรีดเดอร์ "Samsung SNE-60"s" เข้าสู่ตลาดสหรัฐอีกครั้ง

โดยซัมซุงให้เหตุผลว่า "ด้วยสภาพตลาดไดนามิกอยู่ตลอดเวลาในปัจจุบัน ทำให้ซัมซุงกำลังกลับไปเยี่ยมตลาดอีรีดเดอร์ในสหรัฐอีกครั้ง เรายังคงยึดมั่นในตลาดเอ็นเตอร์เทนเมนต์พกพา และหวังว่าจะมีประกาศใหม่ ๆ ออกมาเร็ว ๆ นี้"

ข่าวการเปลี่ยนใจของซัมซุงปรากฏตามหลังการเปิดตัวของ Samsung SNE-60"s ในฝรั่งเศส เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับการเปิดให้สั่งจองสินค้าล่วงหน้าใน สหราชอาณาจักร ตั้งแต่เดือน พ.ค. แม้ว่าเบื้องต้นซัมซุงยังไม่ได้ประกาศราคาชัดเจน แต่ระดับราคาที่เปิดขายในฝรั่งเศส อยู่ที่ 329 ยูโร หรือ 411 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าคู่แข่งในตลาดเกือบเท่าตัว จึงต้องดูเกมรุกในการเข้าสู่สงครามอีรีดเดอร์ของซัมซุงต่อไปว่าจะเป็นเช่นไร

ที่มา: prachachat.net


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6621 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
5335 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
1673 Views
Last post April 29, 2009, 11:26:27 AM
by Reporter
0 Replies
4331 Views
Last post May 03, 2009, 05:52:53 PM
by IT
0 Replies
2081 Views
Last post June 03, 2009, 01:07:14 PM
by IT
0 Replies
3077 Views
Last post August 28, 2009, 09:43:46 AM
by IT
0 Replies
3411 Views
Last post February 24, 2010, 08:43:26 AM
by Nick
0 Replies
1633 Views
Last post June 02, 2010, 02:52:50 PM
by Nick
0 Replies
6188 Views
Last post June 10, 2010, 02:08:06 PM
by Nick
0 Replies
4197 Views
Last post July 16, 2010, 10:18:47 PM
by Nick