ผู้ชนะในรายการแข่งขันลดน้ำหนัก The Biggest Loser สร้างความฮือฮา และข้อถกเถียงขึ้นมาพร้อมๆ กันกับการลดน้ำหนักถึง 70 กก.จนเกิดประเด็นคำถามขึ้นมาว่าเป็นการลดน้ำหนักที่มากเกินไปหรือไม่ เรเชล เฟรเดอริคสัน กลายเป็นผู้ชนะในรายการแปลงโฉมแข่งกันลดน้ำหนัก The Biggest Loser ด้วยการลดน้ำหนักได้ถึง 70 กก.ในระยะเวลา 7 เดือน จากเดิมที่เธอเคยหนัก 117 กก.แต่สาววัย 24 ปี จากลอสแองเจลิสคนนี้สามารถรีดน้ำหนักลงเหลือแค่ 47 กก.เท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับส่วนสูง 162 ซม.ของเธอหลายฝ่ายกับมองว่า เฟรเดอริคสัน รีดน้ำหนักตัวเองมากเกินพอดี ซึ่งสามารถสังเกตความผิดปกติของเธอในปัจจุบัน ได้จากรูปร่างภายนอกในตอนนี้ ที่ดูผอมจนเห็นกระดูก
โดยเธอสามารถลดน้ำหนักระหว่างร่วมรายการได้ 50 กก.ก่อนจะกลับมาลดน้ำหนักเองที่บ้านอีก 20 กก.คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวเดิมแล้วเธอสามารถรีดน้ำหนักตัวออกไปได้ถึง 59.62% เลยทีเดียว
แม้จะยอมรับว่าตัวเองอาจจะลดน้ำหนักมากเกินไปหน่อย แต่ เฟรเดอริคสัน ก็ยืนยันว่าเธอมีความสุขดีทั้ง “รักตัวเอง และยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น” นอกจากนั้นยังปฏิเสธว่าเธอไม่ได้มีอาการของโรคมีความผิดปกติทางการกิน หรือโรคกลัวอ้วนแต่อย่างใด ส่วนโปรดิวเซอร์ของรายการก็ยืนยันว่าผลจากการตรวจสุขภาพได้ชี้ว่าเธอแข็งแรงดี และไม่มีอะไรผิดปกติ
สำหรับเทคนิคการลดน้ำหนักนั้น เรเชล เฟรเดอริคสัน เปิดเผยว่าเธอไม่ได้อดอาหารแต่อย่างใด แต่พยายามควบคุมการกินให้เหลือ 1,600 แคลอรีต่อวัน และยังออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอวันละ 6 ชั่วโมงในตลอด 3 เดือนก่อนวันตัดสินผู้ชนะคนสุดท้ายของรายการ The Biggest Loser อย่างไรก็ตามแต่ก็มีข้อสงสัยออกมาว่าเธออาจจะบริโภคอาหารในปริมาณที่น้อยไปกว่านั้น
โดยทาง NBC ที่เป็นต้นสังกัดของรายการ และบริษัทผู้ผลิตรายการ Shine America ได้ออกแถลงการณ์ว่าพวกเขายังคงสนับสนุนและให้กำลังใจ เรเชล เช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันทุกคนในตลอด 15 ฤดูกาลของ The Biggest Loser เรียลิตีโชว์ที่เปิดโอกาสให้บรรดาผู้มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานได้เข้ามาแข่งขันกันลดน้ำหนักชิงเงิน 250,000 เหรียญฯ ที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้มีน้ำหนักตัวเกินคนอื่น ในการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทางรายการยังยืนยันว่าทีมงานได้มีส่วนช่วยเหลือให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคน ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี และดีต่อสุขภาพ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้คนดูทางบ้าน ได้นำไปปฏิบัติด้วย
ซึ่งผู้เข้าแข่งขันทุกคนในรายการ The Biggest Loser จะทุ่มเทให้กับการลดน้ำหนักแบบเต็มเวลา และส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่านอกจากเพื่อการกลับมามีรูปร่าง กับสุขภาพที่ดีแล้ว เงินจำนวน 250,000 เหรียญฯ สำหรับผู้ชนะก็ถือเป็นแรงบันดาลใจชั้นดี
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของนิตยสาร People อ้างว่าผู้บริหารสถานี และทีมงานเองก็กังวลกับเรื่องการลดน้ำหนักอันเลยเถิดของ เรเชล เฟรเดอริคสัน จึงได้แต่คาดหวังว่าผู้ชมจะไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ และได้แต่ภาวนาว่าเรื่องนี้จะไม่กลายเป็นประเด็นถกเถียงใหญ่โต แต่สุดท้ายเรื่องก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาจริงๆ
ส่วนตัวของผู้ชนะรายการในฤดูกาลล่าสุดก็ไม่ยอมชี้ชัดว่าเธอบริโภคอาหารต่อวันเท่าไหร่กันแน่ เพียงแต่บอกว่าเธอใช้ชีวิตอย่างสมดุล, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และเลือกอาหารที่เหมาะสม “ฉันมาที่รายการนี้เพื่อเอาชีวิตของตัวเองคืน และสุดท้ายก็ทำได้ค่ะ”
สำหรับเสียงสะท้อนที่ออกมานั้นมองว่า The Biggest Loser และ เรเชล เฟรเดอริคสัน กำลังสร้างความเชื่อที่ผิดๆ ให้กับสังคม ด้วยการลดน้ำหนักเกินขีดจำกัด ทั้งลดอาหาร และออกกำลังกายอย่างหักโหมทั้งวันทั้งคืน ซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันทั่วไปจะทำได้ การรีดน้ำหนักลง 70 กก.ใน 7 เดือนคือตัวอย่างอันเลวร้าย และอาจนำไปสู่การเป็นโรคกลัวอ้วนได้ ยังมีความเห็นของคนจำนวนไม่น้อยว่ารูปร่างภายของของ เฟรเดอริคสัน ในขณะนี้ไม่ได้ดูมีสุขภาพดีอย่างที่เธอกล่าวอ้างเลย
ที่มา: manager.co.th
