Author Topic: หนุ่มผู้ดี คุ้ยขยะหาไดรฟ์คอมพ์เก่า หลังเงินไฮเทค 1 bitcoin มีค่า 32,000 บาท  (Read 1206 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


มูลค่าเงิน 1 Bitcoin มีมูลค่าสูงเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐแล้ว


ค่าเงินสกุล Bitcoin บนเว็บไซต์ Mt. Gox


ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-พฤศจิกายน 2013) มูลค่าเงินบิตคอยน์นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าตัว


กลายเป็นข่าวดังรับช่วงเวลาที่มูลค่าเงินดิจิตอลอย่าง “บิตคอยน์ (bitcoin)” มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยหนุ่มอังกฤษซึ่งเป็นเซียนคอมพิวเตอร์ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่าตัวเขากำลังเร่งมือค้นหา “ไดรฟ์คอมพิวเตอร์” ของตัวเองที่เผลอโยนทิ้งไปนานหลายเดือนที่สถานที่ฝังกลบขยะของเมืองนิวพอร์ต เนื่องจากไดรฟ์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวเป็นแหล่งเก็บไฟล์บันทึกเงินสกุลบิตคอยน์มูลค่ากว่า 7,500 บิตคอยน์ ซึ่งคิดเป็นเงินมากกว่า 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐหลังจาก 1 บิตคอยน์มีมูลค่าเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
       
       หนุ่มเมืองผู้ดีรายนี้ คือ เจมส์ โฮเวลส์ (James Howells) วัย 28 ปี รายงานจากสำนักข่าว BBC ระบุว่า เงินดิจิตอลจำนวน 7,500 บิตคอยน์ของโฮเวลล์นั้นถูกเก็บรักษาในฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์มาตั้งแต่ 2009 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เงินเสมือนอย่างบิตคอยน์ยังไม่มีมูลค่ามากนัก นับแต่นั้น ฮาร์ดไดรฟ์ซึ่งเป็นจานแม่เหล็กสำหรับเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์จึงถูกวางนอนไว้ในลิ้นชักต่อเนื่องหลายปี ก่อนจะถูกโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดีระหว่างการย้ายบ้านเมื่อช่วงกลางปี 2013 ที่ผ่านมา
       
       กระทั่งช่วงวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2013 มูลค่าเงินเสมือน 1 บิตคอยน์มีมูลค่าเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 32,000 บาท) เป็นครั้งแรก หนุ่มโฮเวลล์จึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองจะกลายเป็นเศรษฐีทันทีหากสามารถค้นหาฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์นั้นพบ
       
       ดังนั้น โฮเวลล์จึงตัดสินใจประสานงานกับผู้ดูแลสถานฝังกลบขยะในเมืองบ้านเกิดอย่างนิวพอร์ต (Newport) เพื่อติดตามค้นหาฮาร์ดไดรฟ์ที่เป็นกุญแจสู่เงิน 7,500 บิตคอยน์ จุดนี้หนุ่มโฮเวลล์ยอมรับกับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่าเกิดความท้อแท้ทันทีที่ได้เห็นสถานฝังกลบขยะแห่งนี้ เนื่องจากสถานฝังกลบขยะมีขนาดใกล้เคียงกับสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ แถมผู้จัดการสถานฝังกลบขยะยังให้ข้อมูลว่า ขยะที่ถูกส่งมาที่สถานฝังกลบนี้ช่วง 3-4 เดือนที่แล้ว จะถูกฝังอยู่ที่ระดับลึกจากผิว 1.5 เมตร
       
       คำพูดของผู้จัดการสถานฝังกลบขยะยิ่งบั่นทอนกำลังใจที่มีอยู่น้อยนิดของโฮเวลล์ ซึ่งแม้สถานฝังกลบแห่งนี้จะมีคนงานมากกว่า 20 คนพร้อมเครื่องมือและสุนัขช่วยเหลือ แต่โฮเวลล์รู้ดีว่าตัวเองไม่มีเงินทุนหรือความสามารถในการค้นหาฮาร์ดไดรฟ์ที่ถูกทิ้งไปช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมที่ผ่านมาได้โดยเร็ว ซึ่งรายงานไม่ระบุว่าเซียนไอทีโชคร้ายรายนี้เตรียมแผนหรือกระบวนการค้นหาไว้อย่างไรต่อไป
       
       รายงานของบีบีซีระบุว่า โฮเวลล์ลืมเรื่องราวของบิตคอยน์ในฮาร์ดไดรฟ์เนื่องจากการเทสมาธิไปกับการย้ายบ้าน โดยเบื้องต้นได้ตรวจสอบไฟล์สำรองที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นแล้วแต่ไม่เป็นผล
       
       บิตคอยน์ หรือ Bitcoin คือสกุลเงินเสมือนที่ถูกตั้งขึ้นมาสำหรับการทำธุรกรรมบนโลกไอที บิตคอยน์ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 โดยฝีมือการพัฒนาของเซียนคอมพิวเตอร์ผู้ลึกลับที่ใช้ชื่อว่าซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ล่าสุดบิตคอยน์เป็นศัพท์ที่ถูกบัญญัติความหมายไว้ในพจนานุกรมออคฟอร์ดว่า “สกุลเงินดิจิตอลในการทำธุรกรรมซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคารกลาง”
       
       หลักการของบิตคอยน์ คือ การเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่อยู่ภายใต้การดูแลของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์ของบิตคอยน์ คือ การลดบทบาทของธนาคารในการกำหนดค่าเงิน, การพิมพ์-แจกจ่ายธนบัตร และการบันทึกมูลค่าการโอน-ฝากเงิน ซึ่งแทนที่จะต้องให้ธนาคารเป็นผู้ดูแลการโอนเงินของผู้ใช้ แต่บิตคอยน์ออกแบบให้ชาว Bitcoin ทุกคนสามารถรับรู้และช่วยยืนยันการโอนเงินซึ่งกันและกัน ผ่านซอฟต์แวร์และไฟล์ข้อมูลเฉพาะทางที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายทั่วโลก
       
       อีกสิ่งที่น่าสนใจ คือ มูลค่าของเงินบิตคอยน์จะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่คงที่ เนื่องจากการกำหนดค่าเงิน 1 บิตคอยน์จะเกิดจากการคำนวณผ่านกลุ่มบุคคลทั่วโลกที่อุทิศคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงของตัวเองเพื่อเปิดซอฟต์แวร์ของบิตคอยน์ให้ทำงานตลอดเวลา (คนกลุ่มนี้จะได้รับบิตคอยน์กลับมาให้ตัวเองเป็นการตอบแทน) โดยเงินบิตคอยน์นั้นสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริงของประเทศต่างๆได้ หรือสามารถนำไปซื้อสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต
       
       ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีบริษัทรับแลกเงินสกุลบิตคอยน์ให้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐหรือเงินยูโรมากมายตามค่าเงินที่เกิดจากการคำนวณของซอฟต์แวร์ โดย Mt.Gox คือผู้ให้บริการแลกเงินรายใหญ่ที่สุดที่เปิดรับแลกเปลี่ยนธุรกรรมบิตคอยน์ถึง 80% ในการนำเงินเข้าและออกจากระบบบิตคอยน์ ปรากฎว่ารายงานล่าสุดพบมูลค่าเงิน 1 บิตคอยน์มีมูลค่าสูงเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐบนกระดานแลกเปลี่ยนของเว็บไซต์ Mt. Gox ตั้งแต่วันที่ 26-27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เงิน 1 บิตคอยน์เพิ่งมีมูลค่าเกิน 100 เหรียญสหรัฐในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะเพิ่มมูลค่าขึ้น 1 เท่าตัวในเดือนเดียวกัน
       
       หากคำนวณการเปลี่ยนแปลงในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-พฤศจิกายน 2013) จะพบว่ามูลค่าเงินบิตคอยน์นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าตัว อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายเงินบิตคอยน์ในเว็บไซต์อื่นยังมีค่าเฉลี่ยระดับต่ำกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่าเงินบิตคอยน์จะผันผวนต่อเนื่องตลอดปีนี้และปีหน้า
       
       สื่ออเมริกันวิเคราะห์ว่า ภาวะเงินบิตคอยน์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นรวดเร็วนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มขานรับรูปแบบสกุลเงินเสมือน หรือ virtual currency ซึ่งเป็นระบบการเงินที่มีแนวคิดถูกควบคุมด้วยเทคโนโลยีแทนที่นโยบายการเงินจากธนาคาร นอกจากนี้ รายงานข่าวมากมายยังชี้ว่านักลงทุนผู้มีชื่อเสียงและผู้ก่อตั้งกิจการเกิดใหม่จำนวนมากมีแผนจะนำระบบเงินบิตคอยน์มาใช้จ่ายกับผู้บริโภควงกว้างหรือเมนสตรีมด้วย ทำให้การซื้อขายบิตคอยน์มีความคึกคักมากขึ้นในพริบตา
       
       ในขณะที่บิตคอยน์ได้รับความสนใจจากชาวโลกเพราะการไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” กลับสั่งระงับการแลกเปลี่ยนเงินบิตคอยน์ภายในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าสกุลเงินบิตคอยน์ขาดข้อกฎหมายกำกับเฉพาะด้านที่ชัดเจน ทำให้การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายการเงินประเทศไทย

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
1113 Views
Last post February 19, 2013, 01:31:57 PM
by Nick
0 Replies
1083 Views
Last post October 28, 2013, 04:38:18 PM
by Nick
0 Replies
989 Views
Last post November 22, 2013, 01:39:34 PM
by Nick
0 Replies
1022 Views
Last post January 06, 2014, 07:28:27 PM
by Nick
0 Replies
949 Views
Last post January 10, 2014, 12:33:57 PM
by Nick
0 Replies
1053 Views
Last post February 19, 2014, 01:31:54 PM
by Nick
0 Replies
1766 Views
Last post April 24, 2014, 05:50:24 PM
by Nick
0 Replies
2110 Views
Last post May 27, 2014, 02:22:24 PM
by Nick
0 Replies
1504 Views
Last post December 09, 2015, 01:15:25 PM
by Nick
0 Replies
1212 Views
Last post July 06, 2022, 07:58:01 PM
by solomone88