Author Topic: “เอ๋-บ๊วย” เฮ ศาลยกฟ้องหมิ่น “ไผ่ วันพ้อยท์” ระบุรอดเพราะไม่ได้พูดชื่อจริง  (Read 866 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai






    “เอ๋-บ๊วย” ยิ้มออก ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดีหมิ่นประมาท “ไผ่ วันพ้อยท์” กรณีพูดออกรายการ “คันปาก” ทางช่อง 7 ทำนองว่านางเอก “หยาดทิพย์” หนีแม่มาอยู่บ้านไผ่เพื่อเสพยา ศาลระบุ 2 พิธีกรพูดแค่ฉายาไม่ได้พูดชื่อจริงดังนั้นชาวบ้านไม่รู้จัก ด้านบ๊วยไม่หวั่นถ้าอีกฝ่ายยื่นฎีกา บอกมีผู้ใหญ่จัดการให้อยู่แล้ว
       
       บทสรุปเกี่ยวกับคดีความที่นักการเมืองหนุ่ม “ไผ่ วันพ้อยท์” หรือ “ไผ่ ลิกค์” อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน จ.กำแพงเพชร ยื่นฟ้อง 2 พิธีกรรายการ “คันปาก” อย่าง “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” และ “เอ๋ พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์” และทางช่อง 7 ฐานหมิ่นประมาท กรณีพิธีกรทั้ง 2 คนพูดออกอากาศในทำนองที่ว่านางเอกสาว “หยาดทิพย์ ราชปาล” ได้หนีแม่มาอยู่บ้านตนเพื่อเสพยาเสพติด จนสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและวงศ์ตระกูล จึงดำเนินการฟ้องร้องทั้งในคดีอาญาและคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายกับคู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท
       
       ความคืบหน้าวันที่ 10 มิ.ย. 56 ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อ.1888/2552 ที่นายไผ่ ลิกค์ นักแข่งรถยนต์ชื่อดังกลุ่ม “วันพ้อยท์” และผู้ช่วยอดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชาชน มอบอำนาจให้ นายยุฌธณา ณ ชนก ตระกูลสม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บ๊วย หรือ และ เอ๋ สองผู้ดำเนินรายการ “คันปาก” ออกอากาศทางโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีเมื่อวันที่ 22 และ 27 พ.ค.52 ที่ผ่านมา สองผู้ดำเนินรายการ กล่าวในรายการว่า ดาราสาว หยาดทิพย์ ราชปาล หนีมาอยู่กับโจทก์เพื่อเสพยาเสพติด จนมารดาต้องออกตามหา
       
       คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.53 ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 328 ให้จำคุกคนละ 3 เดือน และปรับคนละ 30,000 บาท ซึ่งคำเบิกความของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้งสองไว้คนละ 2 เดือน ปรับคนละ 20,000 บาท แต่เห็นควรให้โอกาสจำเลยโทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
       
       ศาลอุทธรณ์ประชุมตรวจสำนวนกันแล้ว เห็นว่า แม้โจทก์จะนำสืบว่านอกจากโจทก์จะทำงานด้านการเมืองแล้ว ยังได้ตั้งกลุ่มแข่งรถโดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “วันพ้อยท์” มีสมาชิกกว่า 100 คน แต่โจทก์ก็ตอบคำถามทนายความว่า ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง และเอกสารต่างๆ ของโจทก์ก็จะใช้ชื่อ-สกุลจริง ดังนั้นการที่จำเลยกล่าวในรายการคันปาก ซึ่งกล่าวถึงชื่อ ไผ่ วันพ้อยท์ แต่ไม่ได้กล่าวชื่อสกุลจริงของ จึงไม่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่า เป็นตัวโจทก์ หากประชาชนต้องการทราบก็ต้องไปสืบค้นแสวงหาเอง การกระทำของจำเลยทั้งสอง ยังไม่เป็นการหมิ่นประมาท ใส่ร้ายโจทก์ ที่ศาลชั้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
       
       ภายหลังได้ฟังคำพิพากษาแล้ว ก็ทำให้ “เอ๋-บ๊วย” ถึงกับยิ้มออกที่คดีจบสิ้นซะที โดยทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า…
       
       บ๊วย : “คดีจบแล้วครับ ก็ไม่มีความรู้สึกอะไรครับ ส่วนถ้าอีกฝ่ายจะยื่นฎีกาอีก ก็คดีจบแล้วครับ ผมไม่ทราบอะไรเพราะมีผู้ใหญ่จัดการให้ก็ตามกฎหมายเลยครับ”
       
       เอ๋ : “ก็ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ตนเองปกติ พี่บ๊วยก็ทำหน้าที่ของพี่บ๊วย ส่วนเอ๋ก็ทำหน้าที่ของเอ๋ก็เลี้ยงลูกปกติ”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)