Author Topic: เทรดโชว์ไอที ขวัญใจนักชอปสินค้าไฮเทค  (Read 1575 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่



ตลาดไอทีต้นปีคึกคัก บริษัทไอทีพร้อมใจกันจัดเทรดโชว์กระตุ้นกำลังซื้อ หลังตลาดซึมลง 10-15% เฉพาะไตรมาสแรก เทรดโชว์ยักษ์เปิดไปแล้วกว่า 3 งาน พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เชื่อกำลังซื้อไอทียังมี เปิดแคมเปญ “พันธุ์ทิพย์ ฮอต เซล 2009” กระตุ้นกำลังซื้อตลอดงาน 3,000 ล้าน ด้าน “คอมมาร์ต” ไม่ยอมน้อยหน้าเปิดตัว จัดงาน “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2009 กลางเดือนมีนาคมศกนี้ คาดเม็ดเงินสะพัด 3,000 ล้านเช่นกัน
       
       เมื่อ 2 ปีที่แล้ว การจัดงานกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไอทีขนาดใหญ่ในแต่ละปีมักจะเห็นไม่เกิน 5 งาน โดยที่ “คอมมาร์ต” เป็นงานขายสินค้าไอทีที่ทุกคนยอมรับว่า มักจะเห็นโปรโมชั่นโดนๆ ในงานนี้ทุกครั้งไป จึงทำให้ผู้นิยมสินค้าราคาถูกมักจะชะลอการซื้อเพื่อไปซื้อสินค้าราคาพิเศษภายในงานประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนงานจะเริ่ม ขณะที่ “คอมเวิลด์” น้องใหม่ที่มักจะจัดงานช่วงต้นๆ ปี โปรโมชั่นภายในงานอาจไม่แรงเท่ากับคอมมาร์ต น่าจะเป็นผลมาจากค่าที่สยามพารากอนแพง นอกนั้นก็จะเป็นการจัดงานกันตามศูนย์การค้าสินค้าไอที หรือบริษัทเจ้าของสินค้าจัดโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าจัดงานขนาดย่อมๆ ขึ้นมา โปรโมชั่นก็จะเบาๆ ไม่รุนแรงเท่ากับโปรในงานใหญ่
       
        ในปี 2552 นี้ สถานการณ์ตลาดสินค้าไอทีเริ่มเปลี่ยนไป ดังจะเห็นได้จากงาน “คอมเวิลด์” ที่ผ่านมา บริษัทเจ้าของสินค้าต่างเปิดราคาแรงๆ กันออกมาตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว เรียกว่า ขอเน้นยอดขาย มากกว่ามาร์จิ้น จะเห็นมีแต่บริษัทรายใหญ่ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับต้นๆ อย่าง เอเซอร์ เอชพี โตชิบา อัสซุส ส่วน ฟูจิตซึ เดลล์ งานนี้ขอบาย น่าจะเป็นเพราะยังไม่พร้อมที่จะแบกต้นทุนที่สูงในขณะที่ยังไม่ชัดเจนเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในอารมณ์จับจ่ายสินค้าไอทีมากน้อยเพียงใด
       
        ผลที่ออกมา ก็เป็นไปตามคาด คือ กำลังซื้อลดลง 10-15%
       
        พรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากยอดขายในงานที่ผ่านมา สำหรับอัสซุสค่อนข้างทรงตัว ส่วนสถานการณ์จะเป็นอย่างไรนั้นคงจะต้องรอดูสถานการณ์ในงานคอมมาร์ตเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ว่าเป็นอย่างไรอีกครั้งหนึ่ง แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า ตลาดชะลอตัว
       
        “ตอนนี้ร้านค้าตามต่างจังหวัดขอให้ทางแบรนด์มีอีเวนต์หรือทำโปรโมชั่นเพื่อช่วยกระตุ้นมากขึ้น เพราะหากอยู่เฉยๆ ลูกค้าจะไม่ตัดสินใจ ดังนั้นปีนี้อัสซุสจึงต้องจัดงานมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า" สอดคล้องกับความเห็นของธีรวิทย์ แม่นชนะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันนัล ซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ประเทศไทย ที่ว่า การเข้าร่วมงานเทรดโชว์ต่างๆ ยังคงมีความจำเป็น แต่จะเห็นโปรโมชั่นที่ทำไปทั่วประเทศจากเอชพีมากขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนที่กระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี
       
       “งานอีเวนต์ช่วยกระตุ้นยอดขายมากกว่าการขายตามหน้าร้านปรกติ ในแต่ละเดือนอาจจะมีมากกว่า 1 ครั้งเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ มิเช่นนั้นคอนซูเมอร์จะชะลอการจับจ่าย เรียกว่า เราต้องกระตุ้นตลาดตลอดเวลา”
       
       ล่าสุด “พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า” ศูนย์การค้าไอทีที่รู้จักกันดี ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแคมเปญใหญ่ประจำปี “พันธุ์ทิพย์ ฮอต เซล 2009” ครั้งที่ 1 ขึ้น ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึง 8 มีนาคม 2552 เฉพาะที่สาขาประตูน้ำกับงามวงศ์วาน
       
       วิษณุ หวังวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าไอที พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า กล่าวว่า ทางบริษัทได้จับมือกับพันธมิตรร้านค้าและบริษัทไอทีชั้นนำต่างๆ กว่า 800 ร้านค้า เตรียมจัดแคมเปญใหญ่ พันธุ์ทิพย์ ฮอต เซล 2009 ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่ที่ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 9 แล้ว
       
       สำหรับแคมเปญ Pantip Hot Sale ที่ผ่านมา วิษณุ บอกว่า ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศขณะนี้จะส่งผลให้ผู้บริโภคปรับตัวและชะลอการใช้จ่ายลงไปบ้าง แต่อัตราการเติบโตของยอดขายสินค้าไอทีในตลาดโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสินค้าและอุปกรณ์ไอทีในปัจจุบัน ผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการ และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้อย่างดี ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในตลาด บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายสำหรับแคมเปญในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทในระยะเวลา 9 วันที่จัดงาน ทั้ง 2 สาขา และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานเฉลี่ยรวมกัน 2 สาขาไม่น้อยกว่า 80,000 คน ต่อวัน ส่วนประเภทสินค้าไอทีที่คาดว่าจะมียอดการจับจ่ายสูงสุด 3 อันดับได้แก่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กล้องดิจิตอล, Accessory Gadget โดยบริษัทใช้งบในการจัดแคมเปญดังกล่าวกว่า 3 ล้านบาท
       
       ความพิเศษของแคมเปญพันธุ์ทิพย์ ฮอต เซล จะเป็นการลดสะท้านวงการไอที นอกจากจะพบกับมหกรรมลดราคาสินค้าคอมพิวเตอร์และไอทีครั้งยิ่งใหญ่ที่ร้านค้าต่างๆ พร้อมใจกันลดราคาสินค้าไอทีทั้งศูนย์การค้าแล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษและกิจกรรมส่งเสริมการขาย การร่วมสนุกลุ้นรางวัลมากมายภายใต้กิจกรรม “พันธุ์ทิพย์แจกทองไม่ต้องลุ้น ช็อปไอทีลุ้นรับโน้ตบุ๊กฟรีทุกวัน”
       
       วิษณุ กล่าวว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เป็นเพราะธรรมชาติของสินค้าไอที โดยเฉพาะกลุ่มคอนซูเมอร์ยังเป็นกลุ่มที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไม่ใช่สินค้าที่ฟุ่มเฟือยเหมือนอย่างในอดีต แต่สามารถนำมาพัฒนาศักยภาพเพื่อการเรียนรู้ และต่อยอดสร้างรายได้ในชีวิตประจำวัน แม้ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตจากบริษัทต่างๆ เชื่อว่าตลาดไอทีปีนี้จะหดตัว แต่พันธุ์ทิพย์เชื่อว่ากำลังซื้อยังมีอยู่
       
       “หากแต่ผลกระทบที่เห็นชัดเจนจะสะท้อนออกมาในรูปของกำลังซื้อที่ถดถอยในบางจังหวะ แต่ไม่ได้ส่งผลให้จำนวนร้านค้าขอถอนตัวจากการเช่าพื้นที่ในอัตราที่แตกต่างจากในช่วงเศรษฐกิจปรกติ ในทางกลับกันทางพันธุ์ทิพย์ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยปรับลดค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งปรกติตามสัญญาบริษัทจะขึ้นค่าเช่าพื้นที่ราว 10% ทุกปี แต่ในช่วงนี้ได้เริ่มลดการขึ้นค่าเช่าเหลือไม่ถึง 5% เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่รอดได้”
       
        ส่วนแผนการเปิดสาขาใหม่นั้น วิษณุ เล่าให้ฟังว่า ประมาณเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้พร้อมที่จะเปิดให้บริการอีก 2 สาขา คือ “ดิจิตอล เกตเวย์” ที่สยามสแควร์ ที่ใช้งบลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท เลื่อนจากแผนเดิมที่คาดว่าจะเปิดได้ราวๆ เดือนเมษายน กับอีกสาขาหนึ่งที่บางกะปิ โดยจะใช้ว่าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ใช้งบปรับปรุงประมาณ 200 ล้านบาท
       
       “ที่ดิจิตอล เกตเวย์ กำลังอยู่ระหว่างเจรจากับ 2 ผู้เช่ารายใหญ่ หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ ส่วนสาขาบางกะปิมีผู้เช่าแล้วประมาณ 70-80% ส่วนราคาค่าเช่าในปัจจุบันอย่างที่สาขาประตูน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 900 บาทต่อตารางเมตร ส่วนที่ดิจิตอล เกตเวย์จะตกประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อเดือน เพราะมีการพัฒนาพื้นที่หรือการรีโนเวตให้เป็นแนวแฟชั่นอินเทรนด์ โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ตัวเล็กๆ แต่ทันสมัย และออกแนวแฟชั่น”
       
        ขณะที่ทางบริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ก็เตรียมจัดงานใหญ่ของตัวเองที่เรียกว่า X-Cite IT 2009 โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ถึง 8 มีนาคม 2552 เช่นกันที่ร้านไอที ซิตี้ทั้ง 34 สาขาทั่วประเทศ
       
       เอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ก็เชื่อมั่นว่าผู้บริโภคสินค้าไอทียังมีกำลังซื้อ เพียงแต่จะระมัดระวังการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตามสินค้าไอทียังเป็นสิ่งจำเป็นทั้งในด้านการศึกษาและการทำงาน ประกอบกับจำนวนของผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรโดยรวมทั้งประเทศนั้นยังถือว่าต่ำอยู่มาก จึงมองว่าตลาดไอทีไทยยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปในปีนี้ ส่วนแผนธุรกิจหลักของไอที ซิตี้ในปี 2552 คือ การเปิดสาขาให้ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานหรือกลุ่มลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดสาขาใหม่ประมาณ 3–5 แห่งภายในสิ้นปีนี้ มุ่งไปที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก เน้นจังหวัดที่ยังไม่มีร้านไอที ซิตี้ อาทิ จังหวัดนครสวรรค์, อุดรธานี, อุบลราชธานี, นครศรีธรรมราช เป็นต้น
       
       กลยุทธ์การตลาดที่กระตุ้นการซื้อสินค้าในไอที ซิตี้ อยู่ที่ การจัด Everyday Exhibition ที่จะนำเสนอนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าสนใจ โดยในไตรมาสแรกนี้กิจกรรมใหญ่ที่ไอที ซิตี้จัดขึ้น คือ งาน X-Cite IT 2009 เน้นนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ครบครันในทุกประเภทของสินค้าเทคโนโลยี และยังมีครบทุกประเภทที่ผู้ใช้งานต้องการ และที่สำคัญสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาสุดพิเศษ เช่นโน้ตบุ๊ก เอเซอร์ แอสไปร์ รุ่น 4920 ราคาเพียง 22,363 บาท, โน้ตบุ๊กเอชพี พาวิลเลี่ยน รุ่น dv3544TX ลดทันที 2,000 บาท, คอมพิวเตอร์เอสวีโอเอ อิมเพรส รุ่น E1400 ราคาเพียง 13,990 บาท, กล้องดิจิตอลซัมซุง i8 ความละเอียด 8.1 ล้านพิกเซล ราคาเพียง 5,990 บาท พรินเตอร์แคนนอน พิกซ์มา รุ่น iX4000 ราคาเพียง 6,990 บาท, พรินเตอร์เล็กซ์มาร์ก รุ่น X502 ราคาเพียง 15,400 บาท เป็นต้น
       
       ส่วนบริษัท เอ.อาร์. อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต ก็พร้อมที่จะจัดงานคอมมาร์ตไทยแลนด์ 2009 ครั้งแรกของปีระหว่างวันที่ 19-22 มีนาคมที่จะถึงนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เช่นเดิม
       
       ปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์. อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด กล่าวว่า คอมมาร์ตในปีนี้จะมีโปรโมชั่นพิเศษ ลด แลก แจก แถมเป็นพิเศษครั้งแรก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชอปเกินคุ้ม ลุ้นทอง ลุ้นรถ” เพื่อกระตุ้นให้ผู้ค้าไอทีสามารถทำยอดได้ตามเป้า
       
       เนื่องจากวิกฤตค้าปลีกไอทีที่ตลาดทรงตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา หลังจากปัญหาการตกต่ำของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ผู้ค้าไอทีไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้า ปีนี้ เอ.อาร์. ได้เพิ่มงบการตลาดและการประชาสัมพันธ์จัดงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2009 เกือบ 50% เพื่อสร้างกิจกรรมการตลาดสุดคึกคัก เพิ่มค่าของเงินให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ด้วยโปรโมชั่นแจกรถแจกทองคืนกำไรให้ผู้บริโภค และช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถซื้อสินค้าไอทีในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด โดยในงานครั้งนี้ผู้จำหน่ายสินค้าไอทีทุกแบรนด์ได้ตอบรับเข้าร่วมงาน ซึ่งเป็นการยืนยันให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่องานคอมมาร์ตได้เป็นอย่างดี
       
       “เพียงแค่ซื้อสินค้าเริ่มต้นที่ 100 บาทขึ้นไป สามารถลุ้นรับทองคำหนัก 1 สลึง 4 เส้น/วัน และซื้อสินค้าทุก 3,000 บาท มีสิทธิลุ้นรถ Toyota Vios มูลค่ากว่า 5 แสนบาท จำนวน 1 คัน แพกเกจทัวร์กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ LCD TV ชุด Home Theatre และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย คาดดึงผู้เข้าชมงานได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านราย และสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท”

ที่มา: http://www.manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)