“เป้” ลั่นไม่แคร์เล่นหนังยังบาวฯ “ตูน บอดี้สแลม” ได้ค่าตัวมากกว่า 10 ล้าน ทั้งที่เล่นหนังเรื่องเดียวกัน เข้าใจเป็นหนังเรื่องแรกของอีกฝ่าย อีกทั้งยี่ห้อบอดี้สแลมก็คงไม่ธรรมดา ก่อนโต้ตนได้ค่าตัว 3 ล้าน หลังจากหนังสือพิมพ์ Super บันเทิง เปิดประเด็นเรื่องที่นักร้องร็อกเกอร์ชื่อดัง “ตูน บอดี้สแลม” ฟันค่าตัวจากการเล่นภาพยนตร์เรื่อง “ยังบาว โปรเจ็กต์ คาราบาวเดอะมูฟวี่” ซึ่งเป็นภาพยนตร์บอกเล่าประวัติของวงคาราบาว สูงถึง 13 ล้าน เพราะต้นสังกัดอย่างแกรมมี่เรียกค่าตัวมหาโหดจากเดิม 10 ล้าน เพิ่มมาเป็น 13 ล้าน แพงกว่าพระเอก “เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ” ที่เล่นเรื่องเดียวกันกว่า 10 ล้าน ทั้งที่เป็นถึงระดับซูเปอร์สตาร์เหมือนกัน ส่าสุดมีโอกาสเจอตัวเป้ในงานเปิดช่องภาพยนตร์ “Sundance HD” ที่สยามพารากอน สอบถามไปเจ้าตัวก็เคลียร์ว่า….
“เว่อร์มากครับ ไม่มีทางเลย ตัวผมไม่มีทางได้ค่าตัว 3 ล้านแน่ ของผมถูกกว่านั้นเยอะ เต้นกินรำกินครับ นักแสดงครับ ไม่บอกว่าเท่าไหร่แล้วกัน แต่ก็ถูกกว่าเกิน 2 เท่าตัว ไม่ถึง 7 หลักด้วย ก็ตกใจเหมือนกันที่บอกว่าผมค่าตัว 3 ล้าน ถ้า 3 ล้านจริงก็ดี แต่แพงไป ยังอยากเล่นหนังอยู่ครับ”
“แต่ผมไม่รู้ของพี่ตูน เขาเอาค่าตัวมาเทียบกันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ ผมไม่รู้ค่าตัวพี่ตูน เวลาเราทำงานเราก็รับสิ่งที่เราทำได้ พอใจ เราไม่มีปัญหาไปเปรียบเทียบคนอื่น ไม่แคร์ว่าใครจะได้มากได้น้อยกว่าเรา เพราะพี่ตูนก็เป็นหนังเรื่องแรกของเขา ชื่อบอดี้สแลมนี่ก็ไม่ต้องห่วง เรื่องค่าตัวก็เป็นของเขา ไม่ใช่ของผม คือมันก็เป็นข่าวได้ทั้งนั้นแหละ”
โต้ควงสาว “ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” ไปดูคอนเสิร์ต บอกได้ทักทายกันแค่แว๊บเดียว ส่วนตัวไม่นับว่าเจอกัน
“ไม่ได้ไปครับ ผมไปคอนเสิร์ตสควีซ แอนนิมอล มา ก็ไปให้กำลังใจเพื่อน ก็ไปกับเพื่อนแกงค์ใหญ่เลย ก็เจอเพื่อนๆ หลายคนที่นั่น แต่ไม่น่าจะใช่ไอซ์นะครับ เพื่อนผมก็สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มหลายคน (แต่ไอซ์บอกว่าได้เจอ ได้ทักทายกัน) ก็แว๊บๆ แหละครับ ไม่มีอะไรจริงๆ”
“ตอนนี้ก็บอกว่าเจอแล้วไง คือกลัวมันเป็นเรื่องยาว มันไม่มีอะไร เพราะเขาแค่สวัสดีค่ะ แค่นี้ แทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กันในงานเลย เราก็เลยไม่อยากจะบอกว่าเจอกัน คือเรารู้จักกันตอนถ่ายหมวดโอภาส เขาก็สวยน่ารัก แต่ก็ทำงานด้วยกันเฉยๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่ ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องราวมาได้ยังไง ผมเองก็ไม่อยากเป็นข่าวกับผู้หญิงเยอะแยะเหมือนกัน ช่วงหลังก็เป็นเยอะ”
“น้องเขาเป็นคนสวย น่ารัก เราจะรังเกียจเขา แหวะๆ ก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่ได้สนใจจะมาเป็นอะไรกัน ไม่ได้อะไรกับเขาเลย ถามว่าผมรู้ไหมว่าเขามีตัวจริง คือผมไม่รู้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของผมครับ คงไม่มีโอกาสพัฒนาหรืออะไร วันเวลาผ่านไปก็จะรู้ จะเข้าใจเองครับ”
ที่มา: manager.co.th
