Author Topic: Samsung ขีดเส้น "Note II" ขายไทย ในเดือน ต.ค.นี้  (Read 1473 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ซัมซุงเปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงประจำครึ่งปีหลัง 2012 "แกแล็กซี่โน้ตทู (Samsung GALAXY Note II)" ปรับปรุงจากแกแล็กซี่โน้ตรุ่นแรกด้วยการเพิ่มความสามารถที่ซอฟต์แวร์และปากกาสไตลัส "เอสเพ็น (S-Pen)" ที่อัจฉริยะกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็จุดพลุกล้องดิจิตอลแอนดรอยด์ที่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันได้เหมือนสมาร์ทโฟน พร้อมกับโชว์ 4 อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 แหล่งข่าวระบุผลิตภัณฑ์ที่จะวางตลาดไทยภายในเดือนตุลาคมคือ Note II นอกนั้นต้องรอการพิจารณา
       
       เกรกอรี่ ลี ประธานกรรมการและประธานผู้บริหาร บริษัท ซัมซุงเอเชีย จำกัด เปิดเผยว่าการเปิดตัวสินค้าทั้งหมดนี้เป็นไปตามเป้าหมายนำเสนอทางเลือกแก่ผู้บริโภคในทุกแพลตฟอร์ม และมั่นใจว่าสินค้าทั้งหมดจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดเอเชียแน่นอน
       
       "ยอดขายของซัมซุงเติบโตมาก ตลาดอาเซียนก็เป็นไปตามเทรนด์โลกเช่นกัน เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงขนาดและคุณสมบัติใหม่ของ Note II จะทำให้ตลาดตื่นตัว ผมเองยังเปลี่ยนจาก S3 มาใช้ Note II แทน" ลีกล่าว "กล้องดิจิตอลของเราตอบโจทย์กลุ่มผู้ต้องการแชร์ภาพทั่วโลก ขณะที่วินโดวส์ 8 จะทำให้เราเสนอทางเลือกแก่ผู้บริโภคทั่วโลกได้"
       
       Note II ที่ลีกล่าวถึงนั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซัมซุงตัดสินใจเปิดตัว Note II หน้าจอ 5.5 นิ้วในงานมหกรรม IFA 2012 โดยเพิ่มความสามารถของซอฟต์แวร์ จอภาพ และปากกาสไตลัสให้ดีกว่าแกแล็กซี่โน้ตรุ่นแรกที่เปิดตัวในงาน IFA 2011 ปีที่แล้ว
       
       การเปิดตัว Note II ตอกย้ำว่าปากกาสไตลัส S-Pen นั้นเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของซัมซุงซึ่งทำให้ Note II มีโอกาสที่ชัดเจนในการสร้างพื้นที่ของตัวเองในตลาดสมาร์ทโฟน โดยจุดแตกต่างระหว่าง Note รุ่นแรกและรุ่นล่าสุดคือการใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 ชิปควอดคอร์ 1.6GHz และการใช้หน้าจอ Super HD Amoled รวมถึง S-Pen ที่ซัมซุงพัฒนามาให้ผู้ใช้สามารถกดดูรายละเอียดของภาพ วิดีโอ อีเมล ปฏิทินงานได้จากปุ่มบนปากกา ทำให้ง่ายต่อผู้ใช้ซึ่งไม่ต้องยกมือไปแตะที่ปุ่มบนหน้าจออย่างใน Note รุ่นแรก
       
       Note II มีความบางเครื่อง 9.4 มม. น้ำหนัก 180 กรัม ผู้ใช้สามารถวาด เขียนคำ หรือตัดภาพได้อย่างสะดวก รวมถึงการจดบันทึกในเวลาที่มีสายโทรเข้าได้อย่างไม่ติดขัด จากวิดีโอสาธิตพบว่า Note II สามารถวิเคราะห์ลายมือเพื่อแสดงข้อมูลได้แบบอัตโนมัติ เช่น ผู้ใช้ที่เขียนเบอร์โทรศัพท์บนหน้าจอจะสามารถบันทึกในสมุดโทรศัพท์ได้ง่าย ขณะที่ผู้จดวันเวลา จะสามารถบันทึกในปฏิทินงานได้สะดวก
       
       ราคาของ Note II จะเปิดเผยเมื่อวางตลาดในเดือนตุลาคม โดยประเทศไทยก็จะเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มแรกที่ Note II เปิดตัว เบื้องต้นคาดว่า Note II จะวางจำหน่ายในราคาใกล้เคียงกับ Note รุ่นแรกที่ซัมซุงเปิดจำหน่ายในไทยราว 22,900 บาท ซึ่งปัจจุบัน Note รุ่นแรกนั้นมีราคาเหลือ 20,000 บาทถ้วน ทั้งหมดนี้มีความเป็นไปได้ที่ Note II จะมีงบการตลาดเท่ากับ S3 เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของซัมซุงในช่วงครึ่งปีหลัง
       
       ไม่เพียง Note II ซัมซุงยังเปิดตัวกล้องดิจิตอลพันธุ์ใหม่ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นล่าสุด 4.1 ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ได้ทั้งหมด เช่น เล่นเกม Angry Birds อัปโหลดภาพสู่เครือข่ายสังคมได้แบบส่งตรงจากกล้อง รวมถึงการตกแต่งภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย
       
       กล้องดิจิตอลรุ่นนี้ของซัมซุงมีชื่อว่าแกแล็กซี่คาเมรา (Samsung Galaxy Camera) ตัวเครื่องสามารถรองรับเครือข่ายข้อมูลไร้สายทั้ง WiFi, 3G และ 4G LTE ความสามารถในการซูมคือ 21x ใช้เลนส์ F/2.8 ความละเอียด 16 เมกะพิกเซล เซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว ความจุคือ 32GB โดยผู้ใช้สามารถเลือกเก็บข้อมูลบน cloud ได้แบบอัตโนมัติ
       
       หน้าจอทัชสกรีนของ Galaxy Camera มีขนาด 4.8 นิ้ว ความละเอียด 720p (ละเอียดพิกเซล 308 ppi) มีแฟลช pop-up ด้านบนเครื่อง เบื้องต้น Galaxy Camera มีแผนจำหน่ายภายในปีนี้ แต่ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน
       
       มั่นใจวินโดวส์ขายดี
       
       นอกจาก Note II และ Galaxy Camera งานนี้ซัมซุงยังเรียกเสียงฮือฮาด้วยการเปิดตัวแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ในชื่อซับแบรนด์ใหม่ ATIV (มาจาก VITA แปลว่าชีวิต) เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มทำตลาดภายในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนที่วินโดวส์ 8 จะถูกจุดพลุอย่างเป็นทางการ
       
       สินค้ากลุ่ม ATIV ที่ถูกเปิดตัวในครั้งนี้ได้แก่ ATIV Tab แท็บเล็ต 10.1 นิ้วที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT ซึ่งถูกการันตีว่าจะทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างและแก้ไขงานเอกสารได้เหมือนใช้งานบนเครื่องพีซีขณะเดินทาง และ ATIV Smart PC คอมพิวเตอร์กึ่งแท็บเล็ตที่ผู้ใช้สามารถดึงหน้าจอมาใช้งานเป็นแท็บเล็ต และประกอบกลับเข้าไปเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้ ยังมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กบางเฉียบ Series 9 ที่มีจุดขายคือคอมพิวเตอร์ที่บางและเร็วที่สุดในโลก พร้อมกับ Ativ S สมาร์ทโฟนหน้าจอ 4.8 นิ้วระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ซึ่งจะย่อโลกพีซีไว้ในมือเช่นกัน
       
       เบื้องต้นคาดว่า 4 ผลิตภัณฑ์กลุ่ม ATIV ยังต้องรอการพิจารณาอีกครั้งว่าจะจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อใด เนื่องจาก ATIV เป็นสายธุรกิจที่คาบเกี่ยวกันระหว่างธุรกิจอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ทำให้ยังไม่สามารถสรุปหรือคาดการณ์แผนการวางจำหน่ายในไทยได้ขณะนี้
       
       "เรามองว่าสินค้าวินโดวส์มีโอกาสประสบความสำเร็จในเอเชียแปซิฟิกสูงมาก ทั้งออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน รวมถึงประเทศไทย ผมคิดว่าสินค้าวินโดวส์ 8 จะประสบความสำเร็จในระยะยาว เพราะแพลตฟอร์มนี้เหมาะสมกับธุรกิจ ความท้าทายของเราคือการดึงให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับการใช้งานของอุปกรณ์วินโดวส 8 ให้มากที่สุด" ลีกล่าว
       
       คำว่าสินค้าวินโดวส์ 8 จะประสบความสำเร็จในระยะยาวนั้นสอดคล้องกับนักวิเคราะห์ เนื่องจากต้องยอมรับว่าสินค้าตระกูลพกพาที่เป็นวินโดวส์นั้นยังมีความต้องการที่น้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งเช่น ไอโอเอส (iOS) หรือแอนดรอยด์ (Android) ทั้งหมดนี้ ลียืนยันว่าซัมซุงจะเปิดผลิตภัณฑ์ให้ครบทุกแพลตฟอร์ม เพื่อให้มีสายผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์
       
       สำหรับตลาดไทย ลีทิ้งท้ายว่าไทยเป็นหนึ่งในตลาดเอเชียที่มีผลตอบรับดีมาก โดยระบุว่าภูมิใจทีมงานไทยที่มีส่วนช่วยให้ซัมซุงเป็นแบรนด์โทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ในไทยขณะนี้
       
       "ตัวเลขจาก GFK ระบุว่าเรามีส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือไทยรวม 40% เฉพาะสมาร์ทโฟนคิดเป็น 50% เราเป็นอันดับ 1 อย่างชัดเจนในหลายตลาด รวมถึงตลาดทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้า เชื่อว่าทิศทางต่อไปในตลาดไทยก็จะเติบโตตามเทรนด์โลก"
       
       Company Related Link :
       Samsung

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
3107 Views
Last post November 16, 2011, 02:14:00 PM
by Nick
0 Replies
2617 Views
Last post March 07, 2012, 03:25:49 PM
by Nick
0 Replies
1927 Views
Last post May 29, 2012, 07:42:30 PM
by Nick
0 Replies
1931 Views
Last post June 01, 2012, 10:36:58 PM
by Nick
0 Replies
1937 Views
Last post June 06, 2012, 02:22:05 AM
by Nick
0 Replies
1958 Views
Last post June 07, 2012, 04:46:58 PM
by Nick
0 Replies
1944 Views
Last post June 21, 2012, 04:14:38 PM
by Nick
0 Replies
1856 Views
Last post June 24, 2012, 02:26:21 PM
by Nick
0 Replies
2034 Views
Last post July 16, 2012, 08:36:46 PM
by Nick
0 Replies
2079 Views
Last post September 07, 2012, 07:42:23 PM
by Nick