Author Topic: “ท่านมุ้ย” แจงเรื่องล้มละลาย เผยชนะมาแล้ว 2 ศาล แต่ไม่รู้ไปยื่นฟ้องฎีกาตั้งแต่เมื่อไหร่  (Read 936 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ท่านมุ้ย” เผย ความคืบหน้าหนังเพชรพระอุมา พร้อมเปิดใจกรณีโดนศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ในคดีล้มละลาย แจงเป็นคดีเก่ามากแล้ว และมีการสู้จนชนะมาแล้ว 2 ศาล แต่ 5 ปีให้หลังกลับมีการยื่นฟ้องศาลฎีกา โดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่อง แต่ไม่รู้สึกกังวลใจ เพราะตัวเงินน้อยมาก
       
       “หม่อมเจ้า ชาตรีเฉลิม ยุคล” หรือที่รู้จักกันดีในนามของ “ท่านมุ้ย” ได้เดินทางมาร่วมงานมหกรรมประกวดหนังสั้น 9 นาที “AMAZING THAILAND 9 FILMFEST” ที่พารากอน ได้พูดถึงโปรเจกต์หนังที่จะทำต่อจากพระนเรศวร คือเรื่อง “เพชรพระอุมา” นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังเปิดใจถึงกรณีที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ในคดีล้มละลาย ว่า เป็นคดีเก่ามากแล้ว และมีการสู้จนชนะมาแล้ว 2 ศาล แต่ 5 ปีให้หลังกลับมีการยื่นฟ้องศาลฎีกาโดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่อง แต่ไม่รู้สึกกังวลใจเพราะตัวเงินน้อยมาก
       
       “สำหรับเรื่องเพชรพระอุมา ตอนนี้ก็ถ่ายไปบ้างแล้วแต่ยังบอกไม่ได้ว่าใครเล่น แต่ถามว่าเป็นนักแสดงจากพระนเรศวรไหม ก็มีทั้งใหม่บ้างเก่าบ้าง เราจะเลือกให้ใกล้เคียงกับในหนังสือจะให้เหมือนที่เขาเขียนเอาไว้คงหายากจะให้เป๊ะเลยคงไม่ได้ และจะได้เห็นกันในวันเปิดตัว สำหรับการถ่ายทำจะเป็นแบบสามมิติ จริงๆ แล้วมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่พอเป็นซีจีแล้วมันก็ค่อนข้างจะยาก”
       
       “ส่วนเรื่องคดีมันเกิดขึ้นมานานแล้ว เราชนะไปสองศาลแล้ว จริงๆ เหลือศาลเดียว คือ ศาลฎีกาเราคิดว่าน่าจะชนะอยู่แล้ว แต่ที่ข่าวออกมาคงเพื่อบีบเราก็ให้ทนายไปจัดการ จริงๆ ผมไม่รู้เรื่องอะไรมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับทนายให้ทนายไปจัดการ ก็ไม่วิตกกังวลอะไรเลยเงินมันน้อยมาก”
       
       “เรื่องมันเก่ามากตั้งแต่สมัยบ้านเก่า มันก็คือเรื่องที่เราปล่อยหลุดไปตั้งนานแล้ว และคดีนี้ก็หมดอายุความไปนานมากแล้ว ซึ่งอันนี้เขาก็ไม่สู้นะเพียงแต่ว่ามันมีบริษัทเขามาซื้อหนี้เน่ามาแล้วก็เอามาฟ้อง เรื่องเครดิตผมไม่กลัวกระทบผมไม่เคยยุ่งเรื่องเงินอะไรเลย ไม่เคยมีเงินใช้เช็คอะไร มีดีวีดีซึ่งเป็นลิขสิทธิ์กับกรุงศรีเท่านั้น ทนายเขาก็ดำเนินการมาตั้งเนิ่นนานไปเพียงแต่ว่าเขาประมาทเกินไป เพราะเราชนะมาแล้วสองศาล คือ ศาลชั้นต้นกับศาลอุธรณ์ แต่มาสุดท้ายนี่ผมไม่รู้เรื่องเลยว่าอีก 5 ปีต่อมาเขาไปฟ้องฎีกาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาต้องรีบๆ เพราะอยากได้เงิน จริงๆ เรื่องนี้ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะให้ทนายจัดการตั้งแต่ต้น”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)