2 ยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมอย่างทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก พร้อมใจเปิดตัวคุณสมบัติใหม่ในบริการของตัวเองเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคและนักลงทุนมากขึ้น ครั้งนี้ทวิตเตอร์ขอเพิ่มคอนเทนต์เช่นแกลเลอรีวิดีโอ คลิปเสียง และเนื้อหาข่าวยาวให้สาวกสามารถชมได้มากกว่าเดิม ด้านเฟซบุ๊กโชว์ระบบ Facebook Exchange เพื่อให้นักโฆษณาสามารถเข้าถึงชาวออนไลน์ได้ดีกว่า
ทวิตเตอร์ บริการรับส่งข้อความสั้น 140 ตัวอักษรที่ชาวออนไลน์นิยมใช้เพื่อรับข่าวและส่งสารถึงกันว่ากำลังคิดหรือทำอะไรอยู่ ได้ประกาศอัปเดตคุณสมบัติใหม่ในส่วน “expanded tweet” เมื่อวันพุธที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผลคือจากเดิมที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์จะสามารถชมภาพหรือวิดีโอบางส่วนของเนื้อหาที่ปรากฏในลิงก์ข้อความทวีต วันนี้คอนเทนต์ที่มีความหลากหลายมากกว่าเดิมจะถูกแสดงเพิ่มขึ้น เช่น บทความข่าว, แกลเลอรีวิดีโอ และคลิปเสียง
เช่นในกรณีมีการส่งลิงก์ข่าวในระบบทวิตเตอร์ ผู้ใช้ทวิตเตอร์จะสามารถอ่านพาดหัวข่าว, รายละเอียดข่าวย่อหน้าแรก, วิดีโอข่าว รวมถึงชื่อบัญชีทวิตเตอร์ของสำนักข่าวและตัวนักข่าวในบางครั้ง ทั้งหมดนี้เริ่มใช้งานแล้วในข่าวของสำนักวอลล์สตรีทเจอร์นัล, เอ็มเอสเอ็นบีซี (MSNBC) และไทม์
นอกจากข่าว ผู้ใช้ทวิตเตอร์สามารถชมภาพจากเว็บไซต์อย่าง WWE และสามารถชมคอนเทนต์อินเตอร์แอ็กทีฟจากบริษัทบรอดคาสต์อย่าง BET พร้อมกับคอนเทนต์จากเว็บไซต์พันธมิตรที่ปรากฏในรายชื่ออย่าง The San Francisco Chronicle, Der Spiegel Online, Buzzfeed, TMZ, Lifetime และ Dailymotion
ความเคลื่อนไหวนี้ล้วนเสริมเขี้ยวเล็บให้ทวิตเตอร์เป็นสื่อที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยก่อนหน้านี้ expanded tweet สามารถแสดงเพียงวิดีโอจาก YouTube และภาพถ่ายจาก Instagram หรือ Photobucket เท่านั้น ซึ่งการขยายขีดความสามารถที่ผู้ใช้จะได้รับ ย่อมทำให้ทวิตเตอร์มีโอกาสในธุรกิจโฆษณาออนไลน์มากขึ้นตามไปด้วย
การปรับปรุงครั้งนี้จะมีผลต่อผู้ใช้แอปฯ Twitter for iPhone ส่วนผู้ใช้ Twitter for Android จะสามารถใช้งานได้ในเร็ววัน
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากทวิตเตอร์เริ่มต้นทำการตลาดบริการ hashtag page อย่างจริงจัง เห็นได้ชัดจากการเปิดตัวโฆษณาทีวีเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าบริษัทจัดอีเวนต์การแข่งขันกีฬาสามารถทำประชาสัมพันธ์ผ่านทวิตเตอร์ได้ดีกว่าเดิม โดยทวิตเตอร์จับมือกับรายการแข่งรถยอดนิยมในสหรัฐฯ อย่าง NASCAR ทำให้สาวกนักแข่งรถสามารถติดตามทวิตเตอร์ของนักแข่งและทีมงานได้อย่างใกล้ชิดกว่าการติดตามจากเว็บไซต์ทางการ ทั้งหมดนี้เป็นข่าวหลังจากทวิตเตอร์เปลี่ยนโฉมสัญลักษณ์โลโก้ใหม่ซึ่งดูเพรียวบางกว่าเดิม
***แจ้งเกิด Facebook Exchange พร้อมกับข่าวการปรับบริการของทวิตเตอร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊กจะประกาศเปิดตัวโครงการ Facebook Exchange ซึ่งจะทำให้นักการตลาดสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้จากประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ต
Facebook Exchange นั้นถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญ เพราะที่ผ่านมาโลกเข้าใจว่าข้อมูลที่เฟซบุ๊กสามารถนำไปเสนอให้นักการตลาดนั้นจะจำกัดเฉพาะประวัติการใช้งานเฟซบุ๊กเท่านั้น เช่น การกด Like แบรนด์สินค้า, หนังสือ ร้านอาหาร หรือบริการของผู้บริโภค แต่วันนี้โครงการ Facebook Exchange จะครอบคลุมถึงประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ไม่เกี่ยวข้องกับเฟซบุ๊กด้วย
บลูมเบิร์กระบุว่า คอมพิวเตอร์ทั่วไปจะจดจำประวัติการใช้อินเทอร์เน็ตจากไฟล์จิ๋วที่ถูกส่งมาเก็บในเครื่องเพื่อให้การเปิดเว็บไซต์เป็นไปอย่างราบรื่นอย่างไฟล์ cookies ซึ่งหากเว็บไซต์เหล่านี้ถูกเชื่อมกับ Facebook (ผ่านปุ่ม Like ที่ปรากฏอยู่บนเพจเว็บไซต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน) ข้อมูล cookie ก็จะถูกแชร์เมื่อผู้ใช้เข้าสู่เฟซบุ๊กในเวลาถัดมา
วันนี้ นักโฆษณาจะสามารถแสดงผลโดยอิงตาม cookie เหล่านี้ เช่น หากผู้ใช้คนใดสนใจซื้อรถคันใหม่และเคยเปิดอ่านเว็บไซต์ทดลองขับรถรุ่นใหม่ คอมพิวเตอร์ของคนเหล่านั้นจะแจ้งข้อมูลนี้ต่อเฟซบุ๊ก ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้รายนี้เห็นโฆษณารถบนเฟซบุ๊ก
อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กยืนยันว่าข้อมูลประวัติการเปิดเว็บไซต์เหล่านี้จะถูกประมวลผลแบบเรียลไทม์เท่านั้น โดยจะอิงจากความสนใจ ไม่เกี่ยวข้องกับการล้วงความลับการใช้งานเว็บไซต์ของผู้บริโภคแต่ละคน
ข้อมูลระบุว่า นักการตลาดจะต้องประมูลเพื่อหาผู้ที่สามารถแสดงโฆษณาบนหน้าประวัติของผู้ใช้แต่ละคน โดยบลูมเบิร์กระบุว่าบริษัทที่ร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการนี้ชุดแรก ได้แก่บริษัทอย่าง TellApart, AppNexus และ Adroll.com
ดูเหมือนว่าสาวกเฟซบุ๊กจะไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะหากมีการปิดหรือ opt out โฆษณาจากโครงการ Exchange เฟซบุ๊กก็จะยังสามารถใช้ข้อมูลประวัติการเปิดเว็บไซต์กับโฆษณาที่ไม่อยู่ในโครงการหรือ non-Exchange ads อยู่ดี
Company Related Link :
Facebook
Twitter
ที่มา: manager.co.th