Author Topic: เซอร์ไพรส์ 2 เด้ง “จา พนม” เผยซุ่มแต่งตั้งแต่ปี 53 ตอนนี้เมียท้องเดือนกว่าแล้ว  (Read 1001 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




       แต่งแล้วจ้า! “จา พนม” ควง “น้องบุ้งกี๋” ฉลองวิวาห์หวานชื่น เจ้าตัวประกาศข่าวเซอร์ไพรส์ 2 เด้ง บอกตนซุ่มแต่งงาน-จดทะเบียนกันตั้งแต่ปี 53 และตอนนี้เมียกำลังท้องเดือนกว่า แจงที่ปิดข่าว เพราะติดผู้ใหญ่ อีกทั้งต้องถ่ายหนัง พร้อมเผยวินาทีรู้ว่าเป็นพ่อคนมันสุดยอดมาก
       
       จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นคู่ล่าสุด สำหรับพระเอกนักบู๊ “จา ทัชชกร (พนม) ยีรัมย์” และแฟนสาวนอกวงการที่อายุน้อยกว่าถึง 13 ปี “น้องบุ้งกี๋ ปิยรัตน์ โชติวัฒนานนท์” ทายาทเจ้าของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดระยอง หลังจากคบหาดูใจกันมา 3 ปี วันนี้ (3 พ.ค.) หนุ่มจา ก็ถือฤกษ์ดีจัดงานฉลองมงคลสมรสขึ้นที่ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ โดยมี “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” เป็นประธานในพิธี
       
       ซึ่งก็ทำเอาเซอร์ไพรส์ไปตามๆ กัน เมื่อพระเอกนักบู๊เบอร์หนึ่งของวงการได้ประกาศ ว่า จริงๆ แล้วตนและแฟนสาวได้จัดพิธีแต่งงานกันไปตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม ปี 2553 ที่โรงแรมดราก้อนบอล ระยอง แล้ว โดยมีแหวนเพชรแลกกันคนละ 1 กะรัต ทั้งนี้ ยังได้จดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 29 ธันวาคม ปีเดียวกัน แต่ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะติดผู้ใหญ่ และตอนนี้ภรรยาก็กำลังตั้งท้องได้เดือนกว่าแล้ว
       
       บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่น มีคนดังในวงการบันเทิงทยอยมาร่วมยินดี อาทิ จีจ้า, หม่ำ จ๊กมก, ปรัชญา ปิ่นแก้ว, เจมส์ เรืองศักดิ์, พันนา ฤทธิไกร, อุ๋ย นนทรีย์ ฯลฯ โดยก่อนที่พิธีการต่างๆ จะเริ่มขึ้น เจ้าบ่าวได้ออกตัวว่า ตื่นเต้นมาก และเป็นวันที่มีความสุขมากๆ ก่อนจะเล่าย้อนวันที่ได้เจอเจ้าสาวครั้งแรก ว่า ทันทีที่เจอหน้าก็ปิ๊งเลย เป็นรักแรกพบ
       
       จา : “เราเจอกันตอนนั้นไปถ่ายองค์บาก 3 ก็เจอกันก็เจอเขาที่โรงแรม น้องเขาเอาสุกี้มาเสิร์ฟ แล้วกระหายน้ำ ก็เป็นรักแรกพบครับ ความประทับใจที่มีต่อเขา คือ เขาเป็นเจ้าสาวที่เข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ชีวิตผมขาดหายไป ปกติเราจะเป็นคนที่ทำงานจริงจังมาก บุ้งกี๋ ก็เป็นส่วนมาละลายตรงนั้น เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน ได้ศึกษาดูใจกันมาก็ 3 ปี ตั้งแต่ผมไปถ่ายหนังเรื่ององค์บาก ที่ระยอง ก็ชวนเขาไปวัด ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ประทับใจเขามาก ทำให้เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้แหละจะเป็นคนที่เราเลือก”
       
       บุ้งกี๋ : “พี่จาน่ารักค่ะ อัธยาศัยดี เป็นคนโรแมนติก เป็นคนน่ารัก อย่างเวลาคุยกัน บางทีพี่จาก็แอบมีเซอร์ไพรส์บ้าง”
       
       ตอนขอแต่งงานโรแมนติกแค่ไหน?
       
       จา : “เซอร์ไพรส์มากๆ เลย”
       
       บุ้งกี๋ : “วันนั้นจะนอนแล้วค่ะ กำลังดูทีวีอยู่ พี่จาเห็นละครก็เลยลงมาคุกเข่าบ้างว่าแต่งงานกันนะ ก็เลยบอกว่าทำไมต้องมาทำตามละครด้วย เขาก็บอกไม่ใช่ละครนี่เรื่องจริง”
       
       เจ้าบ่าวเผยถึงสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นแม่ของลูกว่า...
       
       จา : “คุณแม่เคยสอนว่า ถ้าเป็นผู้หญิงที่เราจะเลือกให้ชวนเขาไปวัดเลย ผมก็ชวนเขาไปวัดเลย วันนั้นเราก็ไปเคานต์ดาวน์กัน วันนั้นเป็นวันปีใหม่จนถึง 7 โมงเช้า เขาอยู่ได้ ก็เลยมีความรู้สึกประทับใจเขา”
       
       รับอายุห่างกัน 13 ปี ทำให้ต้องมีการปรับจูนกัน
       
       จา : “ก็มีบ้างที่เราต้องมาจูนกัน จะมีปัญหาตรงที่เราเป็นคนจริงจัง แต่น้องเขามาช่วยเติมเต็มในส่วนที่หายไป ผมชอบร้องเพลง เขาก็ชอบร้องเพลง แม้กระทั่งพาไปหาผู้ใหญ่ เขาก็เข้ากับพ่อแม่เราด้วย พาไปพบเสี่ยเจียงเขาก็ชอบ เสี่ยก็อนุญาตเราก็เลยลุยต่อ”
       
       “โดยเฉพาะพ่อแม่น้องไฟเขียวให้เรา เลยมีโอกาสไปไหนมาไหนด้วยกัน เราเลยมีเวลาศึกษากันมากขึ้น เลยรู้ว่าเขาเป็นคนอัธยาศัยดี การบ้านการเรือน เราเหนื่อยมา เขาก็ทำอาหารให้ มีเมนูใหม่ๆ แปลกๆ ให้เราได้ชิม ซึ่งที่ผ่านมาผมไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้ เพราะทำงานเดินสายตลอด พอได้เจอน้อง เราได้ลดความจริงจังนั้น”
       
       เผยแต่งกันไปตั้งแต่ปี 2553 แต่ที่ไม่ได้จัดพิธีใหญ่โตหรือเปิดเผยเนื่องจากตนติดถ่ายหนัง
       
       จา : “เราเตรียมการมานั้นแล้วครับ 3 ปี แต่ว่าติดงาน เราจัดพิธีหมั้นกันไปแล้ว ทำพิธีแบบโบราณให้รู้ แต่ในเมื่อเราทำงานก็เป็นเรื่องนั้น เรามีพิธีตั้งแต่ปี 53 ช่วงที่มีข่าวตอนนั้น แต่งเสร็จเราก็ทำงานเพราะผู้หลักผู้ใหญ่อยากให้เราทำงาน แล้วก็หาฤกษ์รอไว้ สินสอดเราทำตามความเหมาะสม เราเองก็เต็มที่ ตรงนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่จัดการ เราเองผ่านการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ นั่นคือ การบวช ทำงานสร้างงานให้ประเทศชาติมาแล้ว พอบวชเสร็จแล้วต่อไปก็คือการมีครอบครัว สิ่งที่ทำนั้นอยู่บนความถูกต้อง”
       
       “ที่เราไม่เลี้ยงฉลองไปเลยตั้งแต่ปี 53 เพราะพอดีติดเรื่องของผู้ใหญ่ เราเองยังต้องมีการทำงาน ยังต้องเตรียมงานเรื่องต้มยำกุ้งภาค 2 ก็ปรึกษาเสี่ยและผู้ใหญ่หลายๆ ฝ่าย ก็โอเค เราก็เลือกทำแบบเรียบง่ายไปก่อน เราเองก็เป็นคนของสังคม เป็นคนของประชาชนด้วย ในความคิดของผมอยากให้เกียรติผู้หญิง เลยอยากจะจัดงานให้จริงจัง ก็เลยทำหน้าที่เรียบง่ายไปก่อน แล้วเราก็ทำงาน ฝากให้พ่อแม่ดูฤกษ์ดูยามให้ ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ระยองตลอด”
       
       ส่วนคำมั่นสัญญาทั้งคู่บอกว่า...
       
       จา : “เป็นสัญญาใจมากกว่าที่เราจะดูแลซึ่งกันและกัน”
       
       บุ้งกี๋ : “พี่จาเขาก็ให้สัญญาใจ คนเราต้องมีความเชื่อใจกัน แค่นั้นเองค่ะที่เป็นสิ่งสำคัญ”
       
       จา : “เรื่องฮันนีมูนยังเลยครับ มีแต่พาไปสุรินทร์อย่างเดียวเลย เพราะช่วงนี้ต้องเร่งถ่ายหนังต้มยำกุ้ง 3D”
       
       เซอร์ไพรส์เรื่องแต่งงานตั้งแต่ปี 53 แล้ว “จา” ยังประกาศเซอร์ไพรส์ก๊อกสองด้วยว่า ตอนนี้ภรรยากำลังตั้งท้องเดือนกว่า
       
       จา : “ตอนนี้ไปอัลตราซาวนด์มาแล้ว 2 ครั้ง ก็ประมาณเดือนกว่าครับ ที่โรงพยาบาลเวชธานี นาทีที่รู้ว่าเป็นพ่อมันสุดยอดมาก ผมเห็นในอัลตราซาวนด์แล้วเห็นเขา มีหัวใจเล็กๆ เราก็คิดว่าอยู่กันมา 3 ปี เราต้องมีน้ำยาสิ เป็นเลือดเป็นเนื้อเรา ครั้งแรกของลูกผู้ชายอีกครั้งนึง บวชแล้ว เบียดแล้ว นี่ก็มีลูกแล้ว ลูกเราต่อไปก็อาจจะเป็นโทนี่จาน้อย”
       
       “ต่อไปก็ต้องบู๊อย่างมีสติ บู๊อย่างมีพลัง ต้องซ้อมร่างกายให้ฟิตเสมอ ไม่ปล่อยปละละเลย เรามีลูกแล้วมันเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราคิดต่อ ให้เรามองภาพอนาคตต่อไป ผมก็มองไว้ว่าอยากมี 2 คน ชายคนหญิงคน ผมว่ากำลังดี แต่ก็อยากจะให้เป็นผู้ชายก่อน แต่แน่นอนเรายังทำงานบู๊เหมือนเดิม และคงมีอะไรแปลกๆ ให้ดูกันเพราะได้ไอเดียใหม่ จะมีสีสัน มีความรักเพิ่มมากขึ้นเพราะมีน้องบุ้งกี๋มาช่วยเติมเต็ม อาจจะได้เห็นภาพใหม่ๆ ของจา”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)