“อเล็กซ์ ฮัตชินสัน” ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ของเกม “Assassin’s Creed 3″ ออกมาเปิดเผยถึงการพุ่งโฟกัสทำแต่เกมระดับบล็อกบัสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่และเน้นเพียงแค่กราฟฟิกนั้น ไม่ต่างอะไรไปจากไดโนเสาร์หลงยุค ถึงแม้ว่าซีรีย์เกมแอสซาซินครีด จะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทำเงินได้อย่างมากมายมหาศาลให้กับทางยูบิซอฟต์ ซึ่งในแต่ละภาคที่ออกมาก็ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดในแง่ของพลังกราฟฟิกและขนาดของตัวเกมที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่าหนึ่งในทีมผู้พัฒนาคนสำคัญของเกมภาคสามในซีรีย์กลับไม่คิดอย่างนั้น เมื่อล่าสุดทาง “อเล็กซ์ ฮัตชินสัน” (Alex Hutchinson) ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ของเกมแอสซาซินครีด 3 ได้ขึ้นกล่าวบรรยายที่งาน GDC 2012 ในหัวข้อ “Designing Games to Sell” โดยเขาทำนายว่า “อุตสาหกรรมเกมในภายภาคหน้าจะมีอนาคตอันมืดมนรออยู่สองแบบ หนึ่งคือจะมีเพียงเกมที่ทำออกมาขายเพื่อคะแนนวิจารณ์ ส่วนอีกแบบคือจะมีแต่เกมที่ลุ่มหลงกับการทำเงินเข้าบริษัท” โดยทางฮัตชินสัน ได้ให้คำจำกัดความว่า “มันเป็นเหมือน ‘การแข่งขันหลายฝ่าย’ (Massive Arms Race) ซึ่งบรรดาสตูดิโอพัฒนาเกมจะถูกผลักดันให้สร้างเฉพาะเกมที่ยึดติดกราฟฟิกและต้องทำเกมที่ใช้ทุนสร้างขนาดใหญ่ เราคิดว่าการแข่งขันรูปลักษณะนี้มันเปรียบเสมือนเนื้องอก และผมคิดว่าเกมระดับบล็อกบัสเตอร์ทั้งหลายไม่ต่างอะไรไปจากพวกไดโนเสาร์ตัวสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่”
อย่างไรก็ตามทางฮัตชินสัน ก็ได้กล่าวสรุปปิดท้ายด้วยการนำเสนอทิศทางที่ดีที่สุดสำหรับวิดีโอเกมส์ว่า “ในความคิดของผม วิดีโอเกมส์นั้นจำเป็นต้องมีเป้าหมายหลักในการให้ความรู้และความบันเทิงแก่ผู้เล่นหรืออย่างน้อยก็ทำออกมาให้เป็นศิลปะ หากคุณไม่ใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในเกมแล้วละก็ ผมคิดว่าเราคงกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ผิด”
ที่มา Manager