รมว.ไอซีที เร่งสรอ.บูรณาการข้อมูลภาครัฐไปสู่ยุคอิเล็กทรอนิกส์ให้เสร็จภายใน 4 ปี ด้านสรอ.ขานรับพร้อมประกาศ 4 พันธกิจหลักผลักดันภาครัฐของไทยก้าวสู่ยุค Smart Government เชื่อช่วยลดงบประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีทีกล่าวว่าเป้าหมายในการผลักดันให้เกิด Smart Government ด้วยการให้ภาคประชาชนได้บริการที่ดียิ่งขึ้น จำเป็นต้องเร่งให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิคส์ (สรอ.) คิดค้นโครงการที่มีผลต่อการปรับเปลี่ยนภาครัฐไปสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างรวดเร็ว และใช้ต้นทุนต่ำ รวมทั้งเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานรัฐที่มากกว่าหนึ่งหน่วยงานเข้าด้วยกัน ตัวอย่างที่จะได้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม เช่น โครงการรับจำนำข้าวทั่วประเทศ หรือโครงการอื่นๆอีกจำนวนมากที่จะเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเชื่อมข้อมูลแต่ละหน่วยงานถึงกันได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการบริการไปสู่ภาคเอกชน โดยบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ต้องสามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น คาดว่าภายในครึ่งปีนี้จะเริ่มมีบริการต่างๆของภาครัฐทยอยเข้ามาใช้ระบบฐานข้อมูลบัตรประชาชน
'เราเชื่อว่าภายในปลายปี 55บัตรประจำตัวประชาชน สมาร์ทการ์ดจะสามารถใช้ประโยชน์จากอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ข้างในตัวบัตรได้มากกว่าเดิม เนื่องจากจะมีหน่วยงานภาครัฐประมาณ10 หน่วยงานเปิดบริการ e-services โดยใช้บัตรประชาชนเป็นฐานข้อมูล'
ขณะที่ นายศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ สรอ.กล่าวว่า จากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของสรอ. เพื่อเข้ามาดูแลทั้งโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ และการบริหารจัดการโครงการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล โดยมี 4พันธกิจคือ1.สร้างเครือข่ายและพัฒนาความรู้ไปสู่การเป็น Smart Governmentควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรไอทีภาครัฐ 2.สร้างโครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชั่นร่วม อาทิ ดาต้า เซ็นเตอร์ของภาครัฐ 3.ยกระดับ e-Service และบูรณาการBack officeด้วยการทำให้แต่ละหน่วยงานภาครัฐสามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน และ4.สร้างสถาปัตยกรรมและมาตรฐานให้เกิดขึ้นในระบบไอทีภาครัฐ
'งบประมาณสรอ.ที่ได้รับในปี 55 ประมาณ 600 ล้านบาท โดยจะใช้ในการพัฒนาเรื่องเน็ตเวิร์กและพัฒนาบุคลาการเพื่อให้สามารถดำเนินงานสอดรับกับนโยบายไอซีทีต่อไป'
สรอ.คาดว่าจากการบูรณาการข้อมูลภาครัฐที่จะนำไปสู่เอกสารที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นจะช่วยให้ลดงบประมาณในการนำไอทีไปใช้ในภาครัฐได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยเชื่อว่าภายใน 4 ปีข้างหน้า สรอ.จะก้าวสู่เป้าหมายที่จะต้องทำให้เอกสารภาครัฐเป็นอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร และต้องเข้าไปแทรกอยู่ทุกกระบวนการทำงานให้บริการประชาชน โดยที่ไม่ต้องนำสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน เพราะสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทการ์ดได้โดยตรง และข้อมูลสามารถดึงเชื่อมกันได้ด้วยมาตรฐานเดียวกันรวมถึงบริการไอที เซอร์วิสของภาครัฐ
ทั้งนี้ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งานผ่านระบบ Cloud Computing โดยต้องเข้าสู่ระบบจ่ายตามการใช้งานจริง ใช้น้อยจ่ายน้อย ใช้มากจ่ายมาก โดยที่ระยะเวลาการดำเนินงานโครงการไอทีของภาครัฐ ลดลง 30-50 % และหน่วยงานภาครัฐต้องสร้างการทำงานในแบบทำงานที่บ้านได้ ผ่านโครงสร้างสาธารณูปโภคทางด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพมีการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ไอทีของภาครัฐไปสู่การเป็นเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ (Project Manager) และเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล (MIS Manager) นอกจากนั้นต้องมีการซ้อมแผนสำรองฉุกเฉินเป็นแนวปฏิบัติทั่วไปของหน่วยงานรัฐขึ้นมา
Company Related Link :
กระทรวง ICT
ที่มา: manager.co.th