"ณัฏฐ์" โล่งใจ 2 เด้ง คู่กรณีหายดีออกรพ.แล้ว แถมไม่ติดใจเอาความ

[Nick]

"ณัฏฐ์" สุดโล่งคู่กรณีที่ตนขับรถชนหายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้ว คาดคงไม่ถึงขั้นเป็นคดีความเพราะครอบครัวคู่กรณีไม่ติดใจเอาความ ฝากเตือนคนขับรถให้มีสติ โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้
       
       หลังจากเกิดอุบัติเหตุพระเอก "ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" ขับรถชน "นายอภิวัฒน์ ควรหา" ที่จังหวัดระยองจนคู่กรณีบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดทำเอาหนุ่มณัฏฐ์ยิ้มออกหลังอีกฝ่ายหายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้วเรียบร้อย แถมครอบครัวยังไม่ติดใจเอาความ เพราะเห็นว่าหนุ่มณัฏฐ์ดูแลทุกอย่างให้เป็นอย่างดี
       
       "เขากลับบ้านตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม แล้วครับ ก็ปลอดภัยดี ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลเราจ่ายให้หมด ทางประกันจ่ายให้หมดแล้วก็เรื่องของค่าเสียหายของมอเตอร์ไซค์ทางประกันก็ดูแลให้ รถผมก็ซ่อมอยู่ใกล้เสร็จแล้ว"
       
       "อาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ตอนนั้นที่บอกว่าปากฉีก คุณหมอก็เก่งมากเพราะเป็นมือหนึ่งศัลยกรรมของโรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ก็เย็บให้เนียนมาก ตอนนี้ก็เป็นรอยนิดหน่อย กรามก็เข้าที่ดีทุกอย่าง แขนก็เกือบหายหมดแล้ว คือเขาไม่ได้ใช่วิธีเข้าเฝือก เข้าใช้ผ่าแล้วก็ดามเลย เพราะว่าแผลมันจะหายเร็วมาก ครั้งสุดท้ายตอนที่ผมไปรับเขาที่บ้าน แผลก็สมานดีหมดแล้ว ก็มีบ่นปวดท้องนิดหน่อยแต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็คือเดินได้ตามปกติเพราะช่วงล่าง ขา ไม่ได้เป็นอะไร"
       
       "บ้านนั้นเขาน่ารักครับ เขาเห็นที่ว่าเราดูแลอย่างดี เขาก็ไม่อะไรเลย เขาพูดกับเราดีมากตั้งแต่แรกเลยนะ เราก็เลยรู้สึกว่าเขามีน้ำใจนะ เขาก็เข้าใจว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น พี่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไรตั้งแต่วันแรก ผมก็ใจสั่น ไปเจอพี่เขาครั้งแรกไม่รู้พี่เขาโกรธผมหรือเปล่า ผมก็เดินไปไหว้พี่เขาเลยนะ พี่ผมขอโทษจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมก็สั่นแล้วเขาเห็นว่าเราแย่ เขาก็เอื้อมมือมาจับผมแล้วก็บีบมือผมบอกไม่เป็นไร”
       
       “เขาก็น่ารัก ตอนนั้นผมน้ำตาจะไหล คืออย่างน้อยเรารู้เขาให้อภัยเรา ไม่ได้ติดใจอะไรเรา เราก็ใจชื้นละ ที่เหลือเราก็ดูแลเขาได้ ก็ดูแลจนกว่าเขาจะหายดี กลับมาปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็เห็นว่าเราดูแลดี ไม่ได้คิดจะหนีไปไหนหรือไม่รับผิดชอบ เวลามาที่ระยองทุกอาทิตย์ก็จะหาเวลาไปเยี่ยมพี่เขา อยู่ที่หาดแม่พิมพ์
       
       “ช่วงนี้ไม่ได้ขับรถเลยครับ คือมันก็ยังติดตาอยู่นิดหนึ่ง แต่ไม่ได้แย่ถึงขนาดขับรถไม่ได้เลย แต่ผมช่วงนี้ทำงาน 7 วันเลยไม่ขับดีกว่า เราก็คงระวังขึ้นเยอะถ้าจะขับรถ ปกติเป็นคนระวังอยู่แล้ว อุบัติเหตุเราก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องแก้ปัญหาให้ดีที่สุด"
       
       เผยคิดว่าคงไม่ถึงขั้นเป็นคดีความกันเพราะคู่กรณีไม่ได้ติดใจอะไร
       
       "คิดว่าคงไม่ถึงขั้นเป็นคดีอะไรขนาดนั้น เพราะว่าทางเราก็ดูแลเขา เขาก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ก็ให้ตำรวจจัดการ ตอนนี้ก็ให้คุณแม่ดูแลทางนี้เพราะผมต้องทำงาน เราก็หวังไว้ในใจว่าคงไม่เป็นคดี เพราะเราก็ทำทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ก็ดูแลเขาเต็มที่ เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ผมเห็นเขาหายออกจากโรงพยาบาลผมก็โล่งใจแล้ว ไม่ใช่ว่าผมไม่สนใจเรื่องคดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือคนเจ็บ ยิ่งเขาหายออกจากโรงพยาบาลเร็วเท่าไหร่เราก็ยิ่งใจชื้นมาเท่านั้น เรื่องคดี เรื่องรถ ก็ให้เป็นเรื่องของขั้นตอนไป รถมันก็ซ่อมได้ นอกจากนี้ก็ให้เป็นหน้าที่ของแต่ละคน"
       
       ทิ้งท้ายเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้รู้จักขับรถอย่างระมัดระวังและไม่ตั้งอยู่บนความประมาท
       
       "มันคงเป็นเรื่องของสติครับ เราโชคดีที่เรายังมีสติ และเราก็ทำทุกอย่างที่ควรจะทำตามขั้นตอน คืออย่างแรกส่งพี่เขาไปโรงพยาบาลก่อน ไปที่สถานีตำรวจ โทรเรียกประกัน จัดการทุกอย่าง ถ้าไม่มีสติผมคงหลุด เหวอแล้วก็คงทำอะไรไม่ถูก"
       
       "อยากจะฝากไว้นิดหนึ่งแล้วกันนะครับปีใหม่ คนก็คงจะขับรถออกต่างจังหวัดกันเยอะนะครับ ขับรถให้ระวัง ระวังแล้วก็อย่าประมาท อย่าคิดว่าไม่เป็นไร ขับรถมาชินแล้ว ผมขับรถมากี่ปีแล้วไม่เคยชนยังเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นเลย ถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วก็ขอให้มีสติแล้วกัน เพราะว่าการที่เรามีสติเราจะจัดการและแก้ไขทุกอย่างได้ทันท่วงที"

ที่มา: manager.co.th