“ฮาเวิร์ด” โอดมีข่าวฉาวถี่ทำเอางานหดจนต้องพับโครงการซื้อบ้านให้แม่ รับช่วงวัยรุ่นทำแต่เรื่องแย่ๆให้แม่เสียใจเลยขอบวชทดแทนบุญคุณ เจ้าตัวพ้อฉาวจัดจนไม่กล้าหวังว่าสังคมจะให้โอกาสอยู่ในวงการอีกหรือไม่ พร้อมให้สัญญากับตัวเองต่อไปนี้จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด
หลังตกเป็นข่าวฉาวถูกจับข้อหามีกัญชาไว้ในครอบครอง แต่คดียังเคลียร์ไม่จบนักร้องหนุ่ม “ฮาเวิร์ด หวัง” ก็ถูก "หมวย พิลาวรรณ อารีรอบ" สาวแม็กซิมปี 2010 ซึ่งเป็นอดีตแฟนสาวเข้าแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายซ้ำอีกคดี เรียกว่าเพียงระยะเวลาสั้นๆ หนุ่มฮาเวิร์ดก็เจอไปหลายกระทง ส่งผลให้งานที่มีอยู่ถูกยกเลิกหมด ทำเอาเจ้าตัวต้องก้มหน้ารับสภาพ แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าตัวเสียใจที่สุดก็คือต้องพับโครงการที่จะซื้อบ้านให้แม่ไปก่อนเนื่องจากยังไม่มีเงิน ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแบบหมดไส้ว่า…
“ตอนนี้เรื่องคดีกับแฟนเก่านั้นเคลียร์กันจบแล้ว ผมเอาเงินไปคืนเขาเป็นจำนวนหนึ่งแสนบาท ทางด้านคุณแม่ผมก็ไปคุยขอโทษเขา จริงๆ มันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว เหมือนแฟนทะเลาะกัน แต่ผมผิดเองที่ไม่เข้าไปคุยเคลียร์กับเขาให้รู้เรื่อง หนีปัญหาก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมา แต่ทุกวันนี้เคลียร์ทุกอย่างหมดแล้ว และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ถึงอย่างไรผมก็อยากที่จะขอโทษเขาด้วย ที่ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่กับเขาทำตัวไม่ดี เจ้าชู้ไปนิดหนึ่ง (หัวเราะ) เรื่องกลับมาคืนดีคงไม่แล้ว ทุกวันนี้เราเป็นแค่เพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว”
“ส่วนเรื่องคดีมีกัญชาไว้ในครอบครองก็อยู่ในขั้นตอนการต่อสู้คดีอยู่ ตอนนี้ทนายกำลังเตรียมหลักฐานเอกสารและพยานบุคคลเพื่อรอการขึ้นศาล เพราะว่าตอนที่ผมโดนจับเป็นข่าว ผมตรวจปัสสาวะผลออกมาไม่มีสารเสพติดใดๆ ก็ไม่รู้ว่าใครไปแจ้งตำรวจจับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย กำลังยุ่งกับงานเพลงโปรโมทอัลบั้มอยู่ ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี แต่ก็มีคนมาดึงขาทำให้งานทุกอย่างหยุดลงหมดเลย”
“ยอมรับว่าตั้งแต่มีข่าวมีผลกระทบมาก ญาติๆ ที่ไต้หวันก็รู้ข่าวกันหมด ทุกคนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น อาจเป็นช่วงที่ดวงตกด้วย ช่วงนี้ชีวิตมีแต่เรื่อง มีคนแนะนำให้ผมไปขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร เพราะผมอายุ 25 ปี เบญจเพสพอดี ซึ่งตอนแรกผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่หลังๆ รู้สึกว่ามันก็แรง เวลาที่ดีก็ดีมาก พอช่วงไม่ดีก็ไม่ดีมากๆ ก็เลยอยากจะลองบวชดู มันอาจจะให้ผมมีสมาธิมีสติในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น ที่สำคัญอยากที่จะบวชทดแทนคุณให้คุณแม่ด้วย ผมทำเรื่องไม่ดี ทำให้เขาเสียใจมาเยอะ”
“โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นเป็นเด็กซน มีแต่ปัญหา หนีเรียนชกกันกับเพื่อน แล้วมาถึงจุดหนึ่งผมได้กลับไปไต้หวันไปเกณฑ์ทหารมาหนึ่งปี ก็ปรับปรุงชีวิตได้เยอะ ได้ความเป็นระเบียบวินัย อยู่ในค่ายมีความรู้สึกว่าคนอื่นที่อยู่ข้างนอกโชคดีมากที่ได้มีชีวิตอิสระ แต่เราอยู่ในค่ายทหาร ทุกเวลาทุกนาทีมีคนควบคุมว่าจะต้องทำอะไรตอนเช้าตื่นตีห้าล้างหน้าแปรงฟันเสร็จต้องไปกวาดพื้น เข้าแถวร้องเพลง เสร็จกวาดพื้นต่อ กว่าจะได้กินอาหารเช้าต้องทำอะไรหลายอย่าง เป็นชีวิตที่ไม่ได้ง่ายๆ ซึ่งความลำบากตรงนี้มันทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างและกลับมาเป็นคนดีให้คุณแม่อีกครั้ง”
“เจอเรื่องหลายเรื่องเข้ามาพร้อมกัน บางทีก็ทำให้แรงบันดาลใจหายหมดเหมือนกัน ไม่อยากไปซ้อมเต้น เครียดเต้นไม่ออก แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังออกกำลังกายเหมือนเดิม ดูแลสุขภาพไม่ยอมแพ้ ยังจะไขว่คว้าตามหาฝันของผมให้ได้เหมือนเดิม ผมรักงานเพลง ชอบเขียนเนื้อเพลงแร็พ และพยายามที่จะไปเรียนรู้เพิ่ม เพื่อพัฒนาฝีมือมีผลงานที่มีคุณภาพออกมาให้แฟนได้ชมได้ฟังกัน”
ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมหากสังคมไม่ให้อภัย แต่ยืนยันต่อไปนี้จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด
“ส่วนเรื่องความฝันที่จะซื้อบ้านให้คุณแม่คงต้องเบรกไว้ก่อน เพราะว่างานถูกยกเลิกไปเยอะอยู่ ต้องตั้งตัวใหม่เก็บเงินหาเงินต่อ ก็เลยต้องทำให้ตัวเองเก่งขึ้น สำหรับเรื่องโอกาสผมคงไปตัดสินไม่ได้ว่าสังคมจะให้โอกาสไหม แต่ตัวผมเองจะทำวันนี้ให้มันดีที่สุด ทำผลงานออกมาให้มีคุณภาพที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ถ้าสังคมไม่ให้โอกาสผมก็คงต้องยอมรับกับมัน”
เผยอย่างอารมณ์ดีว่าเชื้อพ่อมันแรงทำให้ได้ความเจ้าชู้มาเต็มๆ
“ถ้าความเจ้าชู้มาจากพ่อผม(หัวเราะ) เพราะผมได้ข่าวมาว่าตอนหนุ่มๆ พ่อผมมีแฟนเยอะมาก เรื่องสเปคผู้หญิงผมชอบคิดว่าถ้าคุยกันเข้าใจกันก็พอแล้ว ภายนอกดูดีภายในก็ต้องดูดีจิตใจดี แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปคบใครขอใช้ชีวิตเป็นหลักตั้งตัวให้ได้ก่อน ยังไม่มีเวลาที่จะไปผูกผันเรียนรู้กับใคร อยากที่จะตั้งใจทำงานมากกว่า ไม่ได้เข็ดกับเรื่องความรัก แต่มันก็ทำให้เราได้บทเรียน และเรียนรู้ว่าควรจะทำอย่างไรถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก สเปคชอบสาวผิวขาวหนุ่มๆ ตุ้มๆ อุ้มๆ กลับบ้าน (หัวเราะ)”
ที่มา: manager.co.th
