“น็อต วรฤทธิ์” นำร่อง ระดมเพื่อนดาราตั้งกลุ่ม Green Connect หวังฟื้นฟูคลองแสนแสบให้กลับมาใสเหมือนเดิม
"น็อต วรฤทธิ์" ตื่นตัว ระดมเพื่อนดาราตั้งกลุ่ม Green Connect เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เผยโครงการแรกที่ทำไปแล้วคือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ลั่นจะทำต่อเนื่องหลังจากน้ำลดด้วย พร้อมบอกตอนนี้กำลังเริ่มโปรเจกต์ใหม่ นั่นก็คือการฟื้นฟูคลองแสนแสบให้น้ำกลับมาใสสะอาดดังเดิม
นำร่อง "น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์" พร้อมด้วย "หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ, โบ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์, แพง พรรณชนิดา ศรีสำราญ, จินนี่ ธนิดา กาญจนวัฒน์" และ "ท๊อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี" รวมแก๊งจัดตั้งกลุ่มรักธรรมชาติ Green Connect โดยหวังเป็นกลุ่มคนเริ่มต้นที่ชักนำให้คนไทยหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น คาดว่าสมาชิกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทำกิจกรรมอนุรักษ์ต่างๆ ร่วมกันในอนาคต
น็อต: "กลุ่ม Green Connect นะครับ เรามารวมตัวกันได้ก็ต้องขอบคุณทางน้องจินนี่ น้องแพง น้องโบ หมอก้อง แล้วก็ท๊อปด้วยนะครับ ที่มีความตั้งใจเหมือนกันในการที่จะช่วยรักษาโลกใบนี้ของเราให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิมนะครับ"
แพง: “พวกเราทั้งหมดก็ทำงานในวงการเดียวกันและมีโอกาสได้เจอกันอยู่แล้ว เพราะเราชอบทำอะไรดีๆ ด้วยกัน ก็เลยมานั่งคุยกันว่าเรามาหาอะไรทำที่มันดีต่อสังคมและดีต่อโลกเราบ้างมั้ย ก็เลยเกิดโครงการนี้ขึ้นมา"
นอกจากรักษ์โลกแล้ว ยังมีการขายเสื้อเพื่อนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายช่วยเหลือน้ำท่วม..
น็อต: “กลุ่มเราเพิ่งก่อตั้งเมื่อต้นเดือนตุลาคมนี่เอง เริ่มทำเมื่อวันที่ 10 ต.ค. คือเราขายเสื้อที่เราใส่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อนำรายได้ทั้งหมดช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แล้วก็ได้นำบางส่วนไปมอบให้ชาวนครสวรรค์แล้วนะครับ แต่ก็ยังรับอยู่เรื่อยๆ ครับ ไม่ได้หยุดเท่านี้ จนกว่าภัยนี้จะหมดไป เราก็จะมีโปรเจกต์ใหม่ขึ้นมาอีกครับ"
แพง: “อาจจะเป็นการบูรณะหลังน้ำท่วม หรือหลังจากนี้เราก็จะมีกิจกรรมอื่นๆ อีก"
หมอก้อง: “อย่างกิจกรรมที่จะทำนี่คือการทำคลองแสนแสบให้ใสเหมือนเดิม ก็คือใส่ตัวบอลจุลินทรีย์ ก็ต้องประชาสัมพันธ์กันต่อๆ ไปว่าเข้ามาร่วมกับเราเยอะๆ หรือบริจาคก็ได้ เพื่อให้โปรเจกต์นี้ของเราประสบความสำเร็จและทำให้คลองแสนแสบกลับมาใสเหมือนเดิม"
น็อต: “เราจะทำกิจกรรมวันที่ 19 ต.ค. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เราต้องการ 2 หมื่นลูก ลูกละ 20 บาทเท่านั้นเองนะครับ ก็ช่วยคนละนิดคนละหน่อยเพื่อทำให้คลองแสนแสบของเราส่วนหนึ่งกลับมาใสสะอาดเหมือนเดิมครับ"
“จริงๆ แล้วกลุ่มเราเป็นจุดเริ่มต้น เริ่มต้นจริงๆ ตอนนี้คือ 6 คนนะครับ เราอยากให้ทุกคนไม่ว่าใครก็ตามที่อยากมีส่วนร่วมและอยากที่จะแสดงพลังในการรักษ์โลกนะครับ เข้ามาแสดงพลังกับพวกเราแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราคือปีแรก ปีอื่นก็จะมีเพิ่มอื่น และไม่ใช่ว่าเราจะหยุดนะครับ เราก็จะทำต่อไป"
โบ: “สมัครสมาชิกได้ทางเฟซบุ๊คกรีนคอนเนคนะคะ หรือไม่ก็ติดต่อพวกเราโดยตรงเลยค่ะ ทุกคนมีนามบัตร เจอที่ไหนก็ขอได้เลยค่ะ"
ทิ้งท้ายด้วยวิธีรักษ์โลกง่ายๆ ด้วยตัวเอง..
ท๊อป: “ง่ายๆ คือไม่ใช้ลิฟท์ครับ ใช้ขาตัวเองเบิร์นแคลอรี่ของเรา อย่างการใช้ลิฟท์เนี่ยเหมือนเราเปิดไฟพร้อมกัน 500 ดวง แบบนี้มันทำให้เปลืองทรัพยากร ถ้าเดินไม่กี่ชั้นก็เดินเถอะครับ เราจะได้แข็งแรงด้วย ส่วนน้ำก็ใช้น้อยหน่อย ผมว่าแต่ละคนมีวิธีการใช้แล้ว แต่ว่าลองคิดต่อยอดไปหน่อยว่า อย่างน้ำที่เราใช้ เราสามารถไปรดน้ำต้นไม้ต่อได้มั้ย ใครมีโปรเจกต์แบบนี้ก็สามารถคุยกับเราได้"
โบ: “เรื่องน้ำกับเรื่องไฟสำคัญที่สุด เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ช่วยกันประหยัดน้ำประหยัดไฟสำคัญที่สุดเลย"
น็อต: “คิดว่าบ้านทุกคนคงจะติดแอร์กันหมดใช่มั้ยครับ ลองปรับอุณหภูมิให้เหลือซัก 25 องศาเซลเซียส ก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ของแอร์ส่งความร้อนออกมาน้อยลงครับ เรื่องนี้ช่วยกันได้ทุกคนนะครับ"
หมอก้อง: “ตั้งเวลาปิดด้วยก็ดีครับ เพราะอย่างตอนเช้าตั้งเวลาไว้เลยจะได้ไม่ต้องลุกมาปิดตอนที่เราตื่น"
แพง: “ไม่เพิ่มขยะค่ะ พวกถุงพลาสติกหรือว่ากล่องพลาสติกต่างๆ เราเติมเอาก็ได้ค่ะ ฝากถึงทุกคนนะคะว่าสิ่งที่พวกเราทำไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียวหรือทำเอาหน้า เพราะเรามีโอกาสได้ทำเรื่องดีๆ ออกสื่อแบบนี้ก็อยากให้ทุกคนติดตามค่ะ"
น็อต: “เรื่องน้ำท่วมนี่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ทุกคน โดยอาจจะเกิดจากที่เรามักง่ายเกินไป สิ่งที่จะทำต่อหลังจากภัยน้ำท่วมจบ เราก็จะเข้าไปช่วยฟื้นฟูให้กับคนที่ประสบภัย และถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะให้กลุ่ม Green Connect เข้าไปให้ความรู้กับเยาวชนว่าที่น้ำท่วมเกิดจากอะไร มีวิธีป้องกันและรักษาอย่างไร"
หมอก้อง: “สิ่งสำคัญคือไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ณ วันนี้เราก็ต้องฟื้นฟูก่อน"
ท็อป: “จริงๆ ผมชอบได้ยินหลายคนพูดว่าน้ำมันก็ท่วมทุกปีแหละ แต่สำหรับผม ผมว่ามันไม่ได้ มันต้องหาทางแก้ ปีหน้าต้องไม่เกิดขึ้น และที่เกิดขึ้นแบบนี้เพราะว่าเราอาจจะสัพเพร่าคิดว่าเดี๋ยวมันก็มาแล้วก็ไปไม่ได้เลยครับ เพราะตอนนี้หนักมาก คราวหน้ามันจะหนักขึ้นหรือเปล่า เราต้องหาทางออกแล้วว่าเราต้องแก้ไขอะไรได้บ้าง"
น็อต: “ปีนี้เป็นปีแรกนะครับที่น้ำแข็งขั้วโลกละลายจนเราสามารถเดินทางจากรัสเซียไปอีกทวีปหนึ่งได้ และจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเรายังไม่ช่วยรักษานะครับ เราเริ่มจากจุดเล็กๆในประเทศของเรา ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อให้เหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นอีก"
ที่มา: manager.co.th