Author Topic: ซีอีโอแอปเปิล : ไม่มีคำใดอธิบายความเสียใจต่อการจากไปของ "สตีฟ จ็อบส์" ได้พอ  (Read 971 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


สตีฟ จ็อบส์ อดีตซีอีโอแอปเปิล ลาโลกแล้วเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 54

      ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอแอปเปิลส่งอีเมลแจ้งแก่ทีมงานแอปเปิลทั่วโลกว่า สตีฟ จ้อบส์ (Steve Jobs) ผู้ก่อตั้งบริษัทได้เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐฯ โดยในอีเมลระบุว่า"ไม่มีคำใดที่จะอธิบายถึงความเศร้าของทีมแอปเปิลต่อการจากไปของจ็อบส์ได้เพียงพอ"
       
       ในอีเมลของทิม คุกระบุว่าการเสียชีวิตของจ็อบส์ถือเป็นการสูญเสียอัจฉริยะผู้สร้างสรรค์และมอบวิสัยทัศน์ เช่นเดียวกับโลกที่สูญเสียบุคคลทรงคุณค่า โดยจิตวิญญาณของจ็อบส์จะเป็นรากฐานของแอปเปิลตลอดไป
       
       ทิมระบุว่าจะจัดงานแสดงชีวประวัติของจ็อบส์ในเร็ววันนี้ โดยจะเปิดให้ทีมงานแอปเปิลที่ต้องการเสนอความคิด รวมถึงความทรงจำเกี่ยวกับมือหนึ่งในโลกไอทีผู้ล่วงลับ สามารถส่งอีเมลมาได้ที่ rememberingsteve@apple.com
       
       "เราจะให้เกียรติความทรงจำของจ็อบส์ ด้วยการทุ่มเทแรงกายเพื่อสานต่องานที่เขารักมากที่สุด"
       
       สตีฟ จ็อบส์หรือ "สตีเฟน พอล จ็อบส์" นั้นส่งต่อตำแหน่งซีอีโอให้ทิม คุก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จ็อบส์เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1955 ที่เมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นบุตรนอกสมรสของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัย กับศาตราจารย์ทางด้านรัฐศาสตร์ มารดายกเขาให้เป็นบุตรบุญธรรมแก่ครอบครัว “จ็อบส์” ซึ่งมีหัวหน้าครอบครัวเป็นช่างเครื่อง โดยขอสัญญาว่าบุตรชายของเธอจะต้องได้รับการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
       
       เมื่อโตขึ้นจ็อบส์เข้าศึกษาต่อที่ Reed College ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน เพียง 6 เดือนจ็อบส์ตัดสินใจลาพักเรียนเพราะเหตุผลว่าไม่เห็นความน่าสนใจของสิ่งที่เขาเรียนอยู่
       
       แต่เขาก็กลับเข้าศึกษาใหม่อีก 1 ปีครึ่ง โดยลงเรียนเฉพาะคอร์สที่เขาสนใจ เช่น การประดิษฐ์ตัวอักษร (ซึ่งภายหลังเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ในการออกแบบตัวพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ Macintosh) หลังจากนั้น เขาหยุดเรียนถาวรและไม่ได้ศึกษาจนจบมหาวิทยาลัย
       
       ไม่ว่าจะปรากฏกาย ณ ที่แห่งใด หรือแม้แต่ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิล สตีฟ จ็อบส์ จะมาในชุดแต่งกายเรียบง่ายคือเสื้อยืดคอเต่าแขนยาวสีดำ ยี่ห้อ St.Croix กางเกงยีนส์ลีวายส์ รุ่น 501 และสวมรองเท้ากีฬายี่ห้อ New Balance รุ่น 992 เป็นประจำจนกลายเป็นเอกลักษณ์
       
       ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple Inc. และผู้บริหารระดับสูงของค่ายพิกซาร์ แอนิเมชัน สตูดิโอ (Pixar Animation Studios) อย่างจ็อบส์นั้นนับถือพุทธศาสนานิกายเซนอย่างเปิดเผย ตามประวัติระบุว่าจ็อบส์เป็นผู้ที่สนใจอ่านวรรณกรรมทางพุทธศาสนาหลายเล่ม และหนังสือที่มีอิทธิพลสูงสุดกับเขาคือ Zen Mind, Beginner’s Mind ซึ่งเขียนโดยชุนริว ซูซุกิ กล่าวกันว่า หลังการศึกษาหลักธรรมของเซน จ็อบส์เริ่มมีความเชื่อว่า การหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณนั้น ก่อให้เกิดปัญญา เขาจึงเริ่มฝึกสมาธิในห้องนอนแคบๆ ที่แชร์ร่วมกับ “แดเนียล คอตคี” เพื่อนสนิท ท่ามกลางกลิ่นธูป
       
       ปี 1974 จ็อบส์ในวัย 19 ปีได้ขอลาพักงานประจำที่ทำอยู่ในบริษัทเครื่องเล่นวิดีโอเกมส์ Atari เพื่อเดินทางไปอินเดีย เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมกับเพื่อนรัก “แดเนียล คอตคี” เพื่อแสวงหาคำตอบเกี่ยวกับการรู้แจ้งเห็นจริงด้านจิตวิญญาณ และเมื่อเดินทางกลับสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่ง เขากลายเป็นพุทธศาสนิกชน สวมเสื้อผ้าแบบอินเดียโบราณและโกนศีรษะ หลังจากนั้น จึงเริ่มฝึกการบำบัดแบบกรีดร้องดังๆ และรับประทานผลไม้เป็นอาหาร และผลไม้ที่เขาโปรดปรานเป็นพิเศษก็คือ แอปเปิล
       
       ปี 1976 ขณะอายุ 21 ปี จ็อบส์ได้เข้าทำงานกับบริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด และเริ่มต้นศึกษาพุทธศาสนานิกายเซนอย่างจริงจังกับ “โกบุน ชิโนะ โอโตโกวะ” พระอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ที่ศูนย์เซน ลอส อัลทอส (ซึ่งภายหลัง เมื่อจ็อบส์เข้าพิธีแต่งงานแบบเซน กับ “ลอรีน เพาเวล” ในวันที่ 18 มีนาคม 1991 พระอาจารย์โอโตโกวะได้มาเป็นประธานในพิธี)
       
       ในปีเดียวกัน จ็อบส์และเพื่อนสมัยเรียน “สตีฟ วอซเนียก” ได้ร่วมกันก่อตั้งแอปเปิลขึ้นที่โรงรถในบ้านของจ็อบส์ เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่จ็อบส์กับวอซเนียกได้นำเสนอออกสู่สายตาได้แก่เครื่อง Apple I และเพียง 10 ปีให้หลัง Apple ก็เติบโตจากคนเพียง 2 คนกลายเป็นบริษัทใหญ่โตที่มีมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ และพนักงานมากกว่า 4,000 คน
       
       หนึ่งในมรสุมชีวิตของจ็อบส์เกิดขึ้นเมื่อจ็อบส์อายุ 30 ปี หลังจากเพิ่งเปิดตัว Macintosh เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดของตัวเองได้ปีเดียว เขาถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตนเองเป็นผู้ก่อตั้ง หลังจากทะเลาะกับผู้บริหาร และกรรมการบริษัทก็เข้าข้างผู้บริหารคนนั้น ครั้งนั้นจ็อบส์กล่าวว่า เขาได้สูญเสียสิ่งที่ได้ทำมาตลอดชีวิตไปในพริบตา ถึงกับคิดจะออกจากวงการคอมพิวเตอร์ไปชั่วชีวิต โดนไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันหลังจากนั้นอีกหลายเดือน
       
       แต่จ็อบส์ก็ค้นพบว่า ตัวเองยังคงรักในสิ่งที่ตัวเองเคยทำมา และความล้มเหลวที่แอปเปิลไม่อาจเปลี่ยนแปลงความรักที่เขามีต่องานด้านไอที จ็อบส์จึงตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด โดยเริ่มตั้งบริษัทใหม่ชื่อ NeXT และลงทุนใน Pixar ซึ่งขณะนี้เป็นสตูดิโอผลิตการ์ตูนแอนิเมชันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกอย่าง Toy Story ไม่นาน แอปเปิลตัดสินใจซื้อบริษัท NeXT เพื่อทำให้จ็อบส์ได้กลับคืนสู่แอปเปิลอีกครั้ง ทำให้เทคโนโลยีที่เขาคิดค้นขึ้นที่ NeXT กลายเป็นหัวใจในยุคฟื้นฟูของแอปเปิล
       
       กลางปี 2004 จ็อบส์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับอ่อนชนิดพิเศษที่พบเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย ซึ่งรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ในปี 2009 จ็อบส์เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายตับที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี่ และกลับไปทำงานที่แอปเปิลอีกครั้ง หลังลาหยุดเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนจะลางานรักษาตัวอีกครั้งช่วงเดือนมกราคม 2011 ที่ผ่านมา และลาออกจากตำแหน่งซีอีโอแอปเปิลในเดือนสิงหาคม ก่อนจะเสียชีวิตในเดือนตุลาคม 54 รวมวัย 56 ปี
       
       ขณะนี้ โลกออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เต็มไปด้วยข้อความอาลัย รวมถึงยกย่องว่าผลงานของสตีฟ จ็อบส์โดยเฉพาะการสร้างสรรค์นวัตกรรมไอทีทั้งไอโฟน ไอแพด ไอพ็อด คอมพิวเตอร์แมคอินทอช รวมถึงหลากแนวคิดด้านการทำงาน จะเป็นแรงบัลดาลใจในการใช้ชีวิตให้ทุกคนทั่วโลก
       
       ***เนื้อหาด้านพุทธศาสนาบางส่วนจากหนังสือธรรมลีลา***
       
       Company Related Link :
       Apple

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6231 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
7872 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick
0 Replies
4422 Views
Last post January 11, 2011, 01:45:43 PM
by Nick
0 Replies
7604 Views
Last post January 13, 2011, 04:29:26 PM
by Nick
0 Replies
5300 Views
Last post February 27, 2011, 11:13:31 PM
by Nick
0 Replies
6761 Views
Last post March 11, 2011, 04:59:35 PM
by Nick
0 Replies
3158 Views
Last post April 16, 2011, 03:17:14 PM
by Nick
0 Replies
3169 Views
Last post May 03, 2011, 02:41:58 PM
by Nick
0 Replies
3534 Views
Last post July 03, 2011, 09:25:17 AM
by Nick
0 Replies
3396 Views
Last post July 08, 2011, 03:26:19 PM
by Nick