Author Topic: โซนี่ จุดพลุ "อัลฟ่า" ใหม่ 4 รุ่น ชูเรือธง NEX-7 เด่นเรื่องความละเอียดสูง  (Read 1447 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


Sony Alpha A77


Alpha A77 สามารถพับจอได้องศามากขึ้น


Sony NEX-5N


Sony NEX-7

โซนี่เปิดตัวกล้องใหม่ ตระกูล "อัลฟ่า" 4 รุ่นรวด ส่ง Sony Alpha A77 A65 นำทัพ พร้อมต่อยอดความสำเร็จกล้องไร้กระจกสะท้อนภาพในกลุ่ม "NEX" ส่ง NEX-5N และ NEX-7 ลงตลาดสิ้นปี
       
       เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ทันทีเมื่อโซนี่ตบเท้าเปิดตัวกล้องตระกูล "อัลฟ่า" ใหม่ 4 รุ่นรวดในวันเดียว โดยแยกเป็นกลุ่มกล้อง DSLR 2 รุ่น และ NEX (Mirrorless) 2 รุ่น พร้อมเลนส์ E-Mount 3 ตัวและ Adapter Lens LA-EA 2 อีก 1 ตัว
       
       พี่ใหญ่ Sony Alpha A77 และ A65
       
       สำหรับ Sony Alpha A77 และ A65 จะมาพร้อมสเปกที่เหมือนกันคือ เซนเซอร์รับภาพจะใช้เป็น CMOS APS-C ความละเอียด 24.3 ล้านพิกเซลบนหน่วยประมวลผลภาพแบบ BIONZ มี GPS ภายในและระบบกันภาพสั่นไหว (SteadyShot INSIDE) ในตัวกล้อง อีกทั้งยังสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง Full HD ที่ 1080/60p บนบิตเรทสูงสุดถึง 28Mbps พร้อมหน้าจอ Live View ขนาด 3 นิ้วที่ใส่เทคโนโลยี TruBlack มาให้บนความละเอียด 921,600 พิกเซล ส่วนช่องวิวไฟน์เดอร์ของทั้ง 2 รุ่นจะเป็น OLED EVF ขนาด 0.50 นิ้ว ซึ่งมีความสว่างและชัดเจนกว่ารุ่น Alpha A55 และ Alpha A35 ที่วางขายอยู่ในปัจจุบัน
       
       ส่วนคุณสมบัติ ฟังก์ชันที่แตกต่างกันระหว่าง Sony Alpha A77 และ A65 สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนสุดจะอยู่ที่บอดี้ที่ใน A65 จะเป็นพลาสติก ส่วน A77 จะเป็นแมกนีเซียมผสมพลาสติกซึ่งมีความแข็งแรงกว่า นอกจากนั้นในโหมดใช้งาน Continuous Priority AE สำหรับ A77 จะมีความเร็วอยู่ที่ 12 เฟรมต่อวินาที ส่วน A65 จะอยู่ที่ 10 เฟรมต่อวินาที รวมถึงจุดโฟกัสที่ใน A77 จะมีอยู่ 19 จุดและสามารถโฟกัสแบบ Cross Type ได้ 11 จุดพร้อมกัน ส่วน A65 จะมีจุดโฟกัสทั้งหมด 15 จุด และสามารถโฟกัสแบบ Cross Type ได้ 3 จุดพร้อมกัน
       
       สุดท้ายในส่วนความเร็วชัตเตอร์สำหรับ A77 จะเริ่มตั้งแต่ Bulb, 30 วินาที - 1/8,000 ส่วน A65 จะเริ่มตั้งแต่ Bulb, 30 วินาที - 1/4,000 ส่วนน้ำหนักสำหรับ A77 จะอยู่ที่ประมาณ 732 กรัม (รวมแบตเตอรี) ส่วน A65 จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 622 กรัม (รวมแบตเตอรี)
       
       NEX-5N ต่อยอดความสำเร็จของ NEX-5 ปี 2010
       
       เคยเป็นเรือธงที่ทำยอดขายให้กล้องตระกูล "อัลฟ่า" กลุ่ม Mirrorless ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำให้โซนี่ได้นำ NEX-5 กลับมาปรับเปลี่ยนสเปกอีกครั้งกับการเติมชื่อรุ่น N ต่อท้ายพร้อมอัปเกรดสเปกใหม่ได้แก่ เซนเซอร์ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล ในส่วนของการบันทึกวิดีโอคุณภาพสูง Full HD 1080p จะรองรับบิตเรตสูงถึง 28Mbps (PS Quality 1920 x 1080/60p) พร้อม ISO สูงสุด 25,600
       
       อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถในการถ่าย continuous shooting ให้มีความเร็วสูงถึง 10 เฟรมต่อวินาทีพร้อมระบบ Object Tracking AF ผ่านจอ Touch LCD บนจุดโฟกัสที่เพิ่มเป็น 25 จุดและสามารถใส่วิวไฟเดอร์ XGA OLED EVF พร้อมน้ำหนักประมาณ 269 กรัม
       
       NEX-7 เรือธงใหม่ของ Mirrorless ตระกูลอัลฟ่า
       
       เป็นเรือธงสำคัญในการเปิดตลาดกล้องไร้กระจกสะท้อนภาพ (Mirrorless) ความละเอียดสูงตัวแรกของโลก กับความละเอียด 24.3 ล้านพิกเซลบนเซนเซอร์ Exmor APS HD CMOS และเป็นรุ่นที่มีการแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นกับ NEX รุ่นก่อนหน้าทั้งหมด โดยสเปกของตัวกล้องนอกจากเรื่องความละเอียดของภาพแล้ว ตัวกล้องยังติดตั้ง EVF แบบ OLED ความละเอียด 1,024x768 พิกเซลมากให้
       
       นอกจากนั้นตัวกลัองยังให้ Hot Shoe มาให้สำหรับใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมของโซนี่หรือแฟลชภายนอก และในส่วนของการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงจะเป็นฟอร์แมต AVCHD ขนาดสูงสุด 1,920 x 1,080/60p ที่บิตเรต 28Mbps เฉกเช่นเดียวกับ NEX-5N
       
       ด้านเมนูการใช้งานและการควบคุมจะมาพร้อมส่วนควบคุมชื่อ Tri-Navi ที่จะมีลักษณะเป็นวงล้อ 2 วงสามารถเปลี่ยนสถานะใช้งานไปตามโหมดที่เราเลือก เช่นเมื่ออยู่ในโหมด Manual วงล้อที่ 1 จะทำหน้าที่ควบคุมรูรับแสง ส่วนวงล้อที่ 2 จะใช้ควบคุมชัตเตอร์สปีดทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าไปปรับที่หน้าเมนูให้วุ่นวายเหมือน NEX รุ่นก่อน
       
       ในส่วนระบบโฟกัสจะให้จุดโฟกัสมา 25 จุดเท่ากับ NEX-5N พร้อม Speed Priority ความเร็ว 10 เฟรมต่อวินาที และค่า ISO จะมีให้เลือกตั้งแต่ 100-16,000
       
       สำหรับราคาเปิดตัว Sony Alpha A65 จะอยู่ที่ 999.99$ (ประมาณ 30,220 บาท) ส่วน Alpha A77 จะมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,999.99$ (ประมาณ 60,440 บาท) และวันวางจำหน่ายของกล้องทั้ง 2 รุ่นในสหรัฐอเมริกาคือวันที่ 19 ตุลาคม
       
       ส่วนกล้อง Mirrorless ทั้ง 2 รุ่นได้แก่ NEX-5N พร้อมเลนส์ 18-55 มิลลิเมตร จะมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 699.99$ (ประมาณ 21,154 บาท) และจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 7 กันยายน ส่วน NEX-7 พร้อมเลนส์ 18-55 มิลลิเมตร จะมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,349.99 $ (ประมาณ 40,797 บาท) และจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 9 พฤศจิกายน
       
       กองทัพเลนส์ E-Mount และ A-mount lens Adapter รุ่น 2
       
       หลังจากโซนี่ส่งเลนส์ E-Mount รุ่น 30 Macro f3.5 ลงยึดหัวหาดไปก่อนหน้านี้ และกำลังจะวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้ ล่าสุดทางโซนี่ก็เตรียมปล่อยเลนส์ E-Mount อีก 3 รุ่นได้แก่ เลนส์ระยะ 50 มิลลิเมตร f1.8 ซูมเลนส์ระยะ 55-210 มิลลิเมตรที่มาพร้อมกระจก ED (Extra-low Dispersion) และเลนส์ Carl Zeiss ระยะ 24 มิลลิเมตร f.1.8 ที่มาพร้อมระบบ Direct Manual Focus (DMF) และตัวเลนส์รองรับการใช้ถ่ายวิดีโอ
       
       พร้อมทั้งยังมีการเปิดตัว Lens Adapter LA-EA รุ่น 2 ที่มีการนำระบบ ออโต้โฟกัสและ Translucent Mirror Technology จากกล้อง DSLR ตระกูลอัลฟ่าบรรจุลงไปเพื่อช่วยทลายข้อจำกัดด้านระบบโฟกัสที่จำเป็นต้องตั้งเป็น Manual เวลาเชื่อมต่อกับเลนส์ A-Mount ใน LA-EA 1
       
       โดยใน LA-EA 2 จะมีมอเตอร์หมุนโฟกัสของเลนส์ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถนำเลนส์ A-Mount มาเชื่อมต่อและใช้ระบบออโต้โฟกัสได้ทันทีทั้งการถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ โดยตัว Adapter จะทำการควบคุมระบบโฟกัสผ่านจุดโฟกัส 15 จุดและสามารถโฟกัสภาพแบบ Cross Focus ได้ 3 จุดพร้อมกัน
       
       สำหรับราคาเปิดตัวเลนส์ระยะ 50 มิลลิเมตร f1.8 จะอยู่ที่ 299.99$ (ประมาณ 9,066 บาท) และเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 14 ธันวาคม ส่วนซูมเลนส์ระยะ 55-210 มิลลิเมตร f4.5-6.3 จะมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 349.99$ (ประมาณ 10,577 บาท) และเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 19 ตุลาคม และเลนส์ Carl Zeiss ระยะ 24 มิลลิเมตร f.1.8 จะมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 999.99$ (ประมาณ 30,220 บาท) และเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 7 ธันวาคม
       
       และสุดท้ายสำหรับ LA-EA 2 จะมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 399.99$ (ประมาณ 12,080 บาท) และเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 14 ตุลาคม
       
       **ภาพประกอบทั้งหมดจาก engadget.com**
       
       Company Related Link :
       Sony


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6471 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
8146 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick
0 Replies
4702 Views
Last post January 11, 2011, 01:45:43 PM
by Nick
0 Replies
7861 Views
Last post January 13, 2011, 04:29:26 PM
by Nick
0 Replies
5533 Views
Last post February 27, 2011, 11:13:31 PM
by Nick
0 Replies
6998 Views
Last post March 11, 2011, 04:59:35 PM
by Nick
0 Replies
3394 Views
Last post April 16, 2011, 03:17:14 PM
by Nick
0 Replies
3412 Views
Last post May 03, 2011, 02:41:58 PM
by Nick
0 Replies
3789 Views
Last post July 03, 2011, 09:25:17 AM
by Nick
0 Replies
3630 Views
Last post July 08, 2011, 03:26:19 PM
by Nick