"ฮาเวิร์ด" ปี่แตก ควงแม่แถลงยันบริสุทธิ์ แจง ผลตรวจฉี่ไม่พบสารเสพติด ส่วนกัญชาก็ไม่ใช่ของตนเอง คาดอาจเป็นของเพื่อนที่มาลืมไว้ เพราะมีคนเข้านอกออกในบ้านเป็นประจำ รับ มีคดีรุมทำร้ายร่างกายติดตัว แต่ไม่ปักใจเชื่อว่าคู่กรณีกลั่นแกล้ง เจ้าตัวช็อคต้องนอนคุก รู้สึกตัวเองต่ำมาก สุดเสียใจทำให้แม่คิดฆ่าตัวตาย วอน ขอโอกาสพิสูจน์ตัวเอง
หลังจากถูกจับในข้อหามีกัญชาไว้ในครอบครอง จนต้องนอนในคุก 1 คืนเต็มๆ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา "ฮาเวิร์ด หวัง" ได้เปิดบ้านพักเลขที่ 670/25 ซอยประชาราษฎรบำเพ็ญ 26 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ แถลงข่าวเปิดใจเป็นครั้งแรก โดยมีคุณแม่ "Julie Chu" และ "นายอากาศ วสิกชาติ" ทนายความส่วนตัว ร่วมในการแถลงข่าวด้วย ในครั้งนี้เจ้าตัวได้เปิดใจทั้งน้ำตา โดยยืนยันว่าตนเองนั้นบริสุทธิ์ เพราะผลการตรวจฉี่ก็ไม่พบสารเสพติด ส่วนกัญชาที่ตำรวจค้นเจอในตู้เสื้อผ้า หนุ่มฮาเวิร์ดค้านเสียงหนักแน่นว่าไม่ใช่ของตัวเอง คาดอาจจะเป็นของเพื่อนที่มาลืมไว้ เนื่องจากที่บ้านมีคนเข้านอกออกในเป็นประจำ พร้อมกับขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ฮาเวิร์ด : "อยากแรกต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น กับเรื่องที่เกิดขึ้นยังช็อคอยู่ บ้านที่ตำรวจบุกจับคือบ้านหลังนี้ครับผม ผมกำลังกินอาหารเช้าอยู่ แล้วก็มีพี่ๆ มาที่หน้าบ้านผม แต่ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร ผมก็ออกไปดูหน้าบ้าน ผมถือขวดนมอยู่ก็ไปยืนคุยกับเขา เขาก็บอกว่ามีหมายค้น ผมก็บอกว่าผมอ่านภาษาไทยไม่ค่อยเก่ง อ่านไม่ค่อยออก เขาก็บอกให้ผมเก็บหมา แล้วผมก็เชิญเขามา เพราะผมมั่นใจว่าที่นี่ไม่มีอะไรแน่นอน ผมก็ไม่ได้ขัดขวาง แล้วก็เปิดประตูให้เขาเข้ามาค้นที่บ้านเลยตามสบาย แล้วเขาไม่ให้เหตุผลอะไรในการค้น"
ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เป็นไปได้หรือเปล่าที่จะโดนกลั่นแกล้ง เพราะก่อนหน้านี้หนุ่ม "ฮาเวิร์ด" เคยมีเรื่องรุมทำร้ายร่างกายจนขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาแล้ว กับเรื่องนี้เจ้าตัวก็อธิบายว่า…
"อาจเป็นคนที่ไม่ชอบผม หรือคนที่ฟ้องผม เพราะก่อนหน้านี้ผมก็มีเรื่องทะเลาะวิวาท แต่ผมไม่อยากบอกว่าเป็นใคร หรือว่าใช่เขามั้ย เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว แต่เดือนที่แล้วเพิ่งมีหมายจับ และอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์อยู่ เป็นคดีร่วมกันทำร้าย แต่ว่ามันมีหลายคน มันจะเกี่ยวกันหรือเปล่าไม่รู้ แต่คนที่มีเรื่องด้วยเขาเป็นลูกนักธุรกิจ ไม่ใช่ลูกนักการเมือง จริงๆ มันไม่สำคัญว่าใครเป็นคนฟ้อง หรือใครเป็นคนกลั่นแกล้ง ผมบริสุทธิ์ใจเพราะว่าไม่มีอะไรจริงๆ ก็เลยให้ตำรวจเข้ามา"
"ตอนที่ค้นเจอผมก็ช็อคมากครับ ตกใจ หน้าซีดเลยครับ เพราะมั่นใจว่าบ้านเรามันไม่มีอะไร ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันมาอยู่ได้ยังไง ช็อกมากเลย ยืนยันว่าไม่ใช่ของผม แต่ที่ตอนแรกผมยอมรับเพราะมันก็เป็นไปได้ยาก ที่จะบอกว่าของอยู่ที่บ้านผม แล้วไม่ใช่ของผม หรือใครเอามาไว้หรือเปล่า แต่ที่แถลงก็เพราะจะบอกว่ามันไม่ใช่ของผมแน่นอน แต่จะมีคนแกล้งหรือไม่แกล้งผมก็ไม่ทราบ เพราะว่าผมก็ทำงานตั้งแต่เช้าถึงเย็น แล้วก็กลับมานอนอย่างเดียว แล้วประตูบ้านก็ไม่ได้ล็อค คือล็อคบ้างไม่ล็อคบ้าง แล้วบางทีเพื่อนผมก็จะมาที่บ้านด้วย แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นของใครทิ้งเอาไว้หรือเปล่า"
ทนายอากาศ : "การจะบอกว่าเป็นของใครคงจะบอกยากนิดนึง คงต้องให้ตำรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือก่อน"
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือเปล่าที่จะแฟนผู้หญิงทิ้งไว้? เจ้าตัวก็บอกว่า..."คิดว่าไม่ ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิง และไม่คิดว่าใครจะมาแจ้งเพราะไม่คิดว่าเขาจะมาแกล้งผมขนาดนี้ ก็เลยคิดว่าคงไม่ใช่ ตอนนี้ก็มีคนเป็นห่วงผมเยอะมาก มีบีบีมา ผมก็เสียใจที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น"
ส่วนเรื่องตรวจฉี่ที่ตอนแรกมีข่าวว่าหนุ่ม "ฮาเวิร์ด" ไม่ยอมให้ตรวจนั้น เจ้าตัวยืนยันว่าไม่จริง…"ไม่จริงครับ ผมยอมให้ตรวจ แล้วผลก็ออกมาไม่มีฉี่ม่วง"
พร้อมปฏิเสธเปิดบ้านเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยา บอก แค่สภาพบ้านก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
"ปกติผมก็อยู่บ้านหลังนี้ แต่ที่ผ่านมาผมถ่ายหนังกับพี่พจน์บางวันก็เช้าถึงตีสี่ บางวันก็ไปฟิตเนส จะเข้ามาบ้านหลังนี้แค่นอนเท่านั้น แล้วผมก็อยู่กับแม่สองคน และคงไม่มีโอกาสทำเรื่องแบบนี้ แม่จะเฝ้าผมตลอด อย่างที่พี่ๆ เห็น บ้านผมไม่ได้เป็นบ้านหรูหรา บ้านไม่ได้มีลำโพงใหญ่ๆ ที่จะให้เพื่อนๆ มาสนุกมาปาร์ตี้อะไรกัน จะมีก็แค่มาเยี่ยม มาเล่นเกมส์กันครับ แต่ว่าจะมีใครลืมไว้หรือเปล่าผมไม่รู้"
"ถามว่าเพื่อนผมมีใครเสพมั้ย คือเพื่อนผมมาทั้งจากต่างประเทศ มาเที่ยวเมืองไทยมาจากไต้หวันก็มี ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนคนไหน (ก่อนหน้านี้เคยมีคดีพัวพันยาเสพติด กลัวตอกย้ำมั้ย?) ตอนนั้นผมคบกับเพื่อนฝูงแบบนั้น แล้วผมก็ยังเด็กมาก ตอนออกอัลบั้มผมยอมรับว่าผมคบกับเพื่อนที่เกี่ยวข้อง แต่ผมยืนยันว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้อง ผมรู้ว่าอะไรที่สมควรทำอะไรไม่สมควรทำ"
ทนายอากาศ : "ผมขอให้ความรู้นิดนึง การมีปาร์ตี้ยา มันควรที่จะมียาหลายชนิด ไม่ใช่มีแค่กัญชาอย่างเดียว แล้วการทำผิดซ้ำกันภายใน 5 ปี มันจะมีผลทางกฎหมายเยอะ"
กับกระแสที่วิพากษ์หนาหูว่าถ้าไม่ได้ทำผิดแล้วทำไมวันที่โดนจับ กระทั่งวันนำตัวไปศาล ถึงต้องอำพรางตัวเองซะมิดชิดนาดนั้น เจอคำถามนี้ก็ถึงกับเจ้าตัวและแม่ปล่อยโฮออกมา
"ที่เมื่อวานผมพรางหน้าเพราะผมก็งงๆ ครับ แต่ว่าผมก็เสียใจที่ทุกคนต้องมาเห็นผมกับข่าวแบบนี้ ไม่ใช่ข่าวที่ดี ที่มีผลงาน(ถึงตรงนี้ก็ทำเอาแม่ของหนุ่มฮาเวิร์ดถึงกับร้องไห้ออกมา) ในที่สุดก็คือ….(เจ้าตัวเงียบไปก่อนร้องโฮออกมา) ผมช็อคมากๆ ที่ผมต้องไปอยู่ในคุกคืนนึง แล้วแม่ผมก็ทนไม่ไหวอยากจะฆ่าตัวตาย ทำให้ผมทนไม่ไหว ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมบริสุทธิ์ใจ ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผมก็ถึงให้ตำรวจตรวจทุกอย่าง แล้วผลตรวจก็ออกมาแล้วว่าผมไม่ได้เสพยา ผมอยากทำให้แม่ภูมิใจ อยากจะเก็บเงินซื้อรถซื้อบ้านให้แม่ซักที ตอนนี้ก็ยังเช่าบ้านอยู่ แต่ก็มามีเรื่องเกิดขึ้นแบบนี้"
แม่ฮาเวิร์ด : "แม่มั่นใจ แม่เชื่อใจลูก แม่ไปทำงานตอนเช้าและกลับมาตอนเย็น จริงๆ บ้านนี้ไม่ค่อยมีคนอยู่ ประตูก็เก่า แล้วล็อกไม่ได้ บางครั้งฮาเวิร์ดก็ลืมกุญแจ ก็เลยไม่ได้ล็อค ก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะว่าบ้านเราก็ไม่ได้มีทรัพย์สินที่จะมีคนเข้ามาขโมย แล้วก็มีแม่บ้านที่มีกุญแจ เวลาแม่ไปต่างประเทศเขาก็จะมาทำความสะอาด เรื่องยาเสพติดเขาไม่เคยมี สอนเขามาตลอดว่าไม่ให้ใกล้ชิดกับยาเสพติด ให้เซย์โนอย่างเดียว ตอนวัยรุ่นที่เขาคนกับเพื่อนก็มีแต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว อาจเป็นเรื่องโชคร้าย แม่มั่นใจลูกไม่ได้ทำ"
ฮาเวิร์ด : "อนาคตต่อจากนี้ไป ผมพอทราบบ้างว่าหลังจากนี้ชีวิตจะเป็นยังไงต่อ ผมอยู่เมืองไทยมาตั้งแต่เด็กๆ ที่นี่ก็เหมือนกับบ้านของผม ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงถ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมมีความฝันอยากจะทำให้แม่ อยากจะทำให้ทุกคนภูมิใจ ข่าวนี้มีผลกับงานบ้างไม่มีบ้าง แต่ผมมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเครียด และเครียดที่ทำให้แม่เป็นแบบนี้ เครียดที่ต้องไปอยู่ในสถานที่แบบนั้น(คุก) รู้สึกว่าตัวเองต่ำมากที่ไปอยู่ในสถานที่แบบนั้น(ร้องไห้)"
"ตอนนี้ก็โดนยกเลิกถ่ายเอ็มวี เรื่องข่าวก็มีส่วนด้วย อีกอย่างเขาก็คงเห็นสภาพผมไม่พร้อมจะทำงาน ก็เลยเบรกงานไว้ไว้ก่อน ทำให้ทางบริษัทเสียหายหลายอย่าง ตอนนี้ผู้ใหญ่ก็กำลังประชุมอยู่ว่าตอนนี้จะเบรกงานไว้หรือจะยังไงแค่ไหน ตอนนี้อย่างแรกเลยก็ต้องเข้มแข็ง ผมยังไม่มีหน้าไปเจอพวกพี่ๆ หรือทุกๆ คน ก็ต้องเข้มแข็งไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ก็กลัวว่าจะมีผลกับงาน กลัวว่าจะมีประวัติที่ไม่ดี เป็นเรื่องที่ซีเรียสมากในชีวิต แต่ก็ยังจะอยู่ในประเทศไทยต่อไป จนกว่าคดีจะสิ้นสุด"
"ฝากถึงแฟนๆ ถึงคนที่ติดตามผม และให้กำลังใจผม ตอนนี้ก็ต้องขอโทษแฟนๆ และขอโทษผู้ใหญ่ทั้งหลาย และขอโทษพี่ๆ สื่อมวลชนที่ต้องมาทำข่าวของผมด้านร้ายๆ ขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง และขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์ ได้ลุกขึ้นมาทำงานที่ผมรักอีกครั้งนึง และผมอยากจะขอโทษแม่ที่ทำให้เสียใจ ที่ทำให้แม่ต้องมีสภาพเป็นแบบนี้"
ด้านทนายอากาศได้กล่าวเสริมเรื่องการต่อสู้คดีว่า….
ทนายอากาศ : "ต่อไปตำรวจก็จะรวบรวมหลักฐานทุกอย่างภายใน 12 วัน ส่วนผลตรวจก็ออกมาแล้วว่าไม่ได้เสพ แต่ของกลางกัญชาก็แค่ 5.5 กรัม ซึ่งเท่ากับบุหรี่ 2-3 มวนเท่านั้น ซึ่งมันถือว่าน้อยมาก แล้วตำรวจก็จะต้องไปพิสูจน์กันว่ากัญชาที่ค้นเจอมันจะยังเสพได้อยู่มั้ย เพราะมันเก่ามาก และต้องพิสูจน์ลายนิ้วมือว่ามีลายนิ้วมือของฮาเวิร์ดหรือเปล่า ซึ่งภายใน 12 วันก็คงไม่พอ เพราะต้องมีการผลัดฟ้องอะไรอีก คิดว่าน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 84 วัน"
ส่วนกรณีที่ตำรวจสืบทราบมาว่า บ้านหลังนี้ถูกใช้เป็นสถานที่มั่วสุมเสพยาเสพติด และมีการลักลอบจัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติดกันเป็นประจำ โดยบริเวณหน้าบ้านจะมีสุนัข ซึ่งเจ้าของบ้านเลี้ยงไว้หลายตัว เพื่อคอยเห่าป้องกันคนแปลกหน้านั้น จากการตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นเพียงสุนัขพิการ 2 ตัว ตัวนึงขาหักจนต้องเดินลากขา อีกตัวเป็นพันธุ์พุดเพิ้ลตาบอดข้างซ้าย ซึ่งเป็นสุนัขพิการที่เพื่อนของหนุ่มฮาเวิร์ดไม่เลี้ยง เจ้าตัวจึงเอามาเลี้ยงไว้ที่บ้านเพราะสงสารเท่านั้นเอง
ที่มา: manager.co.th