“นาเดีย” จูงมือ “คุณภิ ม.ล.อภิมงคล” เผยวันนี้ได้ใส่ชุดไทยสมใจหลังจากที่เคยฝันมานานอีกทั้งผ้าไหมที่นำมาตัดเป็นชุดเจ้าสาวแม่ของคุณภิยกให้ ส่วนฝ่ายชายขออุบเรื่องสินสอดบอกเพียงว่าแค่พอสร้างฐานะได้ ส่วนเรื่องทายาทฝ่ายหญิงเล็งอยากมีลูก3คนไม่เกี่ยงจะเป็นชายหรือหญิง อีกทั้งนาเดียยังขอเวลาสักหนึ่งวันกลับไปหาครอบครัวเพราะยังทำใจไม่ได้ที่ต้องห่างอกแม่
ได้ฤกษ์จูงมือแฟนหนุ่มเข้าประตูวิวาห์ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับพิธีกรและนักแสดงสาว “นาเดีย นิมิตรวานิช”หลังจากที่ประกาศแต่ง“คุณภิ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล” หรือเจ้าของฉายา “หล่อจิ๋ว” นักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ที่หลังจากทั้งคู่คบหาฉันท์เพื่อนมานานเกือบสิบปี ก่อนที่จะมาเปลี่ยนสถานะเป็นแฟนได้ไม่นาน ซึ่งงานมงคลสมรสของทั้งคู่นั้นได้จัดขึ้นเมื่อเวลา16.00น.ของวันนี้ (18 ก.ค.) ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็น
โดยในพิธีฉลองมงคลสมรสช่วงค่ำนั้นมี “หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล” คุณพ่อของ “ม.ล.อภิมงคล”และ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ซึ่งทั้งนี้ได้มีบรรดาเหล่านักการเมืองมาร่วมงานอาทิ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ,“นายบรรหาร ศิลปอาชา” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ,“นายกรณ์ จาติกวณิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมภรรยา ส่วนทางด้านแขกของเจ้าสาวก็ต่างตบเท้ามาร่วมงานอย่างคับคั่งเช่นกัน อาทิ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” , “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”, “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ”, “ เทย่า โรเจอร์” , “เมย์ พิชญ์นาฎ สาขากร” , “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี” ที่งานนี้ควง “พร้อม” หนุ่มรู้ใจมาด้วย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่ออีกว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ได้มีพิธีหมั้นและรดน้ำสังข์รวมไปถึงได้จดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อย และยังมีการประกอบพิธีแต่งงานสองทั้งศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ ซึ่งช่วงเช้าสาวนาเดียใส่ชุดผ้าไหมยกทอง ซึ่งเป็นผ้าเก่าที่คุณแม่ของคุณภิได้ยกให้เพื่อตัดชุดเจ้าสาว อีกทั้งเครื่องประดับเสื้อผ้าหน้าผม แม่ของฝ่ายชายก็เป็นคนตระเตรียมให้เสร็จสรรพ
และเมื่อถึงเวลา17.00น. คู่บ่าวสาวได้เดินทางมาถึงโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็น ด้วยรถโบราณเปิดประทุน ก่อนเปิดใจต่อสื่อมวลชนซึ่งบรรยากาศในงานที่อบอุ่นทำให้ทั้งคู่ดูมีอาการตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้สาวนาเดียได้เปิดเผยก่อนว่า
นาเดีย : “ความรู้สึกในวันนี้ทีแรกไม่ได้ตื่นเต้นนะ ตอนแรกที่แต่งหน้าก็ปกติเหมือนเราทำงานแต่พอลงมาเจอผู้คนมองไปก็เห็นแต่คนที่รัก เจอญาติคุณภิก็เลยเริ่มรู้สึกว่านี่มันงานแต่งงานของเราจริงๆ ”
คุณภิ : “ผมก็ตื่นเต้นนะเพราะว่าตั้งใจไว้ว่าจะแต่งงานกันตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้วมาถึงวันจริงเมื่อเช้าก็รู้สึกเหมือนกับเดีย พอได้เจอญาติคนที่รัก ที่เขามายินดีกับเราก็ตื้นตัน”
นาเดีย : “ช่วงเช้าเราก็มีพิธีขันหมาก เรื่องของเรื่องคืออยากกั้นประตูอยากแต่งชุดไทยมันเป็นความฝันของเดียว่าถ้าได้แต่งงาน เดียก็อยากใส่ชุดไทยคงไม่มีชาติไหนแต่งชุดไทยได้สวยเท่าเรา คุณภิก็เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมาเยอะไปเป็นเถ้าแก่ถือต้นกล้วยต้นอ้อยบ่อย(หัวเราะ) แล้วก็เป็นพิธีหมั้นเป็นการภายในแล้วก็มีการจดทะเบียน และก็รับประทานอาหาร เรื่องของหมั้นก็มีแหวนและก็เครื่องประดับนิดหน่อยแต่ไม่ทราบว่ากี่กะรัตเพราะดูไม่เป็น”
คุณภิ : “เรื่องสินสอดก็มีเงินมีทองประมาณนึงครับ ทางคุณแม่ของเจ้าสาวก็ยกให้เป็นของเราทั้งสองคนพอที่จะเริ่มต้นชีวิต”
นาเดีย : “เรื่องผ้าชุดแต่งงานก็เป็นคุณแม่ของทางคุณภิจัดให้ ทั้งชุดเช้าและเย็นเป็นผ้าไหมยกทอง ปราณีตมากเดียเห็นแล้วสวยจังเลย อย่างเราเวลาไปเดินก็คงหาเดินดูผ้าแถวพาหุรัดแต่เมื่อเห็นของคุณแม่แล้วสวยมากท่านก็เลยยกให้ ให้ไปหาซื้อที่ไหนก็นึกไม่ออกหาซื้อไม่ได้ประมาณนั้น จริงจะบอกว่าคุณแม่ปลื้มเดียแค่ไหนถึงยกผ้าให้เดียก็ไม่กล้าพูดขนาดนั้น แต่ที่ทราบคือคุณพ่อคุณแม่ของคุณภิรักคุณภิมากก็เลยทำทุกอย่างทำให้งานแต่งลูกชายคนเดียว เดียก็เลยได้ผลบุญได้รับความเผื่อแผ่เมตตามาด้วย ในฐานะที่เป็นเจ้าสาวของลูกชาย”
คุณภิ : “เดียเขาเป็นคนที่อยู่กับคุณแม่และน้องมาตลอด ผมทราบว่าคุณแม่กับน้องเป็นครอบครัวที่สำคัญที่สุดของเดีย ผมก็เลยรับปากว่าแต่งงานกับเดียแล้วก็จะมีแม่กับน้องสาวเพิ่มอีก ถ้าจะถามว่าผมเอาชนะใจเขายังไงก็ต้องถามเขานะ (หัวเราะ)”
นาเดีย : “เขาเองรู้สึกว่าเขารักเดียนะ ที่สำคัญเขาไม่ได้รักแค่เดีย ยังรักน้องรักแม่เดียด้วย อย่างที่เขาบอกสองคนนี้สำคัญสำหรับเดีย ถ้าเขาไม่รักแม่รักน้องเราก็จะรู้สึกนิดนึงเพราะเขาเป็นคนที่จะต้องอยู่กับเราตลอดชีวิต ถ้าอีกคนนึงจะมาอยู่กับเราตลอดชีวิตก็ต้องรักกันเขาลงตัวกันดีอันนี้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ตัดสินใจแต่ง”
“ตอนที่เขาของแต่งงานก็ตกใจนะ เพราะว่าคบกันแค่เดือนเดียวเอง เขาบอกว่าเรามีอะไรจะบอกเราว่า เราสองคนแต่งงานกันไหมประมาณนี้ เรารู้สึกว่าเขาวู่วามหรือเปล่าไม่ใช่เดือนนี้ขอแต่งงานแต่อีก3เดือนไม่ขอแล้ว อย่างนี้ไม่เอานะโกรธ(หัวเราะ)”
คุณภิ: “ แต่เรารู้จักกันมานาน10ปีได้เจอกันบ้างช่วงหลังก็เจอกันบ่อย จนตอนขอแต่งงานก็อยู่ด้วยกันอย่างน้อยก็ตอนเย็นทุกเย็น เราก็มั่นใจในตัวเขา คำสัญญาที่ให้น่าจะเป็นผมนะ”
นาเดีย : “ตอนจะหมั้นบอกตรงๆว่าทำอะไรกันไม่ถูกเลย คุณพ่อคุณแม่คุณภิก็ทำอะไรไม่ถูก เพราะปกติท่านเคยเป็นแต่ประธานแต่ครั้งนี้ต้องทำเอง โชคดีมีทีมงานคอยบอก”
คุณภิ : “แต่ไม่เป็นไรผิดพลาดงานนี้ผมไม่ขอแก้ตัวงานหน้านะ (หัวเราะ)”
นาเดีย : “เรื่องแหวนที่จริงไปเที่ยวฮ่องกงด้วยกัน เดียก็เริ่มดูแหวนตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว ช่วยโชว์หน่อย (หันไปบอกกับคุณภิพร้อมโชว์แหวน)ก็ไปดูที่ฮ่องกง จริงๆ เดียถามเขาว่าอยากได้เพชรไหม เขาก็บอกไม่ อยากได้วงหนาๆ ไหมเขาก็บอกไม่ชอบวงมันใหญ่ อยากได้มีลายไหม เขาก็บอกไม่เอาเราไม่ชอบไม่เอาอะไรสักอย่าง ทีแรกว่าจะเซอร์ไพร์สคราวนี้ก็เลยไม่ต้องละ ลากไปดูด้วยกันเลย กว่าจะได้ก็โอเคก็เลยได้วงเรียบๆที่สุด”
คุณภิ : “ที่ผมตัดสินใจแต่งงานกับเขาก็รวมๆ มันก็หลายอย่าง ประทับใจในตัวเขาจริงๆแอบชอบเขามาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอตอนโตมาเพิ่งมีโอกาสคบหากันมาขึ้นมีเสน่ห์ อารมณ์ดีไม่เหมือนผมและที่สำคัญเขาเข้าใจในสิ่งที่ผมเป็นและก็ยอมรับได้ บางครั้งอาชีพที่ผมเลือกชีวิตผมอาจไม่ค่อยปกตินักแต่เขาก็เป็นกำลังหนุนให้ผมเสมอ แม้ว่าบางครั้งเขาอาจจะไม่ชอบก็ตาม”
นาเดีย : “ที่ไม่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวเพราะไม่ชินนะคะ พูดตรงๆ เรื่องราวพวกนี้เราไม่ค่อยอยากพูดเพราะกลัวความไม่แน่นอนเราไม่รู้จะอธิบายให้ฟังทำไมว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครอะไรยังไงมันไม่เข้าเรื่อง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกไม่คิดว่ากระแสตอบรับจะดีเราไม่ได้ปิดแต่ไม่ได้บอก แล้วพอดีคุณภิเป็นคนที่มีคนรู้จักส่วนนึงอยู่แล้วและคนก็รู้บ้างว่าเขาเป็นใครอะไรยังไง มันไม่ชินมากกว่า เราเองก็โตมาในสายสื่อมวลชนทุกคนก็ถือเป็นพี่น้อง แต่ก่อนอาจเคยบอกว่าถ้าแต่งเมื่อไหร่แล้วจะบอกแล้วจะปิดสนามหลวงเลี้ยง (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ก็ทำไม่ได้ วันนี้ก็เลยเชิญตามสัญญาเลี้ยงทุกคนอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในฐานะเพื่อนร่วมงานของเดีย”
คุณภิ : “ตอนคบกันหลายคนมองว่านักการเมืองกับนักแสดงคบกัน ความจริงเราก็ไม่ได้มีอะไรปกปิดหรอกครับ เรื่องวางแผนครอบครัวสำหรับลูกผมอยากมีคนเดียวแต่เดียอยากได้3คน ก็เลยขอสักสองก็พอ ไม่เกี่ยงจะชายหญิงครับ”
นาเดีย : “เรื่องลูกเดียก็จะปล่อยไปเลยให้เป็นไปตามธรรมชาติ รอบๆตัวเดียเพื่อนๆก็มีลูกยากคิดว่าเดี๋ยวนี้การมีลูกไม่ใช่เรื่องง่าย เดียอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์อยากมีลูกมาก ตั้งแต่ตอนคบกันแรกๆก็ถามเขาตรงๆ ว่าเป็นหมันหรือเปล่า (หัวเราะ) อย่าหาว่าเดียทะลึ่งนั่นนี่เลยนะแต่ว่ามันจำเป็น ถ้าไม่งั้นเดียต้องหยุดจริงๆ เพราะเดียอยากมีลูกเขาก็บอกว่าเขาโอเคๆ (หัวเราะ)”
คุณภิ : “เรื่องฮันนีมูนอาจจะยังไม่ใช่เร็วๆ นี้เพราะผมยังติดภาระกิจทางการเมืองและคุณเดียก็ต้องทำงาน เว้นไปสักพักก่อน”
นาเดีย : “แต่ยังไงก็ต้องไป เดียอยากไปยุโรปอยากไปเมืองสวยๆ บรรยากาศโรแมนติก แต่เขาบอกว่าเขาไปมาเยอะแล้วเพราะเขาโตแถวนั้นเขาก็เลยอยากไปอเมริกาบ้าง เดียก็เลยตอบว่าเดียไม่ได้เรียนแถวนั้นด้วย เดียเรียนเมืองไทย (หัวเราะ)"
"อย่าคิดว่าเราเป็นภรรยานักการเมืองอยากให้คิดว่าเดียกับคุณภิมากกว่า อย่าเอาเรื่องงานเข้าบ้านเรื่องแบบนี้ไม่แน่นอน แต่เรามีหน้าที่สนับสนุนเดียเชื่อว่าเขาคิดดีแล้วถึงได้มุ่งมั่น เดียเองก็มีหน้าที่สนับสนุนบางครั้งอาจจะไม่เข้าใจหรือจะพยามเข้าใจแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี ในเมื่อเป็นสิ่งที่เขาทำแล้วมีความสุขก็ปล่อยไป ส่วนงานในวงการเดียก็ไม่เลิกค่ะยังทำ ชอบทำงาน”
“ส่วนเรื่องพิธีอิสลามช่วงเช้าก็ได้มีการอวยพรมีโต๊ะอิหม่ามมาอวยพร เดียก็ทำให้คุณแม่พอเป็นพิธี ถามว่าใจหายไหมตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอครอบครัวแล้วแต่เจอเขาแทน ก็ใจหายนะเพราะเรามาอยู่บ้านเขาใครจะทำกับข้าวให้ทาน จะได้เจอน้องสาวไหม คุณแม่ร้องไห้แทบทุกวันเราก็ขอเราว่าอาทิตย์นึงเดียขอกลับบ้านบ้างไม่งั้นเราคงอยู่ไม่ได้ ส่วนเรือนหอก็เป็นคอนโดอยู่แถวทองหล่อ”
คุณภิ: “ผมก็บอกเขาแล้วว่าบ้านผมไม่ได้อยู่อลาสก้านะก็ไปหากันได้ (หัวเราะ)”
ที่มา: manager.co.th
