Author Topic: พบแอปเปิลตามเก็บข้อมูล "ใช้ไอโฟนที่ไหน"  (Read 1413 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ซีอีโอแอปเปิลกับ iPhone ล่าสุดนักวิจัยพบว่าแอปเปิลออกแบบให้ไอโฟนบันทึกพิกัดตำแหน่งการใช้งานของเจ้าเครื่อง ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่ามีผลในไอโฟนทุกรุ่นหรือไม่

นักวิจัยด้านความปลอดภัยของอังกฤษพบว่าสมาร์ทโฟนยอดฮิตของแอปเปิลอย่างไอโฟน (iPhone) นั้นติดตามเก็บข้อมูลว่าเจ้าของเครื่องเดินทางไปที่ไหนบ้าง โดยจะบันทึกข้อมูลลงในเครื่องก่อนจะอัปโหลดอัตโนมัติลงในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เมื่อโทรศัพท์ถูกเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรมไอจูนส์ (iTune) เบื้องต้นพบข้อมูลที่ถูกเก็บประกอบด้วยพิกัดเส้นรุ้ง-เส้นแวงของตำแหน่งใช้งานเครื่อง พร้อมด้วยวันเวลาโดยประมาณ ทั้งหมดถูกซ่อนไว้ในไฟล์ลับซึ่งยังไม่ได้รับการปกป้องที่รัดกุมพอ
       
       Pete Warden นักวิจัยชาวอังกฤษให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ว่า การกระทำของแอปเปิลครั้งนี้ทำให้เจ้าของไอโฟนมีโอกาสถูกสอดแนม ซึ่งในทางทฤษฎี ข้อมูลความเคลื่อนไหวของผู้ใช้ไอโฟนที่ถูกเก็บไว้ในเครื่องนั้นสามารถนำไปเป็นข้อมูลชั้นยอดให้กับทั้งสามีภรรยาที่ระแวงกันอยู่ พ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากรู้ความเป็นไปของบุตรหลาน ไม่เว้นนักโฆษณาที่ต้องการสอดแนมพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อนำเสนอโฆษณาที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายให้ตรงเป้าที่สุด
       
       รายงานย้ำว่า ข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกส่งไปที่แอปเปิลหรือบริษัทรายอื่น (third party) แต่จะถูกเก็บไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของเจ้าของไอโฟนเท่านั้น โดยเก็บข้อมูลต่อเนื่องนานเป็นเดือนปี จุดนี้เองที่ทำให้เจ้าของเครื่องมีโอกาสถูกสอดแนมมาก หากมีบุคคลอื่นสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเจ้าของไอโฟน
       
       Warden และเพื่อนนักวิจัย Alasdair Allan ระบุว่าได้พยายามค้นหาชุดคำสั่งติดตามพิกัดการใช้งานลักษณะนี้ในสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) แต่กลับไม่พบข้อมูลใดๆ เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนจากผู้ผลิตอื่นที่ไม่ใช่แอปเปิล ก็ไม่พบการเก็บข้อมูลลักษณะนี้
       
       สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สื่อต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า กูเกิล ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์นั้นวางนโยบายการเก็บพิกัดที่อยู่สมาร์ทโฟนของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้ยืดหยุ่นกว่า โดยในแอปพลิเคชัน Latitude ซึ่งจะทำให้กลุ่มเพื่อนฝูงสามารถเห็นตำแหน่งที่อยู่ของอีกฝ่ายได้บนแผนที่นั้น ผู้ใช้จะสามารถเลือกได้เองว่าต้องการให้ระบบติดตามเก็บข้อมูลพิกัดหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆจากแอปเปิลว่าไฟล์พิกัดลับเหล่านี้ถูกสร้างมาเพื่ออะไร หรือจะมีทางใดที่ให้ผู้บริโภคเลือก"ไม่เก็บ"ข้อมูลพิกัดเหล่านี้หรือไม่ เนื่องจากการวิจัยพบว่า หากผู้ใช้ไอโฟนเปลี่ยนไปใช้ไอโฟนรุ่นใหม่ ไฟล์นี้ก็จะถูกส่งต่อไปยังไอโฟนเครื่องใหม่อยู่ดี ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยยืนยันว่า การเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นเรื่องที่แอปเปิลตั้งใจ ไม่ใช่อุบัติเหตุพลั้งเผลอแต่อย่างใด
       
       Warden นั้นมีดีกรีเป็นอดีตพนักงานของแอปเปิล โดยขณะนี้ Allan นั้นลงมือสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาเพื่อให้สาธารณชนร่วมวิจัยและตามแกะรอยไฟล์ข้อมูลพิกัดลับอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยทั้ง 2 ได้สร้างเว็บไซต์เพื่อเผยแพร่แอปพลิเคชันของ Allan ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจหาไฟล์ข้อมูลพิกัดเหล่านี้และกำหนดจุดไว้บนแผนที่ ยังไม่พบการใช้ประโยชน์ด้านการพาณิชย์ที่ชัดเจนในขณะนี้
       
       นักวิจัยยังบอกด้วยว่า ข้อมูลพิกัดเหล่านี้คำนวณจากเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นวิธีการที่สิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่าการระบบพิกัดผ่านดาวเทียมหรือ GPS แต่มีความแม่นยำน้อยกว่า โดยขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าข้อมูลพิกัดเหล่านี้ถูกเก็บไว้เพื่ออะไร สิ่งเดียวที่ชัดเจนคือการไม่มีทางหลีกเลี่ยงการเก็บข้อมูลพิกัดเหล่านี้ได้เลย
       
       จุดนี้นักวิจัยระบุว่าแม้จะสามารถเข้ารหัสไฟล์เพื่อให้ป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดีตามแกะรอยข้อมูลได้ แต่เป็นเป็นการป้องกันชั่วคราวที่ทำให้การแกะรอยทำได้ยากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการมีตัวไฟล์พิกัดอยู่นั้นก็ยังเป็นช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งหมดนี้สาวกแอปเปิลได้แต่หวังว่าแอปเปิลจะออกมาชี้แจงในอนาคต ซึ่งทุกคนควรระวังเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียที่ไม่คาดคิดในอนาคต
       
       รายงานการค้นพบของนักวิจัยอังกฤษนี้เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับการประกาศความสำเร็จของแอปเปิล โดยแอปเปิลระบุว่าตลอดเดือนมกราคม-มีนาคม (ไตรมาสที่ 2 ปีการเงิน 2011 ของแอปเปิล) แอปเปิลสามารถกำไรสุทธิ 5.99 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1.79 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 3.07 พันล้านเหรียญเท่านั้น โดยยอดขายรวมทั้งไตรมาสคือ 2.467 หมื่นล้านเหรียญ (ประมาณ 7.4 แสนล้านบาท)
       
       เฉพาะไอโฟน แอปเปิลระบุว่าสามารถจำหน่ายได้ 18.65 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 113% จากไตรมาสเดียวกันในปี 2010 โดยยอดขายในสหรัฐฯนั้นเติบโต 155% เพราะการวางจำหน่ายผ่านเครือข่ายของ Verizon ขณะที่ตลาดจีน สามารถทำยอดขายไอโฟนเพิ่มขึ้นถึง 250%
       
       สำหรับไอแพด (iPad) แท็บเล็ตยอดฮิตของแอปเปิลสามารถจำหน่ายได้ 4.69 ล้านเครื่องตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา (ไม่มีการแบ่งยอดขายตามรุ่น) ขณะที่ไอพ็อด (iPod) เครื่องเล่นมัลติมีเดียพกพาสามารถจำหน่ายได้ 9.20 ล้านเครื่อง ลดลง 17% จากปี 2010
       
       Company Related Link :
       Apple

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6921 Views
Last post June 10, 2010, 02:08:06 PM
by Nick
0 Replies
6230 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
5914 Views
Last post October 21, 2010, 10:23:15 PM
by Nick
0 Replies
7870 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick
0 Replies
6382 Views
Last post December 22, 2010, 09:47:59 PM
by Nick
0 Replies
4422 Views
Last post January 11, 2011, 01:45:43 PM
by Nick
0 Replies
7603 Views
Last post January 13, 2011, 04:29:26 PM
by Nick
0 Replies
5299 Views
Last post February 27, 2011, 11:13:31 PM
by Nick
0 Replies
6760 Views
Last post March 11, 2011, 04:59:35 PM
by Nick
0 Replies
3158 Views
Last post April 16, 2011, 03:17:14 PM
by Nick