Author Topic: “เต็งหนึ่ง” โต้ ขับรถชนเสาไฟฟ้าตาย บอก เป็นปีชงต้องตระเวนทำบุญ  (Read 960 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“เต็งหนึ่ง” โต้ ขับรถชนเสาไฟฟ้าตายคาที่ บอก ข่าวที่เกิดขึ้นทำพ่อกับแม่ช็อค เจ้าตัวเผย เป็นปีชงตอนนี้ก็เลยต้องตระเวนทำบุญยกใหญ่ พร้อมแจง เป็นข่าวแรงที่สุดในชีวิต ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ลั่น ที่ต้องแถลงข่าวใหญ่โตเพราะอยากให้หยุดข่าวลือ เหตุทำให้ตนและคนรอบข้างเดือดร้อน
       
       ทำเอาทั้งแฟนคลับและคนใกล้ชิดถึงกับช็อคไปตามๆ กัน เมื่ออยู่ๆ กลางดึกคืนวาน(17 เม.ย.) ที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าพระเอกช่อง 7 “เต็งหนึ่ง กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์” และเป็นอดีตนักร้องวง B.O.Y. เกิดประสบอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิตคาที่ แถมสภาพศพเหวอะหวะ ซึ่งข่าวนี้แพร่กระจายไปตามบรอดแคสของเหล่าคนเล่นบีบีและทวิตเตอร์อย่างหนัก และหลังจากที่ข้อความนี้แพร่ออกไปเจ้าตัวก็โพสต์แก้ทันทีว่าตนยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุใดๆ ทั้งสิ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะข่าวลือยังคงแพร่ไปอย่างต่อเนื่อง
       
       ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. “เต็งหนึ่ง” พร้อมด้วย “ต้น อรอุมา สุนทรสีมะ” ผู้จัดการทั่วไปบริษัท คลูฮันเตอร์ จำกัด ได้ออกมาเปิดแถลงข่าวข้อเท็จจริง ณ บ. คลูฮันเตอร์ ที่เจ้าตัวสังกัดอยู่ว่าข่าวที่ออกมานั้นไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะพระเอกหนุ่มไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้เกิดอุบัติเหตุใดๆ เลย
       
       “จากที่เมื่อวานเย็นๆ มีกระแสข่าวลือที่มันเยอะมากๆ นะครับ แล้วมันก็ไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถที่จะควบคุมได้ ว่าผมประสบอุบัติเหตุรถคว่ำและเสียชีวิต และวันนี้ผมก็เลยจะมาบอกว่าผมยังไม่เป็นอะไร และตอนนี้ผมก็ยังมีชีวิตอยู่นะครับ(หัวเราะ) ซึ่งผมทราบข่าวนี้ตอนประมาณ 4 ทุ่ม ก็มีพี่นักข่าวนี่แหละเป็นคนโทร.ถามผมว่าประสบอุบัติเหตุเป็นยังไงบ้าง”
       
       “ซึ่งผมงงมากเพราะตอนนั้นผมอยู่บ้านแล้ว ก็เลยไม่ได้บอกอะไรเขาไป เพียงแต่บอกว่าคงเป็นการล้อเล่นอะไรกันหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นคนโทร.มาเยอะมากครับ ในบีบีทุกคนก็ทักกันหมดว่าเจ็บตรงไหนไหม หรือเป็นยังไงบ้าง ยอมรับว่าตกใจมากครับ ตกใจถึงขนาดที่ว่าหรือว่าเรา...แต่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า(หัวเราะ) ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาผมก็อยู่กับที่บ้าน จะมีแค่วันสุดท้ายที่ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ที่อาร์ซีเอ ก็ไปเล่นน้ำปกติทั่วไป พอเขาเลิกกันผมก็กลับบ้าน”
       
       “คุณแม่ก็ช็อคครับ ด้วยความที่คุณแม่เพิ่งกลับไปโคราชก็เลยยังไม่ได้คุยกัน ต่างคนก็ต่างไม่ได้คุยกัน และคนที่บอกข่าวเขาก็ไม่ใช่ผม แต่เป็นเพื่อนที่ทำงานโทร.มาบอกว่าลูกเสียชีวิต ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าเป็นคุณแม่ใครก็ช็อคครับ แต่พอเขาตั้งสติได้คุณพ่อก็เลยโทร.กลับมา แต่ผมไม่ได้โทร.กลับ แต่ก็ได้ปิดโทรศัพท์เพราะคิดว่ามันก็ไม่ได้มีอะไร จนเมื่อประมาณ 4 ทุ่มตอนที่มีพี่ๆ นักข่าวเริ่มโทร.มาหลายๆ ท่าน ก็เลยได้โทร.กลับไปหาคุณพ่อคุณแม่ว่าผมไม่ได้เป็นอะไร”
       
       “ตอนนี้ท่านก็คงโล่งมากแล้วครับ แล้วตอนนี้ก็ตระเวนทำบุญ ช่วยๆ กันทั้งบ้านเลย เพราะข่าวมันออกมาว่าตายโหงเลยนะ(หัวเราะ) แต่ก็เคยมีคนทักนะครับว่าปีนี้ปีชง เพราะผมเกิดปีกระต่าย แต่ก็ทำบุญทั่วไป ไม่ได้คิดว่าจะเจอ แล้วตัวผมก็เป็นคนที่ถ้ามีโอกาสก็ทำบุญอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าเราคงห่างไกลจากเรื่องพวกนี้”
       
       บอก ไม่น่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น และไม่ควรที่จะเกิดจริงๆ กับใคร เพราะทำให้เกิดความเสียหายและกระทบในวงกว้าง ทำให้ตนต้องคอยแก้ข่าวแทบไม่ได้นอน
       
       “แต่จริงๆ เหตุการณ์นี้ผมก็ไม่ได้อยากให้เกิดนะครับ เพราะอุบัติเหตุมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ผมว่ามันก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้เช็ครายละเอียดจากทางตำรวจ เพราะตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาผมก็ได้แต่คอยตอบคำถามว่าผมไม่ได้เป็นอะไร ซึ่งตอนแรกคิดว่าคงจะเป็นแค่ข่าวเล็กๆ ไม่ได้มีอะไร เพราะมันไม่มีมูลอะไรเลย แล้วผมก็ยังมีชีวิตอยู่ จนมันหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็มีเพื่อนที่ต่างประเทศโทร.มาถามว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ผมก็เลยบอกเพื่อนแบบติดตลกไปว่าก็นี่ไง ยังมีชีวิตอยู่ นี่ก็ยังคุยกันอยู่เลย”
       
       “ผมก็ไม่เคยไปทิ้งบัตรประชาชนหรือใบขับขี่อะไรไว้ที่ไหนนะครับ เพราะจริงๆ แล้วชื่อในทวิตเตอร์เป็นชื่อในวงการของผมอยู่แล้ว และชื่อตามบัตรประชาชนผมก็ไม่ใช่ชื่อนี้ แล้วชื่อบัตรประชาชนอันเก่าทางราชการเขาก็เก็บไปแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่บัตรผมจะไปอยู่ที่อื่นแน่นอน แต่เพื่อนๆ โทร.กันมาเยอะมาก ก็ขอบคุณที่ทุกคนเป็นห่วง เพราะว่าทุกคนเป็นห่วงจริงๆ และพยายามจะติดต่อผมให้ได้ แต่ผมตอบไม่ไหวเพราะมันเยอะมากจริงๆ ครับ ก็ขอบคุณน้องๆ แฟนคลับด้วยครับที่เป็นห่วง ผมรู้ว่าทุกคนตกใจ ผมเองก็ตกใจ”
       
       ด้าน “ต้น” ยอมรับว่าตกใจกับข่าวนี้เช่นกัน เพราะเมื่อวานเพิ่งแยกกับพระเอกหนุ่มไม่นานถึงได้มีข่าว แต่เชื่ออาจจะเพราะคนเข้าใจผิดคิดว่ารถคันเกิดเหตุเป็นคันเดียวกับของพระเอกหนุ่มก็เป็นได้
       
       ต้น : “จริงๆ ทางบริษัททราบทีหลังนักข่าวด้วยซ้ำ แต่เราก็งงเพราะเราเพิ่งเจอกันเมื่อตอน 4 โมงเย็น เต็งเขาก็ไปฟิตเนสต่อแล้วก็กลับบ้าน เราก็เลยงงว่าไปรถชนตอนไหน น้องๆ ที่บริษัทก็โทร.มาหาต้นบอกว่า 30-40 สายเลยที่โทร.มาถามเรื่องนี้ เขาก็ไม่ได้นอน ซึ่งเช้ามาก็ถามน้องๆ ในออฟฟิศกัน และสิ่งที่เป็นไปได้ก็คือข่าวจากทวิตเตอร์ของจส.100 เพราะมีคนที่สงสัยมากและทวิตไปที่จส.100 ประมาณ 20-30 ทวิต เจ้าหน้าที่ของจส.100 เองที่รู้จักกันเขาก็บอกว่ากำลังเช็คข่าวอยู่”
       
       “ด้านเต็งหนึ่งเองเขาก็ทวิตกลับไปที่จส.100 ว่าผมไม่เป็นไร ซึ่งกว่าข้อความนั้นจะไปถึงจส.100 เขาก็กำลังเช็คข่าวว่าเต็งหนึ่งรถคว่ำ กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งแค่คำนี้ทำให้คนเข้าไปดูเยอะมากแล้ว และกว่าเราจะแก้ข่าวว่าน้องไม่เป็นไรตีหนึ่งก็ยังไม่เสร็จเลยเมื่อคืนนี้ เราก็ยังงงๆ อยู่นะคะ อาจจะเป็นข่าวว่ามีรถเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น แต่บังเอิญรถไปเหมือนของเต็งหนึ่ง เป็นรถสีเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวาน แต่เราก็ไม่ได้เช็คว่าเป็นของใครอะไรยังไง แต่มีคนแจ้งว่ามีรถเกิดอุบัติเหตุจริงหลายคัน ก็เลยไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม”
       
       เต็งหนึ่ง : “รถของผมที่ขับอยู่นี้ของโตโยต้า ยาริส สีบรอน แต่ก็อย่าตกใจนะครับ ยังใช้ได้เหมือนเดิม(หัวเราะ) แต่ก็มีหลายๆ คนที่ถามผมว่าจริงๆ แล้วทำไมต้องออกมาพูดหรือแถลงข่าวนี้ด้วย ซึ่งผมเองก็อยากจะบอก เพราะมันเป็นข่าวที่ค่อนข้างร้างแรงมาก และมันไม่ได้เพียงแต่จะสร้างความเสียหายให้แก่ผมเท่านั้น แต่มันส่งผลถึงครอบครัวและหลายๆ คนที่ยังพอเป็นห่วงผมอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ แฟนคลับ หรือคนที่รู้จักผม ดังนั้นผมเชื่อว่าข่าวลือมันไปเร็วมากจริงๆ และมันเป็นข่าวลือที่มันไม่น่าที่จะทำ และมันร้ายแรงมากๆ ในชีวิต ก็เลยคิดว่าอยากจะฝากพี่ๆ สื่อบอกดีกว่า เพราะเราเองคงมาตอบคำถามทุกคนคงไม่ไหว”
       
       ต้น : “ก็เฉพาะเมื่อคืนคนที่โทร.เข้าหาน้องโดยตรงก็ 50-60 สายแล้ว น้องก็ไม่ได้นอนเลย คิดว่าตอนนี้ข่าวมันไปเร็วจนเราไม่สามารถแก้ข่าวแบบตัวต่อตัวหรือโทร.ไปบอกได้ทุกคน เพราะตอนนี้ทวิตเตอร์นี้มันไปถึงต่างประเทศแล้วไปถึงแฟนคลับที่จีน ไปถึงเพื่อนที่มาเลเซีย คือมันเยอะจนเรามานั่งแก้ข่าวกันไม่ไหว ก็เลยคิดว่าคงจะต้องรบกวนสื่อมวลชนทุกท่าน”
       
       “ส่วนนึงมันคงเป็นอุทาหรณ์ของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คด้วยว่าประโยชน์กับโทษมันใกล้กันมาก คือบางทีเราคงเห็นแล้วว่ามันมีเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ที่ส่งต่อกันมา บางทีเรายังไม่รู้เลยที่ส่งกันมาว่าคนนั้นเป็นคนเลว คนนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ บางคนก็เชื่อไปแล้ว นี่เป็นตัวอย่าง แต่นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ก็ถ้าคุณพ่อคุณแม่เขาโทร.หาน้องแล้วไม่ติดเมื่อคืนนี้เพราะสายเข้าตลอด ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อาจจะเป็นลมเป็นแล้วหรือช็อคอะไรขึ้นมา กับคนที่แค่เล่นสนุกกับคนอื่น ก็ไม่รู้จะรับผิดชอบกับชีวิตของเขายังไง”
       
       เต็งหนึ่ง : “ผมเคยได้แต่อ่านข่าวคนอื่น เพราะตอนนี้ผมทำรายการหมอชิตติดจออยู่ ก็เคยนั่งอ่านข่าวของเฉินหลงที่มีกระแสข่าวว่าเขาเสียชีวิต ผมยังรู้สึกว่าทำไมถึงเล่นกันแรงขนาดนี้ เพราะในความรู้สึกของผมถ้าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย มันไม่ได้แค่ส่งผลแค่ของตัวเราหรือคนรอบข้าง แต่มันส่งผลถึงหลายๆ คนมากๆ แต่พอมาถึงตัวเองก็ไม่เคยคิดว่าจะเกิด และเป็นสิ่งที่มันไม่น่าจะดีใจเลย เพราะเราก็โดนด้วย ไม่น่าจะเป็นเรื่องเอาไปอวดใครได้ ก็ต้องบอกว่าตกใจมากครับ”
       
       “ผมอยากจะบอกไปถึงคนที่เล่น ผมเชื่อว่าอาจจะเป็นแค่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจจะคิดแค่ว่าเป็นการเล่นกันภายในกลุ่มหรือเล่นกันทั่วๆ ไป แต่สมัยนี้คำว่าโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คมันไปเร็วมากจริงๆ และไม่สามารถจะควบคุมได้ด้วยความที่มันพูดออกไปเรื่อยๆ ความรุนแรงมันจะบวกขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นมันก็สร้างความเสียหาย ผมก็ไม่ได้นอนเลย เพราะทุกคนที่มีเบอร์ผมหรือมีบีบีของผม ผมก็ต้องคอยตอบคำถามทุกคนเหมือนกันหมดว่าผมยังมีชีวิตอยู่นะครับ แล้วก็ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว”
       
       “ผมก็อยากให้เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุด้วยซ้ำไป และผมเชื่อว่าเกิดอุบัติเหตุกับใครก็ตามมันก็ส่งผลเสียอยู่แล้ว ก็อยากให้มันเป็นแค่เรื่องข่าวลือจริงๆ และเป็นสิ่งที่แค่พูดต่อๆ กันจริงๆ และไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริงๆ ครับ”
       
       “ก็ขอบคุณที่ทุกคนถามไถ่กันมาก ขอบคุณที่ทุกคนถามว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ก็ต้องบอกว่ายังมีชีวิตอยู่นะครับ ยังหายใจ ไม่ได้เป็นอะไร(หัวเราะ) ตอนแรกตกใจมาก คนบอกเยอะมากว่าตัวเองเสีย ก็เลยพยายามถามพี่ๆ ที่ใกล้ชิดว่าผมยังอยู่ใช่ไหม ไม่ใช่เสียแล้วไม่รู้ตัวใช่ไหม ก็ขอยืนยันด้วยตัวของผมเองนะครับว่าผมยังไม่ได้เป็นอะไร ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ขอบคุณน้องๆ ทุกๆ คนที่ถามกันเข้ามาเยอะว่าอุบัติเหตุเป็นยังไงบ้าง ก็คือไม่มีจริงนะครับ แล้วก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริงแม้แต่นิดเดียว”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)