Author Topic: ขาลงพีซีทำไมโครซอฟท์กำไรฮวบ  (Read 922 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


      ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยักษ์ใหญ่บริษัทผลิตซอฟต์แวร์อันดับ 1 ของโลกประกาศผลประกอบการไตรมาสปลายปี 2010 ปรากฏว่ามีกำไรลดลงเล็กน้อยตามยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีที่ชะลอตัวลง ผลจากการบุกตลาดของคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตซึ่งกินฐานตลาดคอมพิวเตอร์พีซีไปบางส่วน
       
       ไมโครซอฟท์นั้นถือเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2010 เป็นไตรมาส 2 ปีการเงิน 2011 โดยกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ไมโครซอฟท์สามารถทำได้ 6,630 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 198,900 ล้านบาท) คิดเป็น 77 เซ็นต์ต่อหุ้น ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้าซึ่งไมโครซอฟท์ทำได้ 6,660 ล้านเหรียญ คิดเป็น 74 เซนต์ต่อหุ้น (เหตุที่สัดส่วนกำไรในปีก่อนหน้าสูงกว่าปีล่าสุด เป็นเพราะการลดจำนวนโครงสร้างหุ้นไมโครซอฟท์ในปีที่ผ่านมา)
       
       กำไร 77 เซ็นต์ต่อหุ้นของไมโครซอฟท์ถือว่าเหนือความคาดหมาย โดยนักวิเคราะห์เคยพยากรณ์ว่าจะมีมูลค่าเพียง 68 เซ็นต์ต่อหุ้นเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์ของไมโครซอฟท์ในปี 2010 ต่างจากปี 2009 มากเพราะในปี 2009 กำไรของไมโครซอฟท์ได้รับอานิสงส์จากการเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์เซเว่น (Windows 7) เต็มที่
       
       ไมโครซอฟท์ระบุว่า ยอดขายรวมทั้ง 3 เดือนปลายปี 2010 นั้นเพิ่มขึ้น 5% คิดเป็น 19,950 ล้านเหรียญ (ราว 598,500 ล้านบาท) ความน่าสนใจอยู่ที่สัดส่วนการขายหลักมาจากระบบเกม Kinect กล้องตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อให้อวัยวะของผู้เล่นสามารถควบคุมเกมได้โดยไม่ต้องใช้มือจับอุปกรณ์ใดๆ โดย Kinect ทำให้ไมโครซอฟท์สามารถทุบสถิติคำพยากรณ์นักวิเคราะห์ ที่เคยคาดว่าไมโครซอฟท์จะทำยอดขายได้ราว 19,150 ล้านเหรียญเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของไมโครซอฟท์กลับลดลงจากปีที่แล้วถึง 30% คิดเป็นมูลค่า 5,054 ล้านเหรียญ ต่ำกว่าการคาดการณ์ถึง 300 ล้านเหรียญ จุดนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นผลจากการเติบโตของอุปกรณ์เล่นอินเทอร์เน็ตพกพาที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์พีซี เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ซึ่งทำให้ยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะลดลง รั้งยอดจำหน่ายวินโดวส์ให้ชะลอตัวลงตามไปด้วย
       
       สำหรับซอฟต์แวร์สร้างงานเอกสาร Office ไมโครซอฟท์ระบุว่ามียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 24% เป็น 6,000 ล้านเหรียญ
       
       ด้านธุรกิจบริการออนไลน์ซึ่งไมโครซอฟท์ขาดทุนมาเสมอนั้นก็ยังคงขาดทุนอยู่ในปีนี้ โดยตัวเลขขาดทุนเพิ่มขึ้น 17% เป็น 543 ล้านเหรียญ แม้ว่าเสิร์ชเอนจิ้น Bing จะสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 19% จุดนี้นักวิเคราะห์ชี้ว่า เบ็ดเสร็จ 5 ปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ขาดทุนในธุรกิจออนไลน์ถึง 6,000 ล้านเหรียญแล้ว
       
       Company Related Link :
       Microsoft

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)