Author Topic: 'เดลล์'เผย 5 เทรนด์สู่ไอทียุคใหม่  (Read 864 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


เดลล์เผย 5 เทรนด์นำบริษัทไอทีสู่ยุคคลาวด์คอมพิวติง ที่จะเป็นองค์ประกอบหลักในการจัดการข้อมูลในยุค Virtual Era ส่งผลให้บริษัทไอที จำเป็นต้องมีการลงทุนทางด้านดาต้าเซ็นเตอร์ ให้รองรับข้อมูลที่ขยายขึ้นเท่าตัวในทุกๆปี
       
       นายอโณทัย เวทยากร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มการลงทุนทางด้านไอทีขององค์ร และกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ จะหันไปให้ความสำคัญกับดาต้า เซ็นเตอร์ ในรูปแบบคลาวด์คอมพิวติงมากขึ้น หลังจากเริ่มมีการนำเวอชัลไลเซชันมาใช้งานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
       
       "การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดเก็บข้อมูล เปลี่ยนไปตามยุคสมัย บริษัทใดที่มีการลงทุนทางด้านไอทีก่อน ก็จะได้เปรียบกับการรับยุคสมัยใหม่ที่กำลังจะเข้ามาถึง ซึ่งในปีนี้กำลังจะเข้าสู่ยุคที่เป็น Virtual Era ที่มีการใช้งานข้อมูลจำนวนมาก"
       
       โดย 5 เทรนด์หลักที่กำลังจะทำให้ตลาดไอทีกำลังจะพลิกโฉมไปในอนาคต จะประกอบไปด้วย Consumerization ยกตัวอย่างเช่นเด็กจบใหม่สามารถเลือกใช้ดีไวส์ ที่เหมาะกับการใช้งานของตนเองในการเข้าทำงาน ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอเมริกา ผู้บริหารหลายๆองค์กรได้รับการกดดันจากพนักงาน ให้มีการนำอุปกรณ์พกพาสมัยใหม่เข้ามา ส่งผลให้จำเป็นต้องมีการสร้างเครื่องมือขึ้นมารองรับการใช้งานอุปกรณ์พกพาที่หลากหลายมากขึ้น
       
       ถัดมาคือการนำเครือข่ายสังคมออนไลน์เข้ามาใช้งาน Social / Digital Marketing เนื่องจากยุคสมัยของการค้นหาข้อมูล เริ่มมีการนำเอาข้อมูลจากเครือข่ายสังคมเข้ามาประกอบมากขึ้น ทำให้หลายๆ บริษัทหันมาใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในการทำตลาด แม้แต่เดลล์เองก็เช่นกัน ที่มีการสร้างแฟนเพจบนเฟซบุ๊ก แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อย คือ เดลล์ ไทยแลนด์ เดลล์ โมบิลิตี้ และ เดลล์ เอสเอ็มบี
       
       ขณะที่รูปแบบการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์ จะหันเข้าสู่ Virtualization and Cloud Computing เพราะเมื่อมีการเติบโตของข้อมูลมากขึ้น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเองก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ในเฟซบุ๊กมีการคอมเมนต์กันมากกว่า 500,000 ข้อความใน 1 นาที อัปโหลดรูปมากกว่า 150,000 รูปในแต่ละนาที ส่งผลให้หลายๆบริษัท มีการนำเวอชัลไลเซชัน และ คลาวด์ เข้ามาใช้งานมากขึ้น
       
       "ปัจจุบันองค์กรใหญ่ๆในประเทศไทยกว่า 80% มีการนำเวอชัลไลเซชันมาใช้งานเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าต่อไปก็จะเป็นการพัฒนาไปในทิศทางของ คลาวด์ ซึ่งในเบื้องต้นจะเน้นไปที่การทำไพรเวท คลาดว์ของกลุ่มบริษัทโทรม ธนาคาร และอุตสาหกรรมที่มีหลายสาขาก่อน"
       
       หลังจากที่มีการนำอุปกรณ์พกพาเข้ามาใช้งานแล้ว การทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา Secure Anytime / Anywhere จึงถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการเติบโตของอุตสาหกรรม จากการศึกษาของ ฟอเรสเตอร์ ให้ข้อมูลว่าภายในปี 2014 ยอดขายสมาร์ทโฟนจะสูงถึง 54% เมื่อเทียบกับอุปกรณ์พกพาทั้งหมด ขณะที่ในปี 2011 จะมีปริมาณแท็บเล็ตสูงถึง 45 ล้านเครื่อง
       
       "การเติบโตของตลาดแท็บเล็ตไม่ได้มีมากขึ้นเฉพาะในยุโรป และอเมริกา แต่ตลาดหลักของการเติบโตจะอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งทางเดลล์ก็เตรียมอุปกรณ์พกพา ทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเพื่อเข้ามารับกับการแข่งขันในตลาดแล้ว"
       
       สุดค้ายคือ Unprecedented Data Growth มีข้อมูลจากการ์ทเนอร์ ที่บอกไว้ว่าจำนวนข้อมูลที่เกิดขึ้นในโลก จนถึงปีที่ผ่านมานี้มีทั้งหมด 980 Exabyte แต่ต่อไปโลกของเราจะสร้างข้อมูลเท่ากับที่ผ่านมาภายในหนึ่งปี และจะเพิ่มขึ้นเป็นเทาตัวในทุกๆปี
       
       "จากข้อมูลดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทไอที จำเป็นต้องปรับรูปแบบในการจัดเก็บข้อมูล ให้สามารถรับกับปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาลให้ได้ ซึ่งจากจำนวนข้อมูลทั้งหมด จะมีถึง 95% ที่เป็นข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นและใช้งานเพียงครั้งเดียว"
       
       ในจุดนี้ทางเดลล์มีความพร้อมในการจัดการข้อมูลให้กับลูกค้าดาต้า เซ็นเตอร์ ที่หลากหลายรูปแบบ และเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ในรูปแบบเปิดที่ลูกค้าสามารถนำอุปกรณ์แบรนด์ใดก็ได้เข้ามาทำงานร่วมกันภายในเวอชัลอินทริเกตซิสเต็มส์ ที่เดลล์พัฒนาขึ้นมา
       
       ทางด้านแอโรล ราสิต นักวิเคราห์ข้อมูลเชิงหลักการ กลุ่มดาต้า เซ็นเตอร์ ซิสเต็มส์ การ์ดเนอร์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในอนาคตการใช้งาน SaaS (Software as a Service) จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จากการที่องค์กรหันไปให้ความสนใจกับการบริการค่าใช้จ่าย รวมถึงเทรนด์ของคลาวด์คอมพิวติง และผลักดันให้เกิดการใช้งานในที่สุด
       
       "'งบการลงทุนทางด้านไอทีในปี 2011 จะเป็นปีแรกที่ประเทศในแถบเอเชีย แปซิฟิก มีการลงทุนมากกว่าอเมริกาเหนือ จากปัจจัยในการเติบโตของจีดีพี ในปีที่ผ่านมา เพราะตัวเลขจีดีพีล่าสุดที่ออกมาทั่วโลกมีอัตรการเติบโตที่ราว 4% ขณะที่เอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตสูงถึง 6.5 % ส่วนประเทศไทยมีคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4.6 - 4.7% ในปีที่ผ่านมา "
       
       ขณะที่อัตราการเติบโตของ SaaS ในกลุ่มธุรกิจองค์กรจะสูงขึ้นถึง 14% ในปี 2014 จาก 9% ใน ปี 2009 ดังนั้นเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นสำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับบริษัท SaaS จึงเข้ามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในตลาด
       
       "ในปีที่ผ่านมา บริษัทเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 98 พันล้านเหรียญ ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาเพื่อใช้งานสำหรับโซลูชันภายในองค์กร และจะสูงขึ้นไปถึง 136 พันล้านเหรียญ ในปี 2014 คิดเป็น 40% ของค่าใช้จ่ายทางด้านซอฟต์แวร์ทั้งหมด"
       
       ส่วนทิศทางของคลาวด์คอมพิวติงในช่วงแรก ทางการ์ดเนอร์ให้ข้อมูลว่า กว่า 1,000 บริษัท ทั่วโลกพร้อมที่จะลงทุนสร้างไพรเวทคลาวด์ของตนเอง มากกว่าที่จะใช้งานพับบลิคคลาวด์ที่ให้บริการโดยบริษัทอื่นๆ แต่ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กจะให้ความสำคัญกับพับบลิคคลาวด์ เนื่องจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับบริษัท
       
       Company Relate Link :
       Dell

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)