“โดม” แจงเหตุเหวี่ยงบนคอนเสิร์ต เพราะฉุนทีมงานตปท.ไร้มารยาทพูดซาวด์เช็คและปิดเพลงตน ขณะเปิดแผ่นเป็นดีเจบนเวที บอกโดนกระทำเหมือนเป็นตัวอะไร รับฉุนมากอยู่วงการมา 15 ปีไม่เคยเจอเช่นนี้ เผยได้รับคำขอโทษจากผู้จัดและทีมงานแล้ว เลยไม่ติดใจอะไร
ปกติไม่ค่อยเห็นหนุ่มหล่อขั้นเทพอย่าง “โดม ปกรณ์ ลัม” ของขึ้นมีอารมณ์เหวี่ยงเวลาไปทำงานที่ไหนสักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดเจ้าตัวได้ไปแสดงอาการเหวี่ยงบนเวทีคอนเสิร์ต ดีเซมเบอร์รี่ แอท สนามเสือป่า เมื่อค่ำคืนวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยโดมได้ไปทำหน้าที่ดีเจเปิดเพลง แต่อยู่ดีๆ ก็ของขึ้นเขวี้ยงหูฟังทิ้งกลางเวที ทำเอาแฟนๆ ที่ไปชมถึงกับเซ็งเดินออกจากงานเป็นแถว พอมีข่าวแบบนี้เจ้าตัวเลยรีบชี้แจงข้อเท็จจริง ยอมรับว่าวันนั้นฉุนที่ทีมงานวง Ting Tings พูดซาวด์เช็คแทรกใส่หูฟัง ขณะที่ตนกำลังเปิดเพลง ถือเป็นการกระทำที่เสียมารยาทมาก
“ข่าวที่ว่าผมไปเหวี่ยงในงานๆ นึง อันนี้ดีครับผมอยากจะชี้แจงมากๆ เพราะคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อย่าจับไม่ได้ศัพท์แล้วเอาไปกระเดียด ผมขอร้องเลยครับ เพราะสิ่งที่เอาไปลงข่าวมันสวนทางกับสิ่งที่ผมถูกกระทำ คืองานวันนั้นผมขึ้นเล่นบนเวทีในฐานะดีเจ ผมเปิดเพลงแรกของผมไปยังไม่ทันจบ ผมถูกแทรกด้วยการซาวด์เช็คจากทีมงานแบ็คสเตจของวงชื่อ Ting Tings ซาวด์เช็คในที่นี้ไม่ได้เป็นการซาวด์เช็คแบบธรรมดา แต่มันดังมากๆ พูดใส่ไมค์แทรกเพลงที่ผมกำลังเปิดอยู่ ไม่พอครับ หลังจากนั้นเขาค่อยๆ เบาเพลงผมลงเรื่อยๆ แล้วก็ปิดเพลงผมลงในที่สุด ประมาณเพลงที่สามเอง ผมเปิดไปยังไม่ถึง 10 นาทีเลย”
“ผมขอพูดนิดนึงนะครับว่า การกระทำตรงนี้เป็นการกระทำที่เสียมารยาทมาก วันนั้นหลังจากจบงานทางทีมงานจริงก็มาขอโทษผม ทุกคนบอกว่าเกิดจากการประสานงานที่ผิดพลาด แต่ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วนะ แต่ฝากบอกว่าจริงๆ แล้วงานแบบนี้มารยาทเป็นสิ่งสำคัญ คนที่อยู่บนเวทีคุณต้องรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งหรือใครที่ไหนในโลกนี้ ต้องมีมารยาททั้งนั้นครับ”
“แล้วการที่จะโชว์ต่อ ให้ผมได้โชว์แค่ครึ่งเพลงก็ไม่เป็นไร ถ้าหากงานมันเลท ให้ทีมงานเดินมาบอกผมดีๆ ผมก็พร้อมปิดเพลงให้แล้วโชว์ของคุณก็เริ่ม หรือแม้แต่ผมจะไม่ขึ้นเล่นเลยก็ได้นะวันนั้น จริงๆ แล้วผมก็เตรียมตัวมาแล้ว ถึงแม้ว่างานมันเลทแล้ววงคุณต้องขึ้นเล่น แต่ไม่ใช่ให้ผมเล่นแค่เพลงแรก เสียงแทรก ฮัลโหลเทสต์ๆ เช็ค วัน ทรู ทรี พูดใส่ไมค์ แล้วเสียงอยู่ข้างหูเลย แล้วลำโพงดังมากๆ เขาก็ค่อยๆ เบาเพลงผมลงแล้วปิด ลองคิดดูมันเหมือนกับโดนก้าวก่ายหน้าที่ของเรา เหมือนมองเราเป็นตัวอะไร เราทำงานของเราอยู่แล้วไม่เห็นหัวเราเหรอ ผมว่าผมก็ไม่ได้ตัวเล็กนะ ไฟก็ส่องอยู่ ผมก็ขาวพอสมควร น่าจะเห็นกันบ้างนะ”
เผยเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนโกรธมาก บอกทำงานอยู่ในวงการมา 15 ปีไม่เคยเจออะไรแบบนี้ แต่ก็ได้รับคำขอโทษจากวงดังกล่าวแล้ว ทำให้ไม่ติดใจอะไรอีก
“ยอมรับว่าผมโกรธมาก แล้วผมเชื่อได้เลยว่าไม่ว่าใครก็โกรธทั้งนั้น พอโดนปิดเพลงผมก็ถอดเฮดโฟน แล้วก็โยนเลยครับ แล้วผมก็เดินลงเวทีเลย เพราะผมรู้สึกว่าถูกกระทำโดยไม่มีมารยาท ผมก็เลยไม่รู้จะไปมีมารยาทกับคนที่ไม่มีมารยาทกับผมทำไม แต่ว่าวันนั้นก็ขอโทษแฟนๆ ทุกๆ คนด้วยครับ อย่างข่าวที่ลงไปหาว่าผมเหวี่ยงทำงานเกือบล่ม ผมบอกได้เลยว่าจริงๆ แล้วที่เขาทำกับผม ผมไม่ต้องขึ้นเลยก็ได้ เหมือนกับเขาไม่ได้อยากให้ผมเล่นเลยด้วยซ้ำ เหมือนกับใครมาเปิดเพลงอะไร ฉันจะรีบเล่นรีบเสร็จ นั่นคือสิ่งที่เขาทำกับผม”
“ผมว่าอาจจะเป็นความผิดพลาดของทีมงานแบ็คสเตจของทางวง ซึ่งเขายกทีมเป็นฝรั่งมาหมด แล้วตอนนั้นผมก็อธิบายให้เขาฟังนะ ผมมาเล่นแบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่มาคั่นเวลาหรืออะไร แต่ผมมองว่าการกระทำแบบนี้ต่อให้เป็นดีเจชื่อดัง หรือมีชื่อเสียง หรือต่อให้ผมจะเป็นโนเนมไม่มีชื่อเสียงเลย แต่โดนกระทำแบบนี้มันก็ต้องโมโหทั้งนั้นแหละ มันไม่ได้เกี่ยวว่าผมมีเนมหรือโนเนม มันอยู่ที่ว่าทำไมคุณไม่รู้จักว่าสิ่งที่คุณควรทำคืออะไร”
“ยอมรับว่าตั้งแต่ทำงานมา 15 ปีในวงการ ครั้งนี้ฉุนขาดที่สุดครับ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นการไม่ให้เกียรติ แล้วงานของคนไทยด้วยกันไม่เคยเจอแบบนี้เลย คนไทยเราเรื่องการให้เกียรติเป็นสิ่งสำคัญ ทุกๆ คนก็รู้สึกแย่ไปหมด ไม่ว่าจะเป็นทีมงานหรือผู้จัดเองเขาก็ขอโทษ เราประสานงานผิดพลาดจริงๆ และล่าสุดพอทีมงาน Ting Tings รู้เรื่องก็มาขอโทษผ่านมาทีมงานว่า ไม่รู้จริงๆ ว่าเราอยู่ในลิสต์ที่จะมาเล่นด้วย แต่ว่าผมไม่ได้โกรธเขาแล้วล่ะครับ ในใจผมจบไปแล้ว ก็ไม่เป็นไรไม่ได้ติดใจอะไร”
ที่มา: manager.co.th
