Author Topic: “โจ๊ก” ไม่ทิ้งขว้าง “แฟร์รี่” ยังส่งเงินเลี้ยงดู  (Read 850 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




หลิว มนัสวีร์กับลูกสาว "น้องแฟร์รี่" ภาพจากไทยรัฐ


“โจ๊ก” เผยเร่งทำงานเก็บเงินส่งเสียเลี้ยงดู “น้องแฟร์รี่” บอกปีหน้าโชคดีมีหนัง 3 เรื่อง เลยมีเงินเก็บส่งให้ลูกได้ทีละเป็นก้อน เปรยพับโครงการไปทำงานที่ญี่ปุ่น เพราะมีลูกแล้ว พร้อมบอกไม่เคยพาแฟนใหม่เจอหน้าลูก รอให้ลูกโตกว่านี้ก่อน
       
       ตั้งแต่กลายเป็นคุณพ่อมือใหม่ ดูหนุ่มมาดเซอร์ “โจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ” จะปรับเปลี่ยนตัวเองไปเยอะทีเดียว เพราะเจ้าตัวบอกว่าตอนนี้ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูก เผยปีหน้าจะมีงานหนังให้เห็นถึง 3 เรื่อง ช่วงนี้เลยพอมีเงินเก็บส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้ลูกสาว “น้องแฟร์รี่” ที่เกิดกับดาราสาว “หลิว มนัสวีร์ กฤตานุกูลย์” ได้อย่างสบาย
       
       “ก็มีงานอยู่เรื่อยๆ ครับ มีงานหนัง 3 เรื่อง ก็พอมีเงินเก็บเป็นก้อนๆ ให้น้อง ตอนนี้เขาก็สบายดีครับ จะ 6 เดือนแล้ว ก็ไปหาอาทิตย์ละครั้งสองครั้งครับถ้ามีเวลาก็ไป แต่ล่าสุดผมเพิ่งเข้าไปกับคุณแม่ หน้าเหมือนใครเหรอ ทุกคนบอกหน้าเหมือนผมนะ แต่ผมว่าตาเหมือนพี่หลิว เขาก็แข็งแรงดีครับ มีอยู่ครั้งนึงที่เขาไปฉีดยาครั้งล่าสุด แล้วมีผื่นนิดหน่อย คือปกติเด็กฉีดยาแล้วมีสิทธิ์เป็นไข้ แต่ว่าคุณหมอบอกมันเปอร์เซ็นต์น้อยครับ เขาก็มีผื่นและมีไข้นิดหน่อยก็เลยพาไปหาหมอ ก็คงต้องดูเวลาครับว่าจะไปหาได้มากน้อยแค่ไหน เพราะผมก็คงอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เรามีลูกแล้วก็คงทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้”
       
       เผยพับโครงการที่เคยวางไว้ว่า จะไปทำงานปักหลักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะมีลูกแล้ว ส่วนเรื่องความรักครั้งใหม่ยังสดใส ขอให้ลูกสาวโตก่อนค่อยพามาเจอกัน
       
       “เรื่องจะไปอยู่ญี่ปุ่นอันนี้เป็นแพลนที่วางไว้นานแล้วครับ คือตอนนี้ก็ยังไปได้ แต่ต้องรอดูงานด้วย เพราะงานมันไม่ได้ตายตัวว่า 1-2 เดือนเราจะมีงานทุกวัน อย่างมากอาทิตย์นึงก็อาจจะมีสัก 3 งาน จริงๆ ผมก็อยากไปอยู่นะ ถ้ามันหาเงินได้ดีกว่า ก็กำลังคิดอยู่ว่า ถ้าแค่ไปทำงานแล้วกลับมันจะไหวไหม”
       
       “คือเมื่อประมาณปี 2005 มั้งครับที่ผมไปถ่ายหนังให้เขา เป็นหนัง 30 นาที เพราะมีเพื่อนเป็นโปรดักชั่นอยู่ที่โน่น เขาก็มีบริษัทของเขาเล็กๆ อยู่ มีทำทั้งโฆษณา ทั้งหนัง ทำมิวสิคฯด้วย แต่ที่ผมจะไปทำคือจะไปร่วมงานด้วย แล้วก็จะไปอยู่ในบริษัทนี้ครับ นี่ก็คือวิธีนึงที่คุยกันอยู่ และมีอีกวิธีนึงก็คือไปอยู่โมเดลลิ่งที่โน่น แต่ว่าเรามีลูกก็เลยไม่ได้ไป แต่ถ้าสมมติได้ไปจริงๆ ก็ต้องกลับมาแหละครับ จริงๆ ตอนนี้ผมอยากเรียนต่อด้วย ยังคิดอยู่ว่าจะอะไรดี โครงการจะไปก็เลยพับไปนานแล้ว แต่คือไปได้แต่ไปทำงานแล้วกลับ แต่มันก็จะใช้สตางค์เยอะ เอาเงินค่าตั๋วเครื่องบินตรงนั้นมาให้ลูกดีกว่า มันก็ต้องวัดกันครับว่า ความเป็นไปได้กับรายได้มันได้ไหม”
       
       “ส่วนเรื่องความรักตอนนี้ก็เรื่อยๆ ครับ ผมก็ทำตัวให้มันปกติอย่างปุถุชนธรรมดา ก็ไม่ได้บอกว่าเราเลวขนาดนั้น ก็คือจะต้องควบคุมตัวเองหน่อย เพราะจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน คนที่คุยๆ อยู่ก็ไม่เป็นไงครับ เขาก็ทำงาน ผมก็ทำงานเยอะมากครับช่วงนี้ แต่ก็มีเจอกันบ้าง ผมยังไม่ได้พาไปเจอน้องหรอกครับ คงรอน้องเขาโตก่อน”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)