Author Topic: “โหน่ง” เผยมีลางบอกทำรอดตายปาฏิหาริย์ แต่ “เมียเจี๊ยบ เชิญยิ้ม” รถคว่ำเจ็บแทน  (Read 2433 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



“โหน่ง” เผยเหมือนมีลางบอก ไม่รู้สึกอยากนั่งรถเพื่อนที่เกิดอุบัติเหตุ ทั้งที่ปกติชอบนั่งรถหรู ผลักให้ “เมียเจี๊ยบ เชิญยิ้ม” นั่งแทน รับรู้สึกผิดที่ทำให้เมียเพื่อนเจ็บสาหัส เฝ้าดูแล และส่งกำลังใจให้หายไวๆ บอกตอนนี้หันมาห้อยพระ เพราะยังรู้สึกใจคอไม่ดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
       
       เรียกว่าโชคช่วยและเกิดปาฏิหาริย์สุดๆ สำหรับตลกดังอย่าง “โหน่ง ชะชะช่า” หรือ “นายชูศักดิ์ เอี่ยมสุข” ที่รอดตายหวุดหวิดจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ ขณะรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ กว่า 10 ชีวิต ไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนที่จ.กาญจนบุรี ซึ่งในครั้งนี้มี “แหม่ม เบญจมาศ มาสิงห์” ภรรยาของตลก “เจี๊ยบ เชิญยิ้ม” หรือ “เฉลิม ปานเกิด” ร่วมเดินทางไปด้วย
       
       โดยทีแรก “นายพงศ์พันธ์ เกษมสวัสดิ์” ผู้ที่ขับรถออดี้ ได้ชักชวนให้ “โหน่ง” นั่งรถคันเดียวกัน แต่เจ้าตัวตอบปฏิเสธขอนั่งรถอีกคัน และให้ “แหม่ม” ภรรยาของ “เจี๊ยบ” ไปนั่งแทน กระทั่งเกิดอุบัติเหตุทำให้ “นายพงศ์พันธ์” เสียชีวิตทันที ส่วนภรรยาของ “เจี๊ยบ” บาดเจ็บสาหัสกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่ง “โหน่ง” ได้เผยถึงนาทีระทึก และสาเหตุที่ทำให้รอดพ้นนาทีวิกฤตชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดว่า
       
       “จริงๆ แล้ววันที่เกิดเหตุเป็นวันเกิดผมด้วย ซึ่งตอนแรกผมจะไม่ไป เพราะกำลังเตรียมเปิดร้านอาหารอยู่ต้องทำโน่นทำนี่ ตอนเช้าผมก็เลยโทร.ไปบอกทีมงานที่จะไปว่าไม่ไปได้ไหม แต่เพื่อนๆ ในแก๊งฮาเล่ย์ก็มาชวนอีกก็เลยไป แล้วจริงๆ ผมต้องนั่งคันเดียวกับพี่โบ้คนขับผู้เสียชีวิต ทีนี้ไม่รู้ว่าวันนั้นเป็นยังไง คือ ผมเป็นคนชอบรถอยู่แล้วไง ยิ่งรถแรงๆ ผมชอบมาก เจอต้องนั่งให้ได้ ไม่มีพลาดหรอก ยังไงผมก็ต้องนั่งคันนี้เพราะมันสวย แต่คันอื่นไม่สวยไง”
       
       “คือ วันนั้นมีรถสวยอยู่สองคัน เบนซ์ไม่ต้องพูดถึงสวยอยู่แล้ว อีกสองคันก็คือ รถพอร์ช แล้วก็ออดี้คันที่เกิดเหตุนี่แหละ ยังไงผมก็ต้องเลือกนั่ง แต่วันนั้นไม่รู้เป็นยังไง ผมเลือกนั่งรถธรรมดาๆ ดีกว่าไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน ในใจก็คิดเหมือนกันว่าจะให้น้องแหม่มมานั่งคันนี้ดีกว่า เดี๋ยวผมไปนั่งคันนั้นเอง มีแต่คนชวนผมให้นั่งคันนี้ ให้นั่งคันที่ประสบอุบัติเหตุ แต่วันนั้นไม่รู้นึกยังไงถึงบอกไม่เป็นไรให้น้องแหม่มไปนั่งแล้วกัน พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกสลดใจเหมือนกัน จะเรียกว่าเห็นคาตาก็ได้”
       
       “เพราะรถกลิ้งไปเกือบครึ่งกิโลเมตร ไกลมากจริงๆ ขนาดรถผมที่ขับตามมายังหารถไม่เจอ พยายามมองหาตอนแรกนึกว่ารถตกน้ำ จริงๆ รถไม่ได้ตกน้ำอยู่บนบก แต่รถมันตีลังกาไป แต่ซากรถมองไม่เห็นเลย ผมก็ถามชาวนาแถวนั้นว่าเห็นรถไหม เขาบอกว่า ก็จอดอยู่ตรงข้างหน้านี่ไง แค่บอกว่าจอดอยู่ข้างหน้าผมเห็นรถก็ช็อกเลย เพราะมันไม่เหลือสภาพที่เราเห็นครั้งแรกเลย ผมก็วิ่งไปใกล้ๆ แต่มองคนในรถไม่เห็น นึกว่าคนตกน้ำแล้ว แต่พอถามคนแถวนั้นเขาก็บอกว่าคนอยู่ในรถ เราก็ได้ยินเสียงน้องแหม่มร้องโอย ผมก็ดีใจที่เขารอด แต่พอหันกลับไปหาพี่โบ้คนขับหลับอยู่ ผมก็พยายามปลุกเขา เขาก็ตื่นมานิดนึงแล้วก็เสีย”
       
       “แต่น้องแหม่มจับไม่ได้ครับ เพราะพอผมจับแล้วน้องเขาก็ร้อง เราก็ไม่กล้าขยับเขา ก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมาช่วยดีกว่า เพราะจับเดี๋ยวกระดูกเคลื่อน เราก็เลยปล่อย คืนนั้นก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยอยู่กับแหม่มตลอด ให้กำลังใจตั้งแต่ฉีดมอร์ฟีนเพื่อให้น้องหายปวด ดูแลแทนเจี๊ยบเลย แล้วเจี๊ยบก็จะมาที่โรงพยาบาล แต่ผมบอกว่าไม่ต้องมา เพราะเดี๋ยวจะย้ายไปโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์แล้ว”
       
       “ตอนแรกที่เห็นเหตุการณ์ ก็คือ น้องเขาเจ็บปวดมาก เขากระดูกหลังหัก ซี่โครงหักสองซี่ แล้วมีแขนหักด้วย จริงๆ แขนไม่สำคัญเลยหักช่างมันต่อได้ ที่สำคัญเป็นห่วงน้องมาก ก็คือเรื่องกระดูกข้างหลัง เพราะทับเส้นประสาทน้องเขาด้วย กลัวว่าเขาจะเดินไม่ได้ แต่ก็ให้กำลังใจน้องเขาตลอดตั้งแต่โรงพยาบาลแล้ว ตั้งแต่ในรถแล้วบอกให้เขานอนนิ่งๆ เดี๋ยวหมอมาช่วย แต่น้องเขาเก่งและเข้มแข็งมากเลย เจ็บแค่ไหนเขาก็ทนได้”
       
       “แล้วก็สงสารเจี๊ยบด้วย จริงๆ เราเปรียบเสมือนพี่น้องกันหมดนะ เวลาเรากินข้าวก็จะโทรนัดกัน ไปทานด้วยกันตลอด เหมือนบ้านเดียวกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว ยังไงก็ขอให้น้องแหม่มหายเร็วๆ แล้วกันนะครับ ขอให้สุขภาพแข็งแรง ค่อยๆ เดินก่อนอย่าเพิ่งหักโหมมากมาย เพราะกระดูกเพิ่งต่อ ก็เป็นกำลังใจให้น้องสองคนด้วย”
       
       เผยตอนนี้หันมาห้อยพระติดตัวจากที่ปกติไม่ทำ เพราะยังใจคอไม่สู้ดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
       
       “จริงๆ เป็นคนกลัวผีนะ แต่กับพี่โบ้ผมไม่ได้กลัว แต่ก็มีบ้างนิดหน่อย เพราะตอนที่แกเสียเราอยู่เป็นคนแรกๆ เลย มันเป็นอะไรที่ต่อหน้าต่อตาเลย ภาพมันติดตาเลย ถามว่าเราได้พกของดีอะไรติดตัวหรือเปล่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พระที่ผมห้อยอยู่นี้เพิ่งใส่ เพราะผมไม่สบายใจ ผมนอนไม่หลับ ทำไมผมไม่นั่งรถคันละตั้ง 13 ล้าน เจอรถสวยผมต้องนั่งให้ได้ ผมแปลกใจมากเลย ก็อาจจะเป็นดวงน้องด้วย”



ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)