Author Topic: ซันเปิดโมเดลเอสอีพีผนึกพันธมิตร รุกตลาดครบวงจรรับมือเศรษฐกิจ  (Read 970 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

ซันแจงต่อยอดยุทธศาสตร์พาร์ตเนอร์โมเดลครบวงจร คลอดโมเดลเอสอีพี เตรียมเสริมทัพรุกตลาดไอทีไทย รับมือสภาพเศรษฐกิจผันผวนทั่วโลก

 นางรัมภา มนูญศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซัน ได้ทำโครงการ Sun Equity Partner (SEP) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายการลงทุนของซัน ไมโครซิสเต็มส์ที่มีต่อพาร์ตเนอร์ทั่วโลก มองที่การขยายตัวของบริษัท ผนวกกับปัจจัยทางเศรษฐกิจภายนอกที่มองทั่วโลกไม่ดี แต่เศรษฐกิจเอเชียจะฟื้นเร็วกว่าภูมิภาคอื่น และไทยก็อยู่ในภูมิภาคนี้จึงมีโอกาสฟื้นตัวเร็วเช่นกัน จึงนำโครงการเอสอีพีมาทำในไทยด้วย


 การจัดทำโครงการนี้ โดยเนื้อหาหลักจะมุ่งการรองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ การดูแลลูกค้าและพาร์ตเนอร์ การฝึกอบรม ไม่ให้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งฝั่งของพนักงานก็จะไม่ทำให้เกิดความยุ่งยากใดๆ


 "ไม่ได้มีประเด็นจะตัดคนออก เพราะคนเป็นคีย์ ซัคเซสที่สำคัญต่อการรันธุรกิจ เหมือนๆ กับหลายๆ ธุรกิจในบ้านเราที่เปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นได้ตลอดเวลา"


 เธอ กล่าวว่า รายงานข่าวที่ออกมาสร้างความกังวลใจต่อพนักงานส่วนใหญ่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นพูดถึงผลตอบแทนพนักงาน แต่สิ่งใดที่เป็นผลประโยชน์ของพนักงาน ก็ต้องดูแล สิ่งที่ดีๆ ต้องคงไว้ทั้งวัฒนธรรมองค์กร และผลตอบแทนต่างๆ


 ทั้งนี้ บริษัทได้มีชี้แจงพนักงานเป็นระยะๆ แต่อาจมีบางคนที่อาจไม่แน่ใจ วิตก วิพากษ์วิจารณ์ไปก่อนก็เป็นได้


 ส่วนการเจรจาระดับพาร์ตเนอร์กำลังดำเนินการ และจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
 ก่อนประกาศรูปแบบเอสอีพีในไทย ซันได้ประกาศที่มาเลเซียแล้วเมื่อต้นเดือนเม.ย. โครงการนี้เป็นการร่วมทุนระดับโลกรูปแบบหนึ่ง ที่ออกแบบมาเพื่อขยายตลาดและการดำเนินงานของซันในตลาดสำคัญที่กำลังเติบโต ผ่านการผนึกกำลังทางยุทธศาสตร์กับพาร์ตเนอร์ที่ได้รับเลือก


 เอสอีพีมีรูปแบบตามแนวคิดที่จะขยายบทบาทของพาร์ตเนอร์ในการบริหารการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของซัน ขณะเดียวกันก็ใช้ความรู้ความชำนาญของพาร์ตเนอร์และเครือข่ายที่มีในตลาดประเทศนั้นๆ เพื่อเข้าถึงและให้บริการลูกค้าของซันได้สะดวกและดียิ่งขึ้น


 นายปีเตอร์ ไรอัน รองประธานฝ่ายการขายและบริการโลก บริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ กล่าวว่า การนำโมเดลธุรกิจเอสอีพีมาใช้ ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อตลาดไทย การผนึกกำลังร่วมกันกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำจะช่วยให้ซันยืดหยุ่นและคล่องตัวในการขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วในตลาดที่มีศักยภาพการเติบโต พร้อมเพิ่มความมั่นใจด้านบริการให้ลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดและทั่วถึง


 การผนึกกำลังด้วยโมเดลธุรกิจครบวงจรนี้ จะช่วยเสริมสถานะของซันด้านความเป็นผู้นำทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และจะมีบทบาทสนับสนุนการใช้งานโซลูชั่นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้านต่างๆ ของซัน


 นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวเพื่อรับมือสถานการณ์ระยะยาว โดยเฉพาะปัจจุบันที่สภาพเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว อาจมีหลายๆองค์กรข้ามชาติที่ต้องลดขนาดหรือปิดตัวไป ด้วยไม่สามารถเปลี่ยนและปรับตัวให้ทันต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในแต่ละประเทศหรือภูมิภาคได้ การจะก้าวกระโดดทางด้านธุรกิจให้สวนกระแสเศรษฐกิจที่ชะลอตัวให้ได้ จึงทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจที่เป็นทางเลือกใหม่ๆ ขึ้น


 รูปแบบการดำเนินงานของเอสอีพีที่ได้เปรียบในเรื่องความยืดหยุ่นและครบวงจรนี้จะช่วยให้ซันและพาร์ตเนอร์ ตลอดจนลูกค้าผู้ใช้งานสามารถรับมือและเดินหน้าทางธุรกิจต่อไปอย่างมั่นใจ


 นายไลเนล ลิม ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดี ที่จะนำโครงการนี้มาใช้ในไทยทั้งลูกค้าและพาร์ตเนอร์ที่มีจะได้รับประโยชน์จากการร่วมมือเชิงลึกครั้งนี้ เพราะโมเดลธุรกิจนี้ นอกจากจะยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการและเทคโนโลยีชั้นนำจากซันต่อลูกค้าเช่นเดิมแล้ว ยังจะเสริมเพิ่มเติมให้ครบวงจรด้วยบริการและเครือข่ายธุรกิจที่มากขึ้นจากพาร์ตเนอร์ชั้นนำในภูมิภาคนี้อีกด้วย


 เอสอีพีมีรูปแบบมาจากโครงการความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิบปินส์เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งได้สนับสนุนการขายของซันและให้บริการแก่ลูกค้ารายสำคัญๆ และพาร์ตเนอร์มากมาย หลังจากนั้นโมเดลธุรกิจเอสอีพีได้เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ก.พ. 2551 และดำเนินการจนประสบความสำเร็จที่เวียดนาม


 จากนี้ซันยังมีแผนงานที่จะขยายรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบนี้ในตลาดหลักๆ ของภูมิภาคเอเชีย ละติน อเมริกา อัฟริกาและยุโรป ต่อไป


 ซันให้บริการลูกค้าในไทยมาตั้งแต่ปี 2538 และเข้ามาดำเนินการเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2541

ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)