Author Topic: “ปิ่น” เผยเจอนักบวชมหัศจรรย์ช่วยไม่ต้องผ่ากระดูกสะโพกขวา  (Read 984 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




“ปิ่น” เผยอาการผ่ากระดูกสะโพกซ้ายเกือบหายเป็นปกติแล้ว บอกอีก 3 เดือนครึ่งรับงานได้เหมือนเดิม และไม่ต้องผ่าสะโพกอีกข้าง เพราะเจอนักบวชช่วยทำพิธี และเกิดสิ่งมหัศจรรย์ทำให้กระดูกกลับมาดี ทั้งไม่สนคนว่า “เจ” ช่วยคนประสบภัยน้ำท่วมเพราะอยากสร้างภาพ บอกอย่างน้อยยังลุกมาช่วยกัน
       
       หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายกระดูกสะโพกซีกซ้ายไป ตอนนี้ก็เริ่มเห็นคุณแม่ลูกสาม “ปิ่น เก็จมณี วรรธนะสิน” สามารถเดินเหินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ และออกมารับงานได้บ้างแล้ว แถมยังดูยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาก โดยเจ้าตัวเผยว่าไม่ต้องกลัวเรื่องผ่าตัดสะโพกซีกขวาอีกข้าง เพราะตอนนี้กระดูกที่ดูเหมือนจะตายไปแล้ว กลับมาเกือบหายเป็นปกติ เนื่องจากตนได้ไปพบนักบวชช่วยทำพิธีให้ และเกิดผลลัพธ์อย่างสุดมหัศจรรย์ทีเดียว
       
       “อาการตอนนี้ดีใจมากเลยค่ะ เพราะว่ากำลังไปในทิศทางที่ดีมาก ตอนแรกเหมือนถอยหลังลงมาสเต็ปนึง ก็ไปพักนอนอยู่ที่เตียง 2 อาทิตย์ แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ยังนั่งนานๆ ไม่ค่อยได้ค่ะ คือขับรถได้เพราะเราผ่าข้างซ้าย แล้วเราใช้เกียร์ออโต้ก็ขับข้างขวา แต่ว่าถ้ารถติดเป็นชั่วโมงก็จะปวด เราก็ต้องเปลี่ยนอิริยาบถ สมมตินั่งสักครึ่งชั่วโมงก็ต้องยืดนอน หรือเดินช้อปปิ้งนานๆ ก็ยังไม่ได้ ต้องใช้วีลแชร์”
       
       “ตอนนี้ก็ยังเป็นห่วงอยู่ค่ะ เพราะกระดูกยังต่อกันไม่ได้ ต้องอีก 3 เดือนครึ่งที่ผ่าเอาไว้มันถึงจะต่อกัน แล้วอีกข้างนึงอันนี้ก็อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน เพราะปิ่นได้ไปรักษากับคุณพ่อนักบวชชาวฟิลิปปินส์ ก็เกิดอัศจรรย์กระดูกที่เหมือนตายไปแล้วหายเกือบเป็นปกติแล้ว ทำให้ไม่ต้องผ่าอีกข้างนึง วิธีก็คือเหมือนประทับมือลงในโบสถ์ค่ะ เขาเรียกว่าวิธีฮีลลิ่ง”
       
       “กระดูกฝั่งขวาคิดว่าไม่ต้องทำอะไรแล้วเลยค่ะ เพราะว่าดูจากฟิล์มเอ็กซเรย์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว จากที่ดูกระดูกมันตายไปสัก 60% ตอนนี้เหลืออีกสัก 10-20% ซึ่งมันอาจจะพัฒนาไปในทางปกติได้ ก็ไม่ต้องยุ่งกับมันเลย คุณหมอก็แปลกใจนะคะ ยังหันมาถามว่าไปทำอะไรมา ไปทานอะไรมาหรือเปล่า แต่ถ้าพูดไปมันก็ไม่ใช่เรื่องทางวิทยาศาสตร์ ก็เลยไม่ได้พูดอะไร แต่กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราเครียดโรคทุกอย่างมันก็จะมาหมด แต่ทีนี้ถ้าเราอารมณ์ดีพักผ่อนเพียงพอ ทานอาหารดี สุขใจทุกอย่างมันก็ดีขึ้น”
       
       บอกพร้อมกลับมารับงานเต็มที่อีกครั้งในอีก 3 เดือนครึ่งข้างหน้า อ้อนผู้จัดอยากกลับมาเล่นละคร
       
       “ตอนนี้ก็สามารถเดินได้ แต่ก็ต้องระวัง เพราะมันก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นปกติ คุณหมอก็สั่งว่าห้ามหกล้ม(หัวเราะ) ห้ามเด็ดขาด ถ้าล้มก็เจ๊งหมดเลย ต้องผ่าตัดใหม่ ก็ต้องรักษามันดีๆ ค่ะ อย่าเดินเยอะ อย่าออกกำลังกาย อย่าใช้มันเยอะเกินไป คือยืนเฉยๆ ยังโอเค แต่ถ้าเดินหรือว่าขึ้นลงบันไดจะเป็นการลงน้ำหนักเยอะ อะไรที่ต้องทิ้งน้ำหนักตัวก็จะไม่ดี”
       
       “เรื่องรับงานก็คงต้องอีก 3 เดือนครึ่งค่ะก็คงจะปกติ จริงๆ ก็อยากกลับมาเล่นละครนะคะ แต่ก็คงว่ากันไปตามนั้น ยังไม่ทราบว่าจะมีใครอยากให้เล่นหรือเปล่า(หัวเราะ) เดี๋ยวก็ลองดูค่ะ ส่วนเรื่องฟาร์มม้าจริงๆ อย่าเรียกว่าฟาร์มดีกว่า เป็นอารีน่า เป็นไร่ดีกว่า ก็คงจะทำอยู่ค่ะ แต่เอาไว้ให้มีแรงเดินก่อน ตอนนี้ก็ยังพักเอาไว้ ก็คงไม่ได้ขี่เองแล้ว คงแค่เล่นกับมัน เพราะถ้าขี่คงอันตรายมันก็ไม่คุ้มกัน อุตส่าห์ไปผ่าอุตส่าห์รักษามาแทบตาย ถ้าตกลงมาอีกทีก็จบเลย(หัวเราะ)”
       
       “ส่วนตอนนี้กับลูกๆ ก็จะอยู่ด้วยกันช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาเขาก็ไปโรงเรียน แต่วิ่งไล่จับเขาไม่ได้ ได้แต่เดินช้าๆ เดินเร็วก็ยังไม่ได้ แต่ก็สู้มากค่ะ คือเราเป็นคนไม่คิดมากอยู่แล้วด้วย เขาให้ทำอะไรก็ทำหมด ต้องนอนตั้งแต่หัวค่ำก็นอน ห้ามเดินก็ไม่เดิน บางทีก็ต้องนอนทานอาหารที่เตียง กิจกรรมที่จะเล่นกับลูกก็ต้องอดใจทุกอย่าง ไม่ได้ไปอยู่บ้านร่วมกับลูกด้วย คือบ้านนั้นจะเป็นสองชั้น ปิ่นก็ต้องไปอยู่บ้านคุณแม่ ซึ่งเป็นบ้านชั้นครึ่งไม่ต้องขึ้นลงบันไดเยอะ”
       
       เผยกรณีสามีรูปหล่อ “เจ เจตริน วรรธนะสิน” โดนด่าว่าสร้างภาพที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บอกแล้วแต่คนจะคิด
       
       “เจดูแลไหมเหรอ ไปช่วยคนอื่นก่อนดีกว่าค่ะ มีคนเดือดร้อนมากกว่าปิ่น ทางปิ่นก็โอเคแล้วในระดับนึง คือเราก็ได้สอนลูกว่า ให้รู้จักเสียสละเวลาของตัวเอง และมีแรงไปช่วยคนอื่น ซึ่งเขาก็ดีใจที่เห็นพ่อไปช่วยเหลือคนอื่น ปิ่นก็จะคอยเปิดรูปให้ดู เจ้าขุนตัวแสบก็จะบอกว่าแล้วพ่อจะเป็นฮ่องกงฟุตไหม (หัวเราะ) แล้วจะโดนไฟช็อตหรือเปล่า แต่เราก็จะสอนเขาว่าอะไรที่ประมาทก็จะไม่ทำ แล้วเราก็ไปช่วยคนที่เขาลำบากกว่าเรา ตอนแรกเจจะเอาเจ้านายไปด้วย แต่รู้สึกจะลำบากไปหน่อย และลูกต้องไปโรงเรียน ก็เลยไม่ได้เอาไป เขาก็อยากไปนะคะ ถ้าเขาช่วยได้เขาก็อยากจะช่วย”
       
       “เรื่องที่มีคนว่าเจสร้างภาพ อันนี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ต่างคนต่างจิตต่างใจ จะคิดอะไรเราคงไปห้ามความคิดไม่ได้ แต่ว่าอย่างน้อยอยากให้ทุกคนลุกขึ้นมาช่วย จะสร้างภาพหรือว่าไม่สร้างภาพก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็ลุกขึ้นมาช่วยกัน เพราะมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือเยอะมากค่ะ”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)