ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลก "โนเกีย" ประกาศพร้อมลอยแพพนักงาน 1,800 คนกลางงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2010 ระบุจะปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อทุ่มเทให้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนซิมเบียนเต็มตัว หลังไตรมาสที่ผ่านมาเดินถูกทางจนทำให้กำไรสุทธิโนเกียเพิ่มขึ้นเป็น 403 ล้านยูโร เทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปีที่แล้วที่ขาดทุน 426 ล้านยูโร (อัตราแลกเปลี่ยน 42.4 บาท ต่อ 1 ยูโร ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2553)
โนเกียระบุว่าตัวเลขยอดขายตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา (กรกฏาคม-ตุลาคม 53) เพิ่มขึ้น 5% เป็น 10,300 ล้านยูโร (ราว 436,720 ล้านบาท) สามารถจำหน่ายโทรศัพท์ได้ 110.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 2% ในไตรมาส 3 ปี 2009 คาดว่ายอดขายอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในปี 2553
ยังไม่มีความแน่ชัดว่าการปลดพนักงาน 1,800 คนจากจำนวนพนักงานรวมขณะนี้คือ 131,500 คนทั่วโลกจะมีผลต่อโนเกียประเทศไทยอย่างไร โดยสตีเฟ่น อีลอป ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโนเกียซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมาระบุว่า จะเป็นการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการพัฒนา
ในส่วนของตลาดสมาร์ทโฟน โนเกียมียอดขายอยู่ที่ 26.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาส 2 และคาดว่าจำนวนสมาร์ทโฟนในตลาดสิ้นไตรมาส 3 จะมีปริมาณทั้งหมด 70.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และโนเกียจะมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 38%
อีลอป ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ระยะเวลา 5 สัปดาห์ที่ได้ร่วมงานกับโนเกีย ได้เห็นถึงศักยภาพ และประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จ มีศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และมีทรัพยากรที่จำเป็นในการเป็นผู้นำและก้าวผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายของอุตสาหกรรมมือถือ ทั้งยังจะพัฒนากลยุทธ์และการปฏิบัติงานที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะทำให้ลูกค้าพึงพอใจและสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
Company Relate Link :
Nokia
ที่มา: manager.co.th