สื่ออเมริกันตั้งข้อสังเกต ว่าคอมพิวเตอร์แมคอินทอชพกพา MacBook Air รุ่นใหม่ขนาดน่าใช้ 11.6 นิ้วและ 13.3 นิ้วซึ่งแอปเปิลเพิ่งเปิดตัวเมื่อวันพุธที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา จะวางจำหน่ายโดยไร้โปรแกรมปลัคอิน Adobe Flash ในเครื่อง ถือเป็นมิติใหม่เพราะคอมพิวเตอร์แมคอินทอชมักจะติดตั้งโปรแกรม Adobe Flash มาจากโรงงาน ทำให้หลายคนสันนิษฐานว่า คอมพิวเตอร์แมคอินทอชทุกรุ่นในอนาคตอาจจะไม่ติดตั้งโปรแกรมแฟลชเลยก็ได้
สื่อที่ตั้งข้อสังเกตถึงเกาเหลาชามโตของแอปเปิลและอโดบีที่กำลังลามออกนอกสังเวียนอุปกรณ์เคลื่อนที่มาสู่ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคือ Engadget เว็บไซต์เทคโนโลยีชื่อดังพบว่าแมคบุ๊กแอร์ที่แอปเปิลเพิ่งเปิดตัวนั้นไม่มีโปรแกรมเสริมหรือ plugin แฟลช ซึ่งผู้ใช้จะสามารถใช้งานคอนเทนท์แฟลชบนแมคบุ๊กใหม่บางเฉียบได้ก็ต่อเมื่อติดตั้งโปรแกรม Flash Player ด้วยตัวเองแล้ว
นี่ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของแอปเปิลหลังจากตลอดปีที่ผ่านมา แอปเปิลและอโดบีแสดงท่าทีไม่กินเส้นกันผ่านสาธารณชนแบบไม่ปิดบัง ที่หนักข้อและแตกหักที่สุดคือการประกาศจุดยืนไม่รองรับโปรแกรมแฟลชบนอุปกรณ์แอปเปิลทุกรุ่นที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS โดยสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ซีอีโอแอปเปิลให้เหตุผลว่าเป็นเพราะแฟลชนั้นทำงานได้ไม่ดีบนอุปกรณ์พกพาของแอปเปิล แม้แอปเปิลจะเคยย้ำให้อโดบีแก้ไขมาตลอด
นอกจากอุปกรณ์พกพา จ็อบส์ยังเคยอ้างว่าแฟลชนั้นเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการทำให้ระบบคอมพิวเตอร์แมคอินทอชขัดข้อง ซึ่งแม้อโดบีจะปฏิเสธพร้อมระบุว่าทั้งหมดเป็นคำกล่าวหาที่โคมลอย แต่การไม่ติดตั้งโปรแกรมแฟลชในแมคบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุด ก็แสดงว่าแอปเปิลไม่สนใจคำแก้ต่าง และยึดจุดยืนเดิมในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเพิ่มอีกทางหนึ่ง
สำหรับแมคบุ๊กใหม่ที่แอปเปิลเปิดตัวในงาน "Back to the Mac" ประกอบด้วยรุ่นหน้าจอขนาดใหม่ 11.6 นิ้วเบาพิเศษ และขนาด 13.3 นิ้วซึ่งปรับปรุงจากรุ่นเก่าด้วยการเพิ่มความสามารถในการเปิดการทำงานบางคุณสมบัติแบบทันใจและง่ายดาย ครั้งนี้แอปเปิลถูกวิจารณ์ว่ากำลังพยายามปฏิวัติคอมพิวเตอร์แมคอินทอชให้เข้าใกล้ไอโฟน (iPhone) และไอแพด (iPad) ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตของแอปเปิล เนื่องจากการเก็บข้อมูลบนหน่วยความจำแฟลชเมมโมรี่ (flash memory) ปลดระวางไดร์ฟซีดีและดีวีดีรวมถึงฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ บนเหตุผลว่าจะทำให้แมคอินทอชสามารถบูตเครื่องได้เร็วทั้งในกรณีเปิดเครื่องปกติ หรือการปลุกเครื่องให้ออกจากโหมดนอนหลับหรือ sleep เพื่อการประหยัดพลังงาน
ความโดดเด่นของแมคบุ๊กแอร์หนีไม่พ้นความบางเฉียบ โดยจุดที่หนาที่สุดมีความหนาเพียง 0.68 นิ้ว เฉพาะฝาพับหน้าจอบาง 0.11 นิ้ว รุ่น 13 นิ้วน้ำหนัก 2.9 ปอนด์ สามารถใช้งานต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง ผลพวงจากการใช้ชิปประมวลผล Core 2 Duo จากอินเทล (Intel) การ์ดจอ GeForce 320M รุ่นจอ 11 นิ้วน้ำหนัก 2.3 ปอนด์ ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง ทั้งคู่สามารถเปิดเครื่องสแตนบายได้นานถึง 30 วัน
สนนราคาแมคบุ๊กแอร์จะแบ่งตามขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล เริ่มต้นที่ 999 เหรียญ (30,000 บาท) สำหรับรุ่น 11 นิ้วขนาด 64 กิกะไบต์ จนถึง 1,599 เหรียญ (48,000 บาท) สำหรับรุ่น 13 นิ้วบนความจุ 256 กิกะไบต์
ครั้งนี้แอปเปิลเรียกเสียงฮือฮาด้วยการเพิ่มระบบวิดีโอแชต FaceTime ลงในแมคบุ๊ก หลังเปิดตัวความสามารถนี้ใน iPhone 4 เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็เปิดตัวโปรแกรม iLife ชุดโปรแกรมจัดการภาพ ตัดต่อวิดีโอและเพลง รวมถึงงานเบ็ดเตล็ดอื่นๆเวอร์ชันใหม่ พร้อมกับเปิดโปรแกรม iPhoto ซึ่งเอื้อต่อการติดต่อสื่อสารบนเครือข่ายสังคมเฟสบุ๊ก (Facebook) มากขึ้น เช่นการแสดงคอมเมนท์จากเพื่อนในเฟสบุ๊กได้ สามารถจัดการภาพแบบเต็มหน้าจอได้ รวมถึงมีรูปแบบสไลด์โชว์ให้เลือก
ราชาคำราม
ที่เรียกเสียงฮือฮาอีกจุดในงานนี้ คือการเปิดตัวระบบปฏิบัติการแมคอินทอชใหม่ล่าสุด Mac OS X 10.7 ในชื่อ Mac OS X Lion แมวใหญ่ราชาแห่งป่าจะมาพร้อมคุณสมบัติใหม่มากมายที่มีในระบบปฏิบัติการ iOS ซึ่งแอปเปิลติดตั้งในอุปกรณ์พกพา กำหนดการออกลายคือฤดูร้อนปีหน้า คาดว่าจะพ่วงร้านจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องแมคอินทอชนาม Mac App Store ลักษณะเดียวกับร้าน iTunes ที่จำหน่ายแอปพลิเคชันและคอนเทนต์แก่ผู้ใช้ไอโฟน ไอแพด และไอพ็อดทัช
จุดนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถกระตุ้นความสนใจในคอมพิวเตอร์แมคอินทอชได้ โดยล่าสุด ผลการวิจัยจากไอดีซีพบว่า แมคอินทอชนั้นมีสัดส่วนตลาดราว 4% ของยอดจัดส่งคอมพิวเตอร์พีซีทั่วโลกเท่านั้น โดยคาดว่านักพัฒนาจะสามารถส่งแอปพลิเคชันเพื่อเริ่มทดลองใช้งานบนแมคได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อวางจำหน่ายผ่านร้าน"แมคสโตร์"ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
สำหรับโปรแกรม iPhoto, iMovie และ GarageBand แอปเปิลเริ่มจำหน่ายแล้วในราคา 49 เหรียญสหรัฐ โดยผู้ที่ซื้อแมคอินทอชหลังวันที่ 1 ตุลาคมจะสามารถซื้อโปรแกรมได้ในราคา 7 เหรียญ
กำหนดการจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่เปิดเผย แต่ในเว็บไซต์ของแอปเปิล ระบุว่าสามารถจัดส่งของได้ภายใน 2 อาทิตย์ สนนราคาเครื่อง 11 นิ้ว ที่ใช้หน่วยความจำขนาด 64GB อยู่ที่ 34,900 บาท และ 128GB อยู่ที่ 40,900 บาท ส่วนรุ่น 13 นิ้ว 128GB อู่ที่ 44,900 บาท แล้ว 256GB อยู่ที่ 55,900 บาท
Company Related Link :
Apple
ที่มา: manager.co.th