โอกาสในตลาด "โมบายล์ แอปพลิเคชั่น"

[Nick]

คอลัมน์ ไอทีทะลุโลก

โดย siripong@kidtalentz.com

นับตั้งแต่เปิด ไอจูนส์ แอปสโตร์ ขึ้นมาในปี 2552 พร้อมกับการเปิดตัวไอโฟน 3G และ ไอโฟน ซอฟต์แวร์ 2.0 จนถึงขณะนี้ แอปพลิเคชั่นในแอปสโตร์ของแอปเปิล ก้าวผ่านหลัก 1 ใน 4 ของล้าน หรือกว่า 250,000 แอปพลิเคชั่นไปแล้ว จากฝีมือของนักพัฒนากว่า 50,000 คน เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ทั้งหมด เช่น ไอโฟน, ไอแพด, ไอพอด ทัช เป็นต้น

คาดว่าในอีก 2-3 เดือนก็น่าจะผ่าน หลัก 300,000 ตัวไปได้ แม้ว่าส่วนใหญ่ของ แอปพลิเคชั่นเหล่านี้เป็นเกม ซึ่งมีสัดส่วนโดยประมาณราว 80 เปอร์เซ็นต์ แต่แนวโน้มการเติบโตของแอปพลิเคชั่น บนไอโฟนก็เป็นที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาที่แสวงหาโอกาส ซึ่งต้องเข้าใจด้วยว่าโอกาสในตลาดที่แน่นขนัดก็ไม่ใช่จะง่ายดายนัก

รายได้ที่ผ่านไปถึงมือของเหล่านักพัฒนานั้น "สตีฟ จ็อบส์" เคยให้ตัวเลข ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าสูงถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไม่มีรายละเอียดชัดว่าแอปพลิเคชั่นแบบไหนหรือของใครทำรายได้เท่าไร

เท่าที่มีข้อมูลแอปพลิเคชั่นตัวหนึ่งที่ทำรายได้สูงมากก็คือ Camera + ในเวลาสองเดือนกวาดเงินเข้ากระเป๋าไปกว่า 500,000 เหรียญ แต่ตอนนี้ถูกแอปเปิลถอดออก จากสโตร์ เพราะแอปพลิเคชั่นตัวนี้ละเมิดกฎของแอปเปิลที่ตัวแอปพลิเคชั่นไปเปลี่ยนฟังก์ชั่นของฮาร์ดแวร์ หรือปุ่มสั่งงานบางปุ่ม

โดยทั่วไปแล้วแอปพลิเคชั่นบนไอจูนส์ แอปสโตร์ ยอดจะพุ่งสูงในเดือนแรก แล้วจะลดลงมาในเดือนที่สอง จากนั้นก็จะลดลงจนคงที่ ขณะที่ Camera + เป็นกรณียกเว้นที่เดือนที่สองยอดกลับสูงกว่าเดือนแรกเล็กน้อย

ลองหันกลับมาดูทางด้าน แอนดรอยด์ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นระบบปฏิบัติการ สมาร์ทโฟนที่ทำยอดขายแซงหน้าไอโฟนไปแล้ว แต่ แอปพลิเคชั่นในแอนดรอยด์ มาร์เก็ต ตอนนี้ผ่านหลัก 100,000 แอปพลิเคชั่น มาได้ไม่นาน

และส่วนใหญ่เป็นแอปพลิเคชั่นฟรีที่มีสัดส่วนมากถึงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักพัฒนายังคงทดสอบตลาดแอนดรอยด์ มาร์เก็ต ซึ่งยังเป็นของใหม่อยู่

ตัวเลขที่พอหาได้อ้างอิงโดย

สำนักข่าวบีบีซีจากเว็บของ Arron La นักพัฒนาแอปพลิเคชั่น "Advance Task Manager" หลังหักส่วนแบ่งของกูเกิลไปแล้วก็คือ 50,000 เหรียญ กับรายได้จากโฆษณาจากเวอร์ชั่นฟรีที่มีโฆษณาอีก 29,000 เหรียญ

Arron La บอกว่าเขามีรายได้จากแอปพลิเคชั่นบนแอนดรอยด์ เฉลี่ยเดือนละ 10,000 เหรียญ นอกเหนือจากานประจำที่ไอบีเอ็ม ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่เลวทีเดียว แม้จะไม่ได้กลายเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนเหมือนนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นบน iOS บางคน


ที่มา: prachachat.net