Author Topic: ยักษ์พรินเตอร์แข่งดุงัดโมเดลธุรกิจ"ขายหมึกแถมเครื่อง"  (Read 1261 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

ตลาดเครื่องพิมพ์แข่งดุ ยักษ์ชนยักษ์อัดฉีดแคมเปญกระตุ้นตลาดใช้หมึกแท้ "บราเดอร์" ชี้ทุกค่ายปรับโมเดลธุรกิจบาลานซ์กำไร 2 ขา ทั้งเครื่องพิมพ์และหมึก จับตาตลาดองค์กรเปลี่ยนรูปแบบ "ซื้อหมึกพิมพ์แถมเครื่องพิมพ์" ด้าน "เอปสัน" เดินหน้าเปิดตัวซีรีส์ใหม่ "ME" ชูต้นทุนต่อแผ่นต่ำสุดในตลาด เจาะตลาดผู้ใช้งานตามบ้าน ขยับมาร์เก็ตแชร์อิงก์เจ็ตจาก 27% เป็น 30%



นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีนี้เป็นปีที่ผู้ค้าเครื่องพิมพ์เกือบทุกรายทั้ง เอชพี แคนนอน บราเดอร์ เอปสัน มีการทำกิจกรรมการตลาดกับสินค้าประเภทหมึกมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งรูปแบบการซื้อหมึกแท้ราคาพิเศษ โปรโมชั่นจับสลาก ชิงโชค เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาใช้หมึกแท้ ขณะที่การลดราคาหมึกมีให้เห็นไม่มาก หรือหากลดราคาลง ปริมาณการพิมพ์จะต่ำลงด้วย ปัจจุบันราคาหมึกเริ่มต้นที่ 200 บาทขึ้นไป

ส่วนหนึ่งเพราะปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าส่วนหนึ่งหันไปใช้หมึกเติมมากขึ้น ทำให้ผู้ค้าเสียตลาด จึงต้องหาวิธีสร้างยอดขายคืนมา บวกกับธุรกิจเครื่องพิมพ์อยู่ได้จากการขายหมึกพิมพ์เป็นหลัก จึงต้องยิ่งกระตุ้นการขายผ่านแคมเปญต่าง ๆ มากขึ้น สำหรับราคาของเครื่องพิมพ์ ตนมองว่าจะไม่ต่ำลงไปกว่านี้ ปัจจุบันมีราคาสมเหตุ สมผลมากแล้ว โดยทุกแบรนด์เริ่มเห็นว่าจะมีกำไรได้ ต้องมาจากการจำหน่ายเครื่องและหมึกเป็นหลัก

"ปีที่ผ่านมา บางรายเคยขายเครื่องราคาถูก ๆ เพื่อหวังคืนทุนจากซัพพลาย แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ต้องหากำไรทั้งสองทาง"

ขณะที่ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าองค์กรส่วนใหญ่นิยมการจ่ายค่าบริการตามจำนวนแผนที่ใช้งาน หรือคิดค่าบริการผูกสัญญาหมึกเป็นรายเดือน โดยตั้งแต่ต้นปี 2553 บางบริษัทคิดรูปแบบการซื้อใหม่ หันมาให้ความสำคัญกับหมึกพิมพ์มากขึ้น เปิดประมูลการจัดซื้อหมึกพิมพ์ พร้อมมีเงื่อนไขว่าต้องให้ใช้เครื่องพิมพ์ฟรี เป็นต้น จากเดิมที่เน้นการจัดซื้อเครื่องพิมพ์เป็นหลัก

สำหรับบราเดอร์ในปีนี้ โปรแกรมการขายจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ตามการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก จากเดิมโปรแกรมจะค่อนข้างตายตัว เช่น มีเครื่องพิมพ์หมึกพิมพ์ราคาพิเศษ หรือโปรแกรมเช่าซื้อ เช่าใช้ เป็นต้น แต่ต่อไปจะออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า มากขึ้น โดยตั้งเป้าการเติบโตไว้ 15%

ด้านนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โมเดลธุรกิจของเครื่องพิมพ์ในตลาดคอนซูเมอร์ต่อไปจะเน้นราคาหมึก ถูกลง ขณะที่ราคาเครื่องจะมีราคาเหมาะสม มากกว่าการให้เครื่องฟรีแล้วคิดราคาหมึกแพง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานตามบ้าน นักเรียน นักศึกษา ซึ่งมีสัดส่วน 60-70% ของตลาดโดยเฉลี่ยจะมีการใช้งาน 100-300 แผ่นต่อเดือน จึงนิยมซื้อเครื่องพิมพ์ที่มีระดับราคา 1-3 พันบาท เป็นหลัก

ขณะที่โมเดลธุรกิจในตลาดองค์กร ซึ่งมีปริมาณการพิมพ์มากกว่า 2 พันแผ่นต่อเดือน จะมีรูปแบบการคิดราคาตามปริมาณการใช้งานจริง โดยผูกสัญญาค่าหมึกเป็นรายเดือน เช่นเดียวกัน แนวทางของเอปสัน จากเดิมราคาหมึกโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 400 บาท แต่ปัจจุบันเริ่มต้นที่ 230 บาท และได้ปริมาณการพิมพ์มากขึ้น นอกจากนี้ล่าสุดเปิดตัวเครื่องพิมพ์ซีรีส์ ME หรือ Max Economy มี 2 รุ่น คือรุ่น ME 32 ซิงเกิลฟังก์ชั่น ราคา 2,190 บาท และ ME 320 มัลติฟังก์ชั่น ราคา 2,690 บาท ที่มีต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นไม่ถึง 1 บาท สำหรับการพิมพ์ขาวดำ ถือว่าราคาต่ำที่สุดในตลาดในระดับการพิมพ์ 100-300 แผ่น ขณะที่ คู่แข่งมีต้นทุนเฉลี่ย 2-3 บาทต่อแผ่น

นอกจากนี้ ยังมีตลับหมึกแยกสี สามารถเปลี่ยนเฉพาะหมึกที่หมดได้ แบ่งเป็นหมึกขาวดำ ตลับละ 230 บาท หมึกสี ตลับละ 355 บาท เหมาะสำหรับการพิมพ์ที่มีปริมาณการพิมพ์ 100-300 แผ่นต่อเดือน สำหรับนักเรียน นักศึกษา และออฟฟิศขนาดเล็ก

"แม้เครื่องพิมพ์จะราคาสูงกว่าคู่แข่งในตลาด ซึ่งเริ่มต้นที่ 1,290 บาท แต่หากดูในแง่มูลค่าความเป็นเจ้าของ เมื่อใช้งานไปแล้ว 3-4 เดือน จะคุ้มค่ากว่า อย่างไรก็ตาม เอปสันยังมีเครื่องรุ่นเอนทรี ที่มีราคาตั้งแต่ 1,500-1,600 บาท ในตลาด เพราะลูกค้าบางกลุ่มยังต้องการซื้อสินค้าโลว์เอนด์ แต่ต้นทุนต่อแผ่นจะแพงกว่า"

โดยซีรีส์ ME เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความประหยัด และไม่ต้องการเสี่ยงกับการใช้หมึกเติม และในอนาคตจะเพิ่มโมเดลสำหรับการใช้งานที่มีปริมาณการพิมพ์มากขึ้น สำหรับซีรีส์ ME จะใช้ งบประมาณ 10 ล้านบาท ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และโรดโชว์ให้ความรู้กับตลาด ตั้งเป้าว่าจะสามารถผลักดันยอดขายจนเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ตจาก 27 เป็น 30%

นายยรรยงกล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องพิมพ์ปีนี้มีการเติบโตในเชิงยูนิต 5-10% แบ่งเป็นเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ต 1.08 ล้านเครื่อง เครื่องพิมพ์เลเซอร์ 3 แสนเครื่อง โดยตลาดรวมไอทีไทยยังมีการเติบโต จากการซื้อสินค้าทดแทน ขณะที่ปริมาณการใช้เครื่องพิมพ์ในไทยยังน้อย สำหรับมูลค่าตลาดมีการเติบโตประมาณ 8-10% มีแนวโน้มที่จะใช้งานเครื่อง มัลติฟังก์ชั่นสูงขึ้น ทำให้ราคาเฉลี่ยสูงขึ้น โดยทุกแบรนด์ยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรงต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขาย ทั้งการออกสินค้ารุ่นใหม่ โปรโมชั่น และการบริการ บริหารช่องทางจำหน่าย

"ไตรมาสแรก (เริ่มปีงบประมาณเดือน เม.ย.) เราได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง แต่ในช่วงปลายไตรมาสแรกถึงต้นไตรมาส 2 ยอดขายเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยเครื่องพิมพ์มีสัดส่วนรายได้ 80% ของรายได้ทั้งหมดของเอปสัน โดยตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มเครื่องพิมพ์น่าจะเติบโต 15%"


ที่มา: prachachat.net


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6621 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
5335 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
1675 Views
Last post April 29, 2009, 11:26:27 AM
by Reporter
0 Replies
4331 Views
Last post May 03, 2009, 05:52:53 PM
by IT
0 Replies
2081 Views
Last post June 03, 2009, 01:07:14 PM
by IT
0 Replies
3077 Views
Last post August 28, 2009, 09:43:46 AM
by IT
0 Replies
3416 Views
Last post February 24, 2010, 08:43:26 AM
by Nick
0 Replies
1638 Views
Last post June 02, 2010, 02:52:50 PM
by Nick
0 Replies
6193 Views
Last post June 10, 2010, 02:08:06 PM
by Nick
0 Replies
4200 Views
Last post July 16, 2010, 10:18:47 PM
by Nick