เมื่อวันที่ 27 ก.พ. เวลา 10.00 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคล โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้หารือถึงการเคลื่อนไหว
ชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มนักศึกษาหรือ
แฟลชม็อบที่ขณะนี้ลามไปสู่เด็กระดับมัธยมศึกษา ว่า มีเสียงเรียกร้องจากมมหาวิทยาลัยว่ามีตำรวจเข้าไปโดยไม่ควรจะเข้าไป ตนคิดว่าจะเกิดมากขึ้น ฝากเตือนไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่าอย่าประมาท อย่าให้เหตุการณ์กระทบระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับนักศึกษา เพราะจะสร้างความเสียหายกับประเทศชาติ ต้องสัญญาว่าจะไม่เกิดการเข่นฆ่าประชาชนในประเทศนี้อีก
พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนเข้าใจถึงความหวังดีแต่ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการอะไร แต่ก็มีความผิดอยู่พอสมควร ตนกังวลกับนิสิตนักศึกษา เพราะอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ถูกชักชวนปลุกระดมมาจากการฟังความข้างเดียว อยากบอกว่า ช่วยกรุณาฟังข้อมูลจากรัฐบาล เลือกฟังดูว่าจะเชื่อทางไหน ไม่อยากให้เชื่อทางใดทางหนึ่ง เว้นแต่บางฝ่ายจะให้เชื่อไปทางใดทางหนึ่ง วันนี้กฎหมายศักดิ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2553 2557 ก็ยังเป็นคดีความกันอยู่ ไม่ว่าจะสีไหนก็ตาม ปี 2514 2516 เป็นอีกกรณีหนึ่งแต่เราจะไม่ทำให้เกิดเงื่อนไขแบบนั้น ทั้งนี้ตนห่วงอนาคตของนักศึกษา ตนไม่ได้โกรธ เพราะเด็กๆเป็นผู้มีแรงกระตุ้น และตนไม่เคยสั่งการให้ไปปะทะ เว้นแต่การป้องกันตัวเองโดยใช้มาตรการเบาที่สุด ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ ถ้าไม่ทำก็จะมีความผิดคือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และโทษแต่ฝ่ายรัฐบาล ไม่โทษนักศึกษาแต่ต้องกล่าวถึงถึงคนที่นำสิ่งเหล่านี้ออกมา เพราะอนาคตเด็กจะหมด จะเกิดคดีอาญา ตนไม่อยากไม่เกิดขึ้นอีก เพราะ
มีการหมิ่นสถาบันด้วย
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสภาฯถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นห่วงทุกคนทุกที่ การชุมนุมอะไรต่างๆ ก็เป็นห่วงเข้าใจถึงความต้องการของเขาและเด็กๆ แต่ก็ขอให้ระมัดระวังก็แล้วกัน โดยนายกฯคงไปโกรธเกลียดใครอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่รู้สึกเห็นใจ ขณะเดียวกันอยากให้ทุกคนต้องรับฟังเสียงจากหลายๆช่องทางหลายบ้าง จะได้รู้ว่าประเทศควรจะเดินต่อไปอย่างไร ตนขอให้กำลังใจ เพราะพวกเขาเป็นคนรุ่นใหม่ เราไม่ได้ว่าอะไรเลย แต่ก็ต้องรับฟังอะไรบางอย่างด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องกฎหมาย มันจะอันตรายในวันข้างหน้า แต่คราวนี้อะไรหลายๆอย่างมันมีปัญหามาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคดีของเสื้อสีใดก็ตาม เห็นหรือเปล่าว่ากลายมาเป็นคดีต้องขึ้นศาลกันระนาวอยู่ตอนนี้ แล้ววันหน้าจะทำอย่างไร เด็กเหล่านี้คืออนาคตของประเทศ จะผิดจะถูกอย่างไรก็ตาม ก็ต้องติดตามรับฟังความคิดเห็นอื่นๆด้วย ฟังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งข้างเดียวมันจะเป็นอยู่อย่างนี้ประเทศไทย ก็ไปไม่ได้ เห็นใจเขา สงสารเขา
