Author Topic: “โย-เอ” แฉปมร้าว “บี น้ำทิพย์” ซัดอีกฝ่ายอคติ  (Read 2470 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


       “โย-เอ” แฉปมร้าว “บี” รับแตกหักเพราะไอจี ซัดอีกฝ่ายอคติทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ด้านโยเผยเจ็บจี๊ดบีแขวะแรงเป็นแค่เพื่อนร่วมโลก ลั่นเป็นการกระทำของเด็ก แต่ยินดีให้พูดเสียดแทงถ้ามีความสุข
       
       ออกมาประกาศพร้อมปาดน้ำตาว่าจะไม่ขอพูดตอบโต้อดีตเพื่อนรัก “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” อีก ไม่ว่าอีกฝ่ายจะให้สัมภาษณ์ถึงตนว่าอย่างไรแต่สุดท้าย “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” ก็ออกมาเปิดใจอีกครั้งผ่านรายการคนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 2 พร้อมกับ “เอ อัญชลี หัสดีวิจิตร” ถึงเรื่องราวที่บานปลายไปกันใหญ่และดูท่าจะจบ แม้ต่างฝ่ายต่างมีหลักฐานมางัดข้อกันสุดฤทธิ์ งานนี้โยยอมรับว่ารู้สึกเจ็บจี๊ดไปกับคำว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมโลก และไม่สุงสิง ก่อนย้ำการพูดเสียดสีแทงใจดำ เป็นแค่การกระทำของเด็กๆ

       
       “จริงๆ มันไม่น่าจะต้องแตกหักกันขนาดนี้ คำว่าเป็นเพื่อนร่วมโลก ไม่สุงสิงดีกว่าที่เขาพูด น่าโกรธมากนะ (หัวเราะ) เพราะรู้จักเขาดี (ยิ้ม) เขาจะเป็นคนที่ใครไปจิ้มถูกจุดเขาจะพุ่งเลย”
       
       “การที่เขาพูดไปแบบนั้นก็แน่นอนว่าต้องมีอะไรที่ทำให้เขาต้องการให้เรารู้สึก เต็มๆ เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาพูดแบบนี้มาโยฟังปุ๊บโยต้องเจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจ มันเป็นการกระทำแบบ เวลาเด็กนักเรียนทะเลาะกัน เหมือนสมัยที่เราเรียน ม.ต้น เรากลับไปมีชีวิตแบบนั้นแล้ว มีชีวิตอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้หญิง แล้วเวลาเพื่อนผู้หญิงรักกันมากๆ เวลาจะแตกกันมันมีคำแบบนี้แรงๆ โยเลยคิดว่าโยกำลังกลับไปอยู่ในวัยเด็ก อีกรอบหนึ่ง (หัวเราะ)
       
       “ถ้าน้องคิดว่าอะไรที่มันดีที่สุดวันนี้ก็ยังยืนยันว่าอยากให้เขาเลือกสิ่งที่มีความสุข ถ้าเขามีความสุขจริงๆ ในการพูดเสียดแทง อยากให้เขาพูดมาให้เยอะๆ เลยนะ พูดมาทุกวันก็จะยอมรับฟัง ถ้าเขารู้สึกดีขึ้น ส่วนเรื่องกลับมาคบกันก็เป็นเรื่องยาก ณ เวลานี้ อย่าว่าแต่ทางเขา ทางตัวโยเองก็ตอบได้เลยว่ามันยากมาก”
       
       บอกใช้วิธีการตอบโต้กันทางไลน์ จนทำให้สัมพันธ์แตกหัก ส่วนตนรับเดาใจอีกฝ่ายไม่ออก
       “ไม่ค่อยได้โทร. คุยกันจริงๆ บอกได้เลยว่าหลายเดือนมากแล้ว เกือบครึ่งปี ที่จะยกหูโทรศัพท์หากันเนี่ย แทบไม่มีเลย ถ้าจะมีอะไรก็คุยไลน์กัน 2-3 คำแล้วจบ จนวันที่ตัดสินใจปิดธุรกิจ คือเดือนสิงหาคม เรียกมาคุย คุณบีก็มากับผู้ช่วยวันนั้นคือวันที่พูดอย่างเต็มปากเต็มคำต่อหน้าต่อตากันว่าตัดสินใจจะปิดธุรกิจวันที่ 4 ตุลา นะ ตอนนั้นยอมรับว่าเขาก็อึ้งๆ นิดหนึ่งค่ะ แต่ว่าก็ให้เหตุผลกันและกันว่า ตัวผู้ช่วยเขาเองไม่เห็นด้วยที่จะให้ปิด เขาอยากให้ทำต่อ แต่ตัวคุณบีก็อารมณ์ร้อนๆ แนวเขา เราก็ตัดใจแล้ว มันก็มาถึงจุดที่ว่าตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยคุยอะไรกัน ก็จะคุยแต่ไลน์นี่แหละค่ะ ไลน์ทำให้เกิดความแตกหัก”
       
       “เขาเป็นคนที่พอโยพูดอะไรไปเขาก็จะ ค่ะ ขอบคุณนะคะ ค่ะอะไรอย่างนิ้ แนวประมาณนี้ หลังจากจัดการอะไรให้คำสุดท้ายที่ได้คุยกันคือคำว่า ค่ะ ขอบคุณค่ะ (หัวเราะ) แค่นี้เองมันก็จบ ปิด (ยิ้ม) โยก็คิดว่าทุกอย่างเคลียร์แล้ว จบแล้ว เราเป็นคนที่ไม่ค่อยตามงาน โยคิดว่าไอ้คำว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ นี่คงเป็นอะไรที่โกรธสุดๆ แล้ว โยเดาใจเขาไม่ออกจริงๆ โยว่าเขาคงอยากให้โยใส่ใจเขามากกว่านี้ โทร.หาเขาพูดอะไรกับเขาเยอะมากกว่านี้มากกว่า แต่ตัวโยเองก็ละเลย”
       
       “ตอนนี้พยายามที่จะใจเย็น มีทุกอย่างอะไรมา ลงมาเถอะโทษมาเลย อะไรก็ตามที่คุณบีจะพูด ก็ไม่ได้มีเป็นใบหนี้สิน กล่าวโทษอะไรก็จะยอมรับทั้งหมด ตอนจะปิดก็บอกว่าโอเคพี่ว่าเราควรปิดนะ เพราะว่าธุรกิจเรามันก็กำไรไม่ค่อยดี 4 ตุลาคมตัดสินใจปิดนะ เขาก็ อืม ตามใจค่ะ ตามใจพี่ละกัน (หัวเราะ) แนวเขาจะเป็นอย่างนี้ (หัวเราะ)”
       
       ยันยังไงบีก็ไม่ขาดทุน เชื่ออีกฝ่ายคิดว่าบริษัทได้กำไรแต่ไม่ยอมแบ่งผลประโยชน์
       โย : “ก็วันนั้นมันมีบัญชีอยู่ต่อหน้าแล้วค่ะ ก็ให้เขาลองดู เขาก็บอกเนี่ยแล้วรายจ่ายอันนี้ยังไง อันนี้ยังไง เขามีคำถามนะคะ แล้วผู้ช่วยเขาก็ถามมาเยอะ เราก็โอเคถ้าเกิดมีอะไรที่รู้สึกว่า ไม่เข้าใจ ตรงโน้นตรงนี้เดี๋ยวจัดการให้ สิ้นเดือนวันที่ 30 กันยา ก่อนปิดเรามาดู 4 ตุลาคือเราปิดทุกอย่างแล้ว”
       
       เอ : “มันจะโปร่งใสได้ยังไงในเมื่อบัญชีมันยังไม่ปิด มันยังอยู่ไม่นิ่ง”
       
       โย : “ใจร้อนไปนิดหนึ่ง”
       
       เอ : “มันยังอยู่ไม่นิ่ง รายจ่ายมันยังมีอยู่ทุกวัน ในการสั่งอาหาร ในการส่งของ แมสเซ็นเจอร์ ต้องเป็นเดลิเวอร์รี่”
       
       โย : “ถ้าเขากังวลว่าปิดแล้วขาดทุนเขาต้องจ่ายส่วนที่ขาดทุนหรือเปล่า ถ้าเป็นแนวนั้นเนี่ยโยเข้าใจเลยค่ะ ว่าโอเคคือปัญหาตรงหน้า มันมองเห็นอยู่แล้ว มันมีกำไรนะ แล้วมันไม่ได้ขาดทุน ไม่มีใครต้องเจ็บตัว ในขณะที่คุณบีเองไม่ได้ลงทุนเป็นจำนวนเงินเพราะฉะนั้นมันไม่ต้องคืนอะไร เท่ากับว่าตัวเองก็ปลอดภัย โยคิดว่าเขาอาจคิดว่ามีกำไรแล้วไม่แบ่ง”
       
       เอ : “ต้องเรียกเขามาคุย เขาอาจจะไม่เข้าใจ”
       
       โย : “คิดว่าคิดอย่างรายจ่ายพนักงาน เขาก็อาจจะแบบเฮ้ย เชื่อหรือป่าว ไม่เชื่อ ตอนนี้ทุกอย่างมันจะรู้ได้
       ต่อเมื่อต้องมาคุยกันไง”
       
       เอซัดบีอคติทำให้เกิดปัญหา ทั้งที่บีบอกเองว่าหากมีธุรกิจใหม่ให้เอามาโปรโมตได้ในไอจี
       โย : “อันนี้ก็คงเป็นเพราะว่ามองข้ามอะไรไปหลายๆ จุด ที่อาจจะมัวยุ่งกับงานที่ทำจริงๆ พอเห็นว่าไอจีโยบีมันนิ่งไปแล้ว ไม่ได้มีการโปรโมตอะไร เพราะเรารู้แล้วว่าจะปิด เราก็คิดจะทำอะไรกับมันดี อยู่ๆ จะปิดไปเลยก็เสียดายฐานเกือบแสน แล้วก็คุณบีเองก็เงียบๆ โยคิดว่าคงไม่มีอะไรก็โพสต์ประมาณ 4-5 รูป คราวนี้ก็ทำให้เขาโกรธมากเรื่องนี้ แต่พอโกรธมากคุยกันแล้วอะไรกันแล้ว เหมือนจะเคลียร์ได้ จริงๆ แล้วคือปากกับใจอาจจะไม่ตรงกันก็เลยไม่รู้ในใจที่เขาคิดจริงๆ”
       
       เอ : “คือเอาจริงๆ นะคะ ตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นมีธุรกิจนี้แล้วเขาสร้างไอจีมาด้วยกัน เอเคยได้ยินเขาคุยกันว่าถ้าวันไหนต่างคนต่างมีธุรกิจอะไร เราเอาธุรกิจของตัวเองมาโปรโมต หรือถ้าบีมีอะไรเอามาโปรโมตได้ โยมีอะไรเอามาโปรโมตได้”
       
       โย : “เราจะไม่ปิดไอจีนี้เพราะเราสร้างกันมามันเหนื่อยมาก”
       
       เอ : “สร้างมาด้วยกัน แล้วก็อีกอย่างหนึ่งทั้ง 2 เขาก็ทำมาด้วยกัน ถ้าวันหนึ่งความสัมพันธ์เป็นเพื่อน ถ้ามันยังดีอยู่ เอเชื่อว่าไอ้ไอจีตัวนี้ไม่น่าจะมีปัญหา แต่เผอิญมันมีอคติในใจอยู่แล้ว มันถึงมีปัญหาตรงนี้”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)