“แอน” ลั่นเข้าใจ “เจนี่” มีเวลาให้เพื่อนน้อยเพราะเพิ่งแต่งงานต้องมีเวลาจู๋จี๋สามี เผยปาร์ตีแก๊งนางฟ้าครั้งล่าสุดนัดมีลูกพร้อมกันปีหน้า โตขึ้นจะได้เป็นเพื่อนก๊วนเดียวกัน หลังจากเพื่อนสาว “เจนี่ อัศวเหม” แต่งงานไปเหล่าแก๊งนางฟ้าก็ไม่ค่อยจะได้รวมตัวกันเหมือนเดิม แต่ไม่นานนี้เหล่าสาวๆ นัดรวมตัวกันที่บ้านสาวเจนี่ พร้อมกับถ่ายรูปอวดแฟนคลับในอินสตาแกรม เมื่อมีโอกาสเจอ “แอน อลิชา หิรัญพฤกษ์” ที่ออกงานพร้อมสามีหนุ่ม “ภูริ หิรัญพฤกษ์” ก็เลยอัปเดตซะหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเล่าบรรยากาศปาร์ตีให้ฟังว่า…
แอน : “ไม่ครบทีมค่ะ พอดีพอลล่าเขาถ่ายละคร ก็ส่งลูกมาแทน ลูกเลิกเรียนก็พามาส่งที่บ้านแล้วก็ไปทำงาน ก็พาเด็กๆ มาว่ายน้ำที่บ้านเจนี่กัน เจนี่ตอนนี้เขาก็มีครอบครัวแล้ว เขาก็ต้องอยู่จู๋จี๋กันเลยไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตา เขาก็แฮปปี้ค่ะ ก็คุยกันว่าจะจับมือมีกันปีหน้านะ ก็พูดกันขึ้นมาว่าพวกเราที่เหลือควรจะมีกันได้แล้ว พอเขาโตแล้วจะได้เป็นแก๊งเดียวกัน เดี๋ยวจะไม่มีเพื่อนเล่น ก็อย่าเพิ่งกดดันค่ะ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราตั้งใจจะมีกันอยู่แล้ว ตอนนี้ใครจะท้องก่อนก็ได้หมด รอว่าเขาจะมาเมื่อไหร่ก็เท่านั้นเอง ถ้ามาก็มาพร้อมๆ กันเลยนะ”
แจงเรื่องชีวิตครอบครัวของเพื่อนซี้ “เจนี่” แล้ว ก็วกมาเผยเรื่องของตัวเองบ้าง โดยหนุ่ม “ภูริ” เผยไม่อยากให้ภรรยา “แอน” รับงานมากในช่วงปีใหม่ ถึงขั้นเตรียมจ้างภรรยาสาวให้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน โดยจะให้ค่าตัวที่ได้เวลาไปงานอีเวนต์เลย
ภูริ : “ปีนี้ผมทำงานเยอะมากครับ ปีใหม่ทั้งทีก็อยากจะพักผ่อนด้วยกัน ผมบอกเลยว่าปีใหม่ผมไม่ทำงานแน่ๆ จะให้ไปรออยู่ที่โน่นคนเดียวก็คงเหงาเนอะ นั่งเคาท์ดาวน์คนเดียว ก็เลยบอกงั้นผมจ้างเลยก็แล้วกัน”
แอน : “ก็กำลังดูอยู่ค่ะ อาจจะขอขึ้นค่าตัวนิดนึง”
ภูริ : “ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันนะว่าจะไปเคานต์ดาวน์กันที่ไหน”
แอน : “แอนไปที่ไหนก็ได้ค่ะ เรายังต้องไปดูกิจการเรื่อยๆ ก็คงจะไปรับลมเย็นที่เหนือ คงจะเป็นแนวนั้น”
เผยปีนี้ลุยธุรกิจเต็มตัว ทั้งรายการทีวี และทำรีสอร์ต แย้มกำลังมีโปรเจกต์ใหม่ ทำบ้านคอนโดที่พักตากอากาศ
ภูริ : “เป็นปีที่ผมลุยธุรกิจเยอะ คุณแอนก็จะเป็นคนช่วยซัปพอร์ตอีกที”
แอน : “คนอาจจะคิดว่าหายไป แต่จริงๆ เราก็ยังรับงานกันอยู่ ยังจ้างได้”
ภูริ : “แต่ผมเองนี่จะเริ่มต้นทำธุรกิจรายการโทรทัศน์ มีรายการคู่ซี้ตีเนียน วิวไฟน์เดอร์ และบูททีวีที่เราทำมา 4-5 ปีแล้ว ซึ่งมันโอเค ผมก็เลยต่อยอดเพิ่มเรื่อยๆ ก็บอกแอนไว้แล้วว่าภายใน 10 ปีนี้ผมจะทำอสังหาฯให้มากขึ้น ก็จะมีโปรเจกต์บ้านและคอนโดให้มากขึ้น ออกแนวบ้านต่างอากาศ ตอนนี้ก็ลุยอยู่ครับ ช่วงแรกตอนนี้ก็มีติดขัดหน่อยเพราะเรายังไม่เคยลงจริง แต่พอธุรกิจมันดำเนินไปได้ช่วงนึงแล้ว เราเริ่มมีประสบการณ์ ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี ก็มีคนสนใจเยอะ”
แอน : “แอนก็มีหน้าที่ช่วยกันดูแล อย่างภูริเขาจะทำโปรเจกต์สร้างและขาย ส่วนแอนเขาจะดูบริการหลังการขาย เอาบ้านเข้ามาบริหารจัดการให้เป็นรีสอร์ต โปรโมชันต่างๆ ลักษณะงานที่คล้ายๆ การทำรีสอร์ต แต่แอนก็ยังอยู่ในช่วงเรียนรู้งาน เพราะมันเป็นอะไรที่ใหม่ ตั้งแต่อายุ 15 ปีเราก็ทำแต่งานในวงการบันเทิงมาตลอดเนอะ ซึ่งเราไม่เคยคิดที่จะไปทำงานอื่นเลย แต่พอวันนึงเรามีธุรกิจ เราก็อยากจะแบ่งเบาภาระสามี ก็ต้องเริ่มศึกษาจริงจัง”
“ก็ไม่รู้ว่าจะยิ่งไปทำให้เขาเหนื่อยมากกว่าเดิมรึเปล่า เพราะแอนมีอะไรก็จะโทร.ถามเขาตลอด บางทีโทร.วันละ 10 รอบจนเขาหงุดหงิด เราก็เอ๊ะทำไมต้องหงุดหงิด ก็เราไม่เข้าใจนี่ ก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ที่เราต้องมาเริ่มต้นนับใหม่หมดทุกอย่าง ซึ่งเราไม่เคยมีความรู้มาก่อน การโรงแรม เรื่องการบริหารคนเป็นอะไรที่ยุ่งยากมากเพราะเราไม่เคยบริหารคนเป็น 10-20 คน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มันเยอะมาก เลยบางครั้งกลายเป็นเหมือนคนบ้าเลยก็มี”
ภูริ : “ก็ให้ผ่านนะครับ ในเรื่องความตั้งใจของเขา เราก็เริ่มมาพร้อมๆ กันในการเรียนรู้ เราไม่ใช่มืออาชีพกันทั้งคู่ อาศัยว่าเราสองคนเที่ยวบ่อย แล้วรู้ว่าอะไรดีและไม่ดีสำหรับคนที่เขาอยากมาเที่ยว เรื่องระบบ การบริหารงาน บริหารคนเรายังไม่มีความรู้ เราก็ยังต้องใช้มืออาชีพมาช่วยเรา แต่เราก็ต้องรู้ทุกอย่างที่เขารู้ รู้ทุกเรื่องที่เขาทำ”
ส่วนงานหน้าจอหนุ่ม “ภูริ” เผยรับละคร “บางระจัน” ไว้แล้ว ยันไม่คิดเป็นผู้จัดละครแต่มีแนวโน้มเตรียมทำรายการป้อน “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ”
ภูริ : “จริงๆ ก็มีละครหลายเรื่องติดต่อมา แต่ด้วยความที่เราต้องเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ มันกำลังจะขึ้น ผมก็ไม่กล้าทิ้งตรงนี้ไปเล่นละคร แต่ตอนนี้ก็รับไว้แล้วเรื่องนึงคือบางระจัน ก็รับเชิญแค่ 10 ตอน แล้วก็มีอีกเรื่องนึงที่ยังตัดสินใจอยู่ว่าจะรับดีไหม ด้วยทำรายการก็กินเวลาไปเยอะแล้ว ไหนจะยุ่งเรื่องโปรเจกต์ที่กำลังจะขึ้น ผมก็ไม่ไหว ผมเหนื่อย พูดจริงๆ ว่าปีนี้เป็นปีที่ผมเหนื่อยมาก”
แอน : “ตอนนี้ก็อยากจะช่วยงานสามีก่อน เพราะเราต้องศึกษาอะไรหลายอย่าง”
ภูริ : “ส่วนเรื่องการเป็นผู้จัดละครเราว่ามันยากเกินไปสำหรับเรา ผมเองคุยกับพี่บอยว่าผมไม่มีทางไปไหนอยู่แล้วเพราะพี่ให้ผมมาขนาดนี้ ถ้าผมช่วยอะไรพี่ได้ผมก็จะช่วย ก็เลยคุยโปรเจกต์กันว่าจะทำผลิตรายการให้กับพี่บอย ซึ่งพี่บอยเขามีแนวโน้มว่าจะมีช่องของเขาเอง การเป็นผู้จัดเราต้องใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น การทำรายการเราเองก็มีต้นทุนอยู่แล้วด้วย มันก็ไม่ยากที่จะทำของเรา”
ที่มา: manager.co.th
