“จาฤก กัลย์จาฤก” บอสกันตนา คว้าลิขสิทธิ์แอปฯ ไลน์ การ์ตูนซีรีย์ญี่ปุ่น มาลงจอในไทยครั้งแรก หลังเจรจามา 2 ปี บอกตอนนี้ลูกค้ารายใหญ่หลายเจ้ากำลังร่วมเปิดแคมเปญกับตน รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย ลั่นไม่มีผลกระทบอะไรกับกรณีรัฐบาลมีนโยบายเตรียมแฮกข้อมูลการสื่อสารผ่านทางไลน์ บอกของตนคนละส่วนกัน “จาฤก กัลย์จาฤก” ประธานบริหาร บมจ.กันตนา กรุ๊ป ปิดแถลงข่าวหลังคว้าลิขสิทธิ์การ์ตูนซีรีย์ชื่อดัง “ไลน์ทาวน์ เพื่อนรัก (LINE Town)” ทางทีวีจากญี่ปุ่นมาลงจอให้คนไทยได้ดู หลังเจรจาขอซื้อลิขสิทธิ์อยู่นานถึง 2 ปี โดยในเรื่องจะเป็นการนำเอาตัวละครจากสติกเกอร์ของไลน์ไม่ว่าจะเป็น Moon, Cony, Brown, James, Jessica, และ Sally มาร่วมสร้างในแบบฉบับการ์ตูนทีวีซีรีย์ ออกอากาศทางช่อง 5 ทุกวันพฤหัส เวลา 17.20-17.55 น. โดยจะเริ่มออกอากาศตอนแรกวันที่ 29 สิงหาคม นี้ ทั้งนี้ จาฤก กัลย์จาฤก ได้เปิดเผยรายละเอียดให้ฟังว่า…
“เราได้ลิขสิทธิ์ไลน์มาในส่วนของสติ๊กเกอร์ ออฟฟิเชียล แอคเคาท์ นอกจากตัวนี้แล้วเรายังทำโปรโมชั่นร่วมกับทางญี่ปุ่นด้วย คือถ้าเราไม่สามารถคิดคาแรกเตอร์การ์ตูนเองได้ เขาก็คงไม่ให้ลิขสิทธิ์กับเรา ผมเองสนใจมา 2 ปีแล้ว ผมเองเป็นคนแรกที่ติดต่อเขาไปว่าเราสนใจนะ แล้วเรารู้จักกับเขาดี เราทำการ์ตูนเอง แล้วเราก็มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นพอสมควร”
“ผมเชื่อว่าทุกวันนี้เรานักธุรกิจขายของเฉยๆ ไม่ได้แล้ว แต่โทรศัพท์รุ่นไลน์ แค่คุณใส่คาแรกเตอร์เข้าไปคุณก็พิเศษแล้ว ส่วนลูกค้าเรามีใครแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย แต่อย่างน้อยมีแล้ว 6-7 บริษัทใหญ่ๆ ที่กำลังจะทำแคมเปญใหญ่กับเรา แล้วเราเองไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย เรามีประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและอีก 2-4 ประเทศตอนนี้ที่ติดต่อเรา”
ลั่นไม่มีผลกระทบอะไรกับกรณีที่รัฐบาลประกาศจะควบคุมตรวจสอบการสนทนาผ่าน “ไลน์” แอปพลิเคชั่นยอดฮิตบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน เพราะอ้างเป็นภัยต่อความมั่นคง บอกของตนคนละส่วนกัน
“ไม่มีครับ ผมว่ายิ่งทำให้กระแสไลน์ยิ่งแรงขึ้น ต้องขอบคุณมากกว่า มันเหมือนเป็นการโปรโมทให้เราด้วยไปในตัว คุณก็รู้อยู่แล้วว่ายังไงเขาก็เข้าไปละเมิดลิขสิทธิ์ตรงนี้ไม่ได้ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่มันก็มีนะ ที่คนเอาส่วนตรงนี้ไปใช้ในทางที่ไม่ดี แต่ส่วนทำดีผมว่ามันมีเยอะกว่า ผมว่าคนมองเห็นประโยชน์มากกว่าโทษนะ”
“แต่พอเราเป็นเจ้าแรกที่มาจับตรงนี้ก็อาจจะมีคนให้ความสนใจ แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครในรัฐบาลมาสอบถามอะไรเรานะ มีแต่ผมไปสอบถามกับทางตำรวจว่าผมจะต้องไปเกี่ยวข้องอะไรไหม เขาก็บอกว่าไม่มีหรอก โดยทั่วไปเขาต้องไปตรวจสอบอยู่แล้ว เพราะมันมีการใช้ความรุนแรงในส่วนนี้อยู่บ้าง เขาก็แค่อาจจะไปสอบถาม แต่ของเรามันเป็นส่วนของสติ๊กเกอร์ มันไม่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว”
ที่มา: manager.co.th
