“ภิญโญ” ถามเทป “สิทธัตถะ” ไม่เหมาะสมตรงไหน จะทำเป็นวาระแห่งชาติก็ได้ แย้งถ้าคนอื่นมองว่าเป็นคนป่วยทางจิตให้นำไปตรวจก่อน แนะให้เข้าใจรายการก่อนค่อยวิจารณ์ บอกถ้ารายการสร้างกระแสจริงคงทำเยอะกว่านี้ สืบเนื่องมากจากกรณีของเด็กหนุ่มวัย 24 ปี “สิทธัตถะ เอมเมอรัล” ที่ได้เข้ามาประกวดไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ในทำนองว่าไม่ควรนำเทปนี้ออกอากาศเพราะเหมือนหนุ่มคนดังกล่าวจะมีความป่วยทางจิต ซึ่งคณะกรรมการในรายการไม่ควรมีท่าทีแบบนั้นออกอากาศ เพราะเพียงแค่พูดก็กดไม่ให้ผ่านแล้ว ซึ่ง “ภิญโญ รู้ธรรม” หนึ่งในคณะการได้พูดถึงกระแสดังกล่าวว่าไม่เห็นมีอะไรรุนแรง และเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับ "ปัญญา นิรันดร์กุล" เลย
“คือเอาจริง ๆ กระแสนี้ได้ยินจากไลน์ที่น้องๆ ส่งมา เพราะผมเองไม่เสพสื่อ ไม่อ่านข่าวไม่ดูอะไรเลยกับพี่ตายังไม่ได้เจอเลยครับ จากที่ออกอากาศไป ไม่ได้รู้สึกว่าจะมีอะไรรุนแรงเลย เฉย ๆ นะเรื่องนี้ ผมว่าไปหยิบระเบียบ กฎหมายกันมาเลยดีกว่า รายการผิดตรงไหน น้องเขาผิดตรงไหน”
บอกคนที่สร้างกระแสต้องออกมารับผิดชอบ ถ้าคนมองว่าน้องป่วยทางจิต ให้นำน้องไปตรวจก่อน เจ้าตัวบอกเทปนี้ออกมาถือว่าไม่แปลก
“ก็ต้องถามว่าถ้าจะสืบสวนจะสืบสวนเรื่องอะไร ความไม่เหมาะสมทางไหน กฎข้อที่เท่าไหร่ หรือจะยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ ทำประชามติ เป็นกรณีศึกษากฎหมายต่อไปก็ได้ รวมทั้งคนที่สร้างกระแสจะต้องรับผิดชอบนะ ที่สร้างกระแสขึ้นมา ตอนแรกมันไม่มีอะไร นอกจากคนว่ามันแปลก ๆ เรากำลังผิดกลิ่นน้องเขา และโทษคนที่หยิบน้องคนนี้ออกมาโชว์ ซึ่งจริงๆ น้องไม่ได้ถูกบังคับ ตั้งใจมาโชว์ทาเลนต์ของเขาในแบบของเขา เราก็เปิดกว้าง ถ้าคุณมาแบบนี้ ผมกับคุณโจ(จิรายุ วรรธนะสิน)ก็ไปแบบนั้นเหมือนกัน”
“ถ้าบอกว่าน้องเขาป่วยทางจิต ผมว่าเอาเขาไปตรวจก่อน เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนะ ถ้าคนมองว่าทำไมรายการต้องเลือกนำเสนอคนนี้ ก็อยากให้กลับไปดูซีซั่นหนึ่งใหม่นะ รอบออดิชั่นไม่ได้ถูกคัดหัวกะทินะครับ มันเหมือนเข้ามาสมัครแล้วมาแสดงให้ดูเลย บางคนอาจจะคิดว่า นี่คือทาเลนต์ในแบบของฉัน บางคนดีเข้าตาเราก็จะชื่นชม บางคนไม่เข้าตา กรุณาเข้าใจรายการก่อนค่อยมาวิจารณ์ ถ้าไม่รู้จักคนหนึ่งก็จะวิจารณ์เขาแบบไม่รู้ ถ้ารู้จัก จะวิจารณ์อีกอย่างหนึ่ง ยิ่งมีโซเซียลเน็ตเวิร์ก ทุกคนมีชาแนลเป็นของตัวเอง ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย มีมือถือก็เปิดกระทู้ขึ้นมาสนุกๆ เทปนี้ออกมาถือว่าไม่แปลกครับ”
ถ้าคนมองในแง่ลบเจ้าตัวบอกทางรายการก็ต้องรอรับผลที่เกิดขึ้น
“ทางรายการก็ต้องรอรับผลที่เกิดขึ้น ผู้จัดรายการทุกคนก็ต้องรอบรับผล ไม่ว่าจะดีหรือร้าย จะต้องรับผิดชอบ ตรงนี้ถามว่ามันเป็นผลเสียกับใครบ้าง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ผมจะบอกคือเสียเวลา อย่าไปตามกระแสจนเกินไป ถอยกลับมา เอาเหตุผลตั้งสติกันนิดหนึ่ง ไม่อย่างนั้นมันจะไปเรื่อยๆ สมมุติคนสร้างกระแสในอินเตอร์เน็ต แล้วตีข่าวมากมาย ปรากฎว่าเป็นเรื่องโกหก ทำอย่างไร ใครรับผิดชอบ คนเริ่มเรื่องรับผิดชอบ ก็อยากให้ตรวจสอบ ใช้กฎหมาย ระเบียบ ก็ตราระเบียบขึ้นมาใหม่ก็ได้ เพราะน้องก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ แค่น้องไม่เอาไหนผมเลยไม่ให้ผ่าน”
เพราะเปิดโอกาสให้ทุกคนโชว์ความสามารถอยู่แล้ว บอกหากรายการที่สร้างกระแสคงทำเยอะกว่านี้
“ถ้าจะบอกว่าคนติงว่าทำไมนำเสนอน้องคนนี้ลองย้อนไปดูซีซั่น 1-2 เรามีหลายแบบ ทั้งคุณป้า 2 จี ไม่ใช่ว่าเราจะคัดออกมาให้ดูเฉพาะหัวกะทิ ถ้าแบบนั้น รายการพี่ๆ น้องๆ เราทำอยู่ประกวดร้องเพลง พวกนั้นจะคัดเฉพาะ แต่ของเราใช่ไม่เราเปิดกว้าง ถามว่าจะมีอีกไหม ก็คงมี แบบดูแล้วจะอาเจียรก็มี คนดูอาจจะเฉยๆ ก็ได้ อยู่ที่การสร้างกระแสใครก็ไม่ทราบแต่ไม่ใช่รายการสร้างกระแส ไม่อย่างนั้นคงทำมากกว่านี้”
"ส่วนที่คนมองว่ารายการสร้างกระแสตั้งแต่ซีซันส์ 2 ผมไม่อยากเอ่ยถึงอันนั้น ส่วนครั้งนี้เราก็ตั้งใจทำดีที่สุด การที่น้องคนหนึ่งมาร้องเพลง จะทำให้เกิดความโกลาหลแบบนี้ อยากให้ตั้งสตินิดหนึ่ง ถ้าบอกธุรกิจมันก็คือธุรกิจ ส่วนตัวผมมั่นใจในสิ่งที่นำเสนอออกมาครับ เพราะว่าผมไม่ได้เป็นผู้ตรวจสอบเทปนะ ต้องย้อนกลับไปที่ กบว. สถานี ถ้าเป็นอย่างนั้น เทปทุกเทปก็ต้องผ่าน กสทช. กรุณาตรวจสอบทุกวินาทีที่ออกทีวี ทั้งสามร้อยสี่ร้อยช่องด้วย ถ้าทำถึง กรุณาไปจับจ้อง อย่าจับจ้องเฉพาะฟรีทีวี ผมว่ามันเป็นเรื่องของใหญ่ที่มาจับจ้องแต่ของเล็กไม่ไปส่องดูเลย ผมดูหลายช่องก็จะอ้วก ไม่เห็นมีใครไปสร้างกระแสตรงนั้น"
ปัดการแอคติ้งของกรรมการเป็นสคริปต์ที่เขียนไว้
"ไม่มีครับ ใครจะไปสั่งจิรายุ (จิรายุ วรรธตนะสิน) สั่งพรชิตา(พรชิตา ณ สงขลา) ได้ครับ ให้มาเป็นกรรมการไม่ใช่ให้ว่าแอ็คติ้งเป็นกรรมการ เราไม่ใช่กรรมการด้วย เราเป็นผู้ตัดสินให้เข้าไปก่อน คำว่าผ่านไม่ใช่ผ่านเข้ารอบนะ ผ่านไปกองรวมกัน สองร้อยกว่าโชว์แล้วค่อยคัดจริงๆ เหลือ 36 โชว์"
ที่มา: manager.co.th