เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากซัมซุง (Samsung) ผิดคาดเล็กน้อยเพราะ Galaxy S4 มาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว ดีไซน์สไลต์เดิมแต่ปรับให้เครื่องบางลงและแข็งแรงขึ้น เบื้องต้นซัมซุงเตรียมชิมลางจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายนนี้ Galaxy S4 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนน้องใหม่ถัดจาก Galaxy S III หรือ S3 ที่สามารถจำหน่ายได้ถล่มทลายเกิน 100 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ Galaxy S 4 เพิ่มขนาดหน้าจอเล็กน้อยเป็น 5 นิ้วซึ่งดูแล้วไม่ต่างจาก Galaxy S3 นัก ความพิเศษคือการปลดสัมผัสจากพลาสติกออกไป แต่ก็ยังคงความเบาพกพาง่าย
Galaxy S 4 มาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้วเทคโนโลยี Super AMOLED 1920x1080 เทียบเท่าความละเอียด 441 ppi คลุมทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3 ตัวชิปใช้ชิป 4 คอร์ 1.9Ghz หรือรุ่น 8 คอร์ที่ซัมซุงระบุว่าเป็น 1.6 octa-core processor ตัวเครื่อง Galaxy S 4 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean ตัวเครื่องมี RAM ขนาด 2GB หน่วยความจำเลือกได้ 16, 32 หรือ 64GB ซึ่งสามารถเสียบการ์ด microSD เพิ่มได้
การเชื่อมต่อไร้สายพื้นฐานสามารถรองรับได้ครบ ทั้ง Bluetooth 4.0 LE, NFC, Wi-Fi และ GPS จุดที่น่าสนใจคือ Galaxy S 4 มีความคล้ายกับ Galaxy Note 8.1 ที่ Galaxy S 4 มาพร้อมพอร์ต IR ทำให้สามารถใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรลได้
ทั้งหมดนี้ใช้แบตเตอรี่ความจุ 2600 mAh
หนึ่งในหลายยุทธศาสตร์ที่ซัมซุงวางไว้สำหรับ Galaxy S4 คือ การเน้นความสามารถของกล้องดิจิตอล ครั้งนี้ซัมซุงจัดเต็ม 13 ล้านพิกเซลไว้ด้านหลัง และ 2 ล้านพิกเซลไว้ที่กล้องด้านหนัา ที่สำคัญ คือ กล้องทั้ง 2 ตัวของ Galaxy S4 สามารถทำงานได้พร้อมกันภายใต้โหมดที่ซัมซุงตั้งชื่อว่า Dual Camera ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้จากกล้องทั้ง 2 ตัวพร้อมกับแบบ “ไร้รอยต่อ”
Dual Camera จะทำให้ผู้ใช้สามารถทำวิดีโอคอล หรือการโทรศัพท์แบบเห็นภาพ โดยถ่ายทอดให้ปลายสายเห็นว่าเหตุการณ์อะไรกำลังเกิดขึ้นตรงหน้า โดยนอกจาก Dual Camera ซัมซุงยังปรับปรุงซอฟต์แวร์กล้องโดยนำซอฟต์แวร์จากกล้องแอนดรอยด์ Galaxy S Camera มาติดไว้ที่ Galaxy S 4 จนทำให้เครื่องสามารถใช้งานได้ในมุมที่แตกต่าง
จุดขายของ Galaxy S 4 ยังอยู่ที่คุณสมบัติใหม่ชื่อ Air View ผู้ใช้จะสามารถชี้มือไปที่เมนูในแอปซึ่งใช้งานอยู่ เพื่อชมภาพตัวอย่างของคอนเทนต์ที่จะได้พบก่อน (preview) โดยที่ยังไม่ต้องแตะหน้าจอเพื่อเปลี่ยนหน้าจอทั้งหมด ช่วยลดเวลาในการแตะเปลี่ยนหน้าจอกลับไปกลับมาเมื่อไม่พบคอนเทนต์ที่ต้องการ
ยังมีคุณสมบัติ Air Gestures ที่ชาวซัมซุงจะสามารถเลื่อนเปลี่ยนหน้าจอหรือต่อสายโทรออกโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ แต่จะใช้การวาดลอยเหนือหน้าจอและการจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้เหมือนที่เกม Kinect ทำได้
และตามข่าวลือ Galaxy S 4 มาพร้อมเทคโนโลยี Smart Pause และ Smart Scroll ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ควบคุมเครื่องโดยไม่ต้องใช้มือ สำหรับ Smart Pause จะทำให้ไฟล์วิดีโอหยุดเล่นชั่วคราวเมื่อพบว่าผู้ใช้หันหน้าไปทางอื่น และจะเริ่มเล่นต่อเมื่อผู้ใช้หันกลับมา จุดนี้รายงานระบุว่าซัมซุงใช้การวิเคราะห์ใบหน้า ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีตรวจจับสายตาอย่างที่เป็นข่าวลือ
ขณะที่ Smart Scroll จะทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนเว็บไซต์หรืออีเมลขึ้นลงโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอเชนกัน แต่จะใช้การเคลื่อนไหวของใบหน้าและการยกมือเพื่อเลื่อนหน้าจอ
เบื้องต้น คาดว่า Galaxy S 4 จะเริ่มวางจำหน่ายในบางประเทศช่วงเดือนเมษายนนี้ ก่อนจะขยายวงทำตลาดทั่วโลกต่อเนื่องตลอดไตรมาส 3 สำหรับในประเทศไทยคาดว่าราคาเปิดตัวจะอยู่ที่ 21,900 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่มาแทนที่ Galaxy S3 ที่เพิ่งปรับราคาลงเหลือ 18,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางส่วนที่เปิดตัวพร้อมกับ Galaxy S4 จะถูกอัปเดตกลับไปยังแฟลกชิปโฟนรุ่นก่อนหน้าของซัมซุงแน่นอน เพียงแต่จะมีเฉพาะตัวที่ฮาร์ดแวร์รองรับเท่านั้น ดังนั้นผู้ใช้ทั้ง Galaxy S3 และ Note 2 ก็ยังวางใจได้ว่าจะได้รับการอัปเดตอย่างแน่นอน
ที่มา: manager.co.th