สินค้าตระกูล Galaxy ที่เชื่อว่าเป็นสินค้าหลักในการผลักดันกำไรของซัมซุง
แท็บเล็ต Galaxy
Galaxy S3 สมาร์ทโฟนเรือธง (ซ้าย) ถูกวางเทียบกับ S2 ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ มีกำหนดรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ของปีอย่างเป็นทางการช่วงวันที่ 26 ตุลาคมนี้ แต่ข้อมูลบางส่วนถูกนำมาเปิดเผยก่อนโดยสื่อเกาหลีใต้นาม Yonhap News Agency ซึ่งอ้างข้อมูลจากเอกสารที่ซัมซุงยื่นชี้แจงต่อหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมในเกาหลีเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม โดยในเอกสารชี้ว่า 3 เดือนที่ผ่านมา (ก.ค.-ก.ย. 2012) ซัมซุงประเมินว่าบริษัทสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 20.5% จากไตรมาสก่อนหน้า ทำสถิติใหม่ที่ 8.1 ล้านล้านวอนหรือประมาณ 7.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.19 แสนล้านบาท)
ข้อมูลเหล่านี้ชี้ว่า ซัมซุงนั้นสามารถทำลายสถิติผลกำไรจากการดำเนินงานติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 แล้ว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่า 90.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2011
การประเมินกำไรของซัมซุงที่ 8.1 ล้านล้านวอนนี้แซงหน้าคำพยากรณ์ของนักวิเคราะห์ที่เชื่อกันว่าซัมซุงจะทำกำไรได้ราว 7.6 ล้านล้านวอนเท่านั้น โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ดำเนินการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ 16 ราย
หากเทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ ซัมซุงประเมินว่ารายได้รวมของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นราว 26% สัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้น 1 ใน 4 นี้ทำให้ซัมซุงมีเงินสะพัดมากกว่า 52 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 4.67 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.4 ล้านล้านบาท) ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ซัมซุงที่สามารถโกยรายได้เข้ากระเป๋ามากกว่า 50 ล้านล้านวอน
ทั้งหมดนี้ ซัมซุงไม่ออกมาให้ความเห็นรายละเอียดเกี่ยวกับการประเมินผลประกอบการของบริษัท มีเพียงนักวิเคราะห์ที่มองว่ายอดรายรับของซัมซุงที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดนี้เป็นเพราะการส่งออกอุปกรณ์พกพาไปจำหน่ายในตลาดโลก ทั้งสมาร์ทโฟนเรือธง Samsung Galaxy S3 และแท็บเล็ต Galaxy Note 2 ซึ่งกลายเป็นกระแสร้อนแรงในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าเกิน 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้
ก่อนหน้านี้ ซัมซุงเคยรายงานว่าสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟน Galaxy S3 ได้ 20 ล้านเครื่องในเวลา 3 เดือนแรกที่วางจำหน่าย ท่ามกลางสายการผลิตที่ล่าช้าและอุปสรรค์ในห่วงโซ่อุปทานซึ่งมีผลต่อยอดขายสินค้าของซัมซุงบางส่วน
สำหรับทั้งปี ซัมซุงคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ราว 28 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.5 แสนล้านบาท) ผลจากการดำเนินงานของพนักงานซัมซุงมากกว่า 206,000 คนทั่วโลก
ปัจจุบัน ซัมซุงมีมูลค่าตลาดราว 1.97 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นผู้ผลิตทีวี สมาร์ทโฟน และเมมโมรี่ชิปรายใหญ่ของโลก เบื้องต้น คาดว่าราว 2 ใน 3 ของกำไรซัมซุงนั้นมาจากธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พกพา เฉพาะสินค้าประเภทสมาร์ทโฟน คาดว่าซัมซุงสามารถจัดจำหน่ายได้มากกว่า 58 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา (รวมยอดจัดส่ง Galaxy S3 จำนวน 20 ล้านเครื่อง) Company Related Link :
Samsung
ที่มา: manager.co.th
