"เก้ง" เผยรายได้ "รัก7 ปีฯ" ทะยาน70 ล้านใน 2 สัปดาห์เกินคาดหวังแล้ว บอกหากไม่ได้ "นิชคุณ" หนังอาจไม่ทำเงินขนาดนี้ ฟุ้งตอนนี้ขายต่างประเทศได้แล้วถึง 4 ประเทศ ส่วยในเกาหลีคงไม่ไปฉาย เพราะคนเกาหลีไม่นิยมดูหนังเป็นตอนๆ ไม่เกี่ยวกรณี "นิชคุณ" ถูกแบน เปิดฉลองความสำเร็จรายได้ภาพยนตร์ "รัก 7 ปีดี 7 หน" ทะยานสู่ 70 ล้านหลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์มา 2 สัปดาห์ ซึ่งก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวต่างๆ นานา โดยส่วนนึงให้ความเห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้ซุป'ตาร์ระดับเอเชียอย่าง "นิชคุณ หรเวชกุล" มาร่วมงานขนาดนี้รายได้น่าจะทะยานเข้า 100 ล้านแล้ว แต่กลับยังไปไม่ถึง กับเรื่องนี้ "เก้ง จิระ มะลิกุล" ก็ได้ออกมาเผยว่า รายได้เกินที่คาดหวังไว้แล้ว เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่ภาพยนตร์สูตรสำเร็จ ที่คนดูเข้าใจง่าย ดูแล้วต้องใช้การตีความไปด้วย และตนก็น้อมรับทั้งคำชมและคำติ
"น่าสนใจครับ เป็นหนังที่มีคนชอบมาก คนเกลียดมากในเรื่องเดียว กันพูดถึงส่วนต่างๆ ของหนังเยอะมาก มีคอมเม้นต์กันเข้ามาเยอะมาก ซึ่งมันก็ตรงตามความตั้งใจของเรา เราครบรอบ7ปี เราทำหนังที่ไม่ใช่หนังตามสูตร เราพยายามจะทำหนังที่เราก้าวไปพร้อมกับคนดู ผมชอบที่มันเป็นแบบนี้ คนติเยอะนะ มากมายร้อยแปดไม่รู้เรื่อง หนังอะไรวะ ไม่ดูดีกว่า แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับคำพวกนั้นนะ คือรักจะเป็นคนทำหนัง ถ้าแค่นี้ทำให้กำลังใจถดถอยนี่คงทำงานต่อไปไม่ได้ แค่ทำหนังมันก็ยากแล้ว"
"สำหรับรายได้พอใจครับ เป็นรายได้ที่ถือว่าก็เหนือกว่าในระดับทั่วไป ตอนนี้มันก็ผ่าน60ล้านมาแล้ว ก็โอเค ผมว่าด้วยเราเลือกทำงานยากด้วยเนื้อเรื่อง ประเด็นการเล่าเรื่อง กับงานยากขนาดนี้ ผมว่าเราได้ 70ล้าน นี่เราดีมากแล้วนะครับ ยังพูดกันเลยว่าถ้าเมื่อก่อนเราทำหนังแบบนี้ 20ล้านจะถึงรึเปล่า เราไม่ได้ทำหนังสูตรไง เราเล่าเรื่องยาก อยากเล่าเรื่องในวิธีใหม่ที่อยากท้าทายตัวเอง ท้าทายคนดู อยากให้เขาเดินตามเรา เหมือนเอาหนังลิโด้มาฉายแมส มันยากมาก ถ้าไม่ใช่โอกาสครบรอบ7ปีเราคงไม่ได้ทำ และที่สำคัญคือต้องขอบคุณสปอนเซอร์ด้วย ช่วยเราได้อย่างมาก"
ส่วนที่หลายคนมองว่าได้ "นิชคุณ" มาเล่นรายได้หนังน่าจะมากกว่านี้ ซึ่งกับเรื่องนี้ “เก้ง” กลับมองว่าการได้ 70 ล้าน ถือว่านิชคุณมีส่วนช่วยได้มากแล้ว เผยตอนนี้ภาพยนตร์ขายต่างชาติได้แล้วถึง 4 ประเทศ
"แฟนๆ อาจจะมองในแง่บวก เอาใจช่วยว่ามันน่าจะทำเงินมากกว่านี้ บอกได้เลยว่าดาราดังๆ ไม่มีผลกับรายได้ของหนัง ไม่ว่าจะดังขนาดไหน ทุกอย่างอยู่ที่ตัวหนังมากกว่า ดาราไม่เกี่ยว ดาราอาจจะทำให้หนังดูมีสีสันเท่านั้น สำคัญคือหนังสื่อสารกับคนยังไงบ้างแค่ไหนมากกว่า หนังทำตัวยากคนก็อาจจะถอยๆ หน่อย ซึ่งหนังเรายากมาก ทั้งเนื้อเรื่อง การตีความ ซิมโบลิคซับซ้อนก็เลยคิดว่ามันเกินคาดหมายแล้วกับรายได้แค่นี้”
“นี่เอาจริงๆ70ล้านนี่ผมว่าเป็นเพราะนิชคุณช่วยเราไว้เยอะ เป็นโชคดีที่มีนิชคุณ ถ้าเขาไม่มาช่วยเราอาจจะหนักกว่านี้เยอะเลย เด็กๆ มาดูหนังเราเยอะมากเลยครับ แต่ที่เราคิดไว้ตามประเด็นหนังแฟนๆ ของหนังเรื่องนี้น่าจะต้องผ่านการทำงาน ผ่านการอกหักมาแล้วมากกว่า เราคิดแค่ว่ายังไงเราไม่อยากขาดทุน ถ้าได้ 40-50ล้านเราก็โอเคแล้วไม่ขาดทุน แล้วอย่างที่บอกมีสปอนเซอร์มาช่วยเราเยอะ นี่ก็กำไรแล้วแหละ ไหนจะไปขายต่างประเทศอีก ก็โล่งอกครับ "
"กับที่บางคนมองว่ารายได้น่าจะดีกว่านี้ถ้าไม่ไปชนกับหนังต่างประเทศ อันนี้ผมว่าไม่จริงนะ จะชนกับใครเราก็เท่านี้ครับ มันอยู่ที่ว่าตัวหนังมันพูดกับใคร สื่อสารกับใคร ระดับคนทำหนังได้แค่นี้เราชื่นใจมากแล้ว นี่คิดว่าเกิน6 แสนคนแล้ว ข่าวของนิชคุณอะไรพวกนั้นมันไม่มีผลต่อหนังเราเลย”
“ตอนนี้ก็มีต่างประเทศซื้อหนังไปแล้ว 4 ประเทศ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง แล้วก็มีอีกหลายประเทศกำลังจะตามมานี่เพราะนิชคุณเลยนะ ส่วนเกาหลีนี่คิดว่าคงไม่นะ เพราะเขาไม่ชอบหนังเป็นตอนๆ เรื่องแบบนี้เกาหลีไม่ชอบ เขาอยากดูนิชคุณนะ เขาไม่ชอบหนังแนวนี้ ก็คิดว่าคงไม่ได้ไป”
ที่มา: manager.co.th