ฟูจิ ซีร็อกซ์ ตั้งเป้าเติบโต 22% หวังกวาดรายได้ 5 พันล้านบาท จากกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ที่ถือครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 30% พร้อมนำเสนอโซลูชันการพิมพ์ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่ 10-30% ซึ่งถือว่าเป็นเทรนด์การเติบโตที่สำคัญในตลาด นอกจากการซื้อใช้เฉพาะเครื่อง นายสมมาตร บุณยะสุนานนท์ รองประธานและกรรมการ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) กล่าวถึงภาพรวมตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน ที่ฟูจิ ซีร็อกซ์ถือเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผู้ใช้งานระดับกลาง-บน จากส่วนแบ่งตลาด 30% ว่าในปีนี้ภาพรวมน่าจะมีการเติบโตราว 20-25% จากการขยายตัวขององค์กรขนาดใหญ่ และภาครัฐที่หันมาใช้งานเครื่องมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่มากขึ้น แต่เกิดอุทกภัยเหมือนในช่วงปลายปีที่ผ่านมาอัตราการเติบโตอาจไม่เป็นไปตามนี้ก็เป็นได้
"ฟูจิ ซีร็อกส์ตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้ไว้ที่ 22% หรือคิดเป็นรายได้ราว 5 พันล้านบาท จากปีที่ผ่านมาเติบโต 14% คิดเป็นรายได้รวม 4.1 พันล้านบาท ซึ่งพลาดจากเป้าที่วางไว้เนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัย ที่ส่งผลให้ไม่เกิดการใช้งานเกือบ 3 เดือน"
โดยปีงบประมาณ 2555 ของฟูจิ ซีร็อกซ์เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน 2555 - ปลายเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักมาจากการซื้อขายเครื่อง 60% และรายได้จากการให้บริการหลังการขายราว 40% แต่เชื่อว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้าสัดส่วนดังกล่าวจะเป็น 40% - 60% จากฐานลูกค้าที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีรายได้จากการบริการเพิ่มขึ้นด้วย
"ฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของฟูจิ ซีร็อกซ์กว่า 75% อยู่ในเขตกรุงเทพฯ เพราะเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน จะอยู่คู่กับองค์กรและสำนักงานขนาดใหญ่มากกว่า ส่วนในต่างจังหวัดจะเป็นตลาดของเครื่องพิมพ์โปรดักส์ชันขนาดใหญ่ ที่มีราคาขายตั้งแต่ 1 ล้านบาท ไปถึง 100 ล้านบาท"
นอกจากการขายเครื่อง-เช่าเครื่องแล้ว ฟูจิ ซีร็อกซ์เชื่อว่ารูปแบบการให้บริการแบบโซลูชันการพิมพ์ครบวงจรในชื่อว่า MPS (Managed Printing Service) ที่ฟูจิ ซีร็อกซ์จะช่วยเข้าไปวางแผนและจัดการระบบการพิมพ์ภายในสำนักงาน ซึ่งการันตีว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่องค์กรราว 10-30% จากเทคโนโลยีของเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันรุ่นใหม่ที่ช่วยประหยัดพลังงาน
Company Relate Link :
Fuji Xerox
ที่มา: manager.co.th
