ประเด็นการขึ้นเวที "มิสยูนิเวิร์สแคนาดา" ของสาวแปลงเพศยังคงไม่ยุติลงง่าย ๆ เมื่อเจ้าตัวถามต่อไปยังกองประกวด และ "โดนัลด์ ทรัมป์" เจ้าของลิขสิทธิ์ "มิสยูนิเวิร์ส" ว่า หากเธอชนะในการประกวดระดับประเทศ แล้วจะมีสิทธิ์ขึ้นเวทีมิสยูนิเวิร์สในฐานะตัวแทนแคนาดาหรือไม่ รวมถึงประเด็นบรรทัดฐานของกองประกวด ที่เธอยืนยันว่าต้องมีการตัดคำว่า "เป็นเพศหญิงโดยกำเนิด" ทิ้งอย่างถาวรด้วย หลังเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกเมื่อ เจนนา ทาแลคโคว่า สาวเทียมชาวแคนาดาวัย 23 ปี ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเวทีประกวด มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวได้แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ผ่านทางทนายความส่วนตัวว่าเธอยังไม่พอใจกับจุดยืนของกองประกวดใน 2 ประเด็นสำคัญ
ประเด็นหนึ่งที่ ทาแลคโคว่า ต้องการคำตอบจากกองประกวดก็คือความชัดเจนเรื่องกฏข้อที่ว่าการประกวดเปิดกว้างสำหรับ "เพศหญิงโดยกำเนิด" เท่านั้น
"เจนนา เข้าสู่การประกวดครั้งนี้ ทุ่มเทเวลา, ความพยายาม และทุนทรัพย์อย่างเต็มที่ ... เธอไม่เคยคิดซักวินาทีเดียวว่าเพศแต่กำเนิดของเธอคือประเด็นสำคัญ เธอไม่เคยถาม คุณ ทรัมป์ ให้พิสูจน์ว่าเขาเป็นเพศชายโดยกำเนิดหรือไม่ หรือต้องการดูภาพถ่ายวัยเด็กของเขา, พิสูจน์ไปถึงกายวิภาคของเขา, พิสูจน์ความเป็นชายของเขา เธอไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องแบบนั้น แต่ทำไมเขาถึงต้องมีปัญหาด้วย" ตัวแทนทางกฏหมายของเธอกล่าว
เรื่องราวของ ทาแลคโคว่า เป็นข่าวมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เมื่อกองประกวดประกาศตัดสิทธิ์เธอ หลังมีการค้นพบว่าสาวคนนี้เคยผ่านการแปลงเพศจากชายเป็นหญิงมาก่อน จนเกิดกระแสประท้วงต่อต้านคำตัดสินดังกล่าว มีการล่ารายชื่อเพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของกองประกวด
จนสุดท้าย องค์กรมิสยูนิเวิร์ส ในนิวยอร์กได้ประกาศคืนสิทธิ์ให้ ทาแลคโคว่า แต่ดูเหมือนเธอยังคงไม่พอใจกับคำตอบที่ไม่รอบด้านครบถ้วนสมบูรณ์อย่างที่ตนต้องการ นิตยสาร People ยังอ้างว่า ทาแลคโคว่า อาจตัดสินใจฟ้องร้องกองประกวดในเร็ว ๆ นี้ด้วย
"แถลงการณ์ของคุณทรัมป์ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า กฏข้อที่ว่าการประกวดอนุญาตสำหรับ 'หญิงแต่กำเนิดเท่านั้น' จะถูกยกเลิกไปหรือไม่" ตัวแทนของ ทาแลคโคว่า กล่าว "มิฉะนั้น, เราอาจต้องตัดสินใจใช้มาตรการทางกฏหมายทุกช่องทางต่อไป"
ทาแลคโคว่า ที่เล่าว่าเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เริ่มใช้ฮอร์โมนตั้งแต่อายุ 14 และผ่านการผ่าตัดแปลงเพศตอนอายุ 19 กล่าวว่าตนตื้นตันกับกำลังใจมากมายที่ได้รับ ตั้งแต่ถูกตัดชื่อออกจากการประกวดมิสแคนาดายูนิเวิร์ส และพร้อมจะเดินหน้าสู้เพื่อสิทธิ์ต่อไป
"ตอนที่ได้รับเลือกให้เข้ารอบสุดท้าย ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะฝันมาตลอดว่าอยากจะเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส และได้เป็นตัวแทนของประเทศแคนาดา" เธอกล่าวพร้อมเผยว่าตนเองแทบหัวใจแตกสลายเมื่อถูกตัดสิทธิ์ ซึ่งแม้ตอนนี้จะสามารถขึ้นเวทีในการประกวดระดับประเทศได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังต้องการคำตอบว่าเธอจะมีสิทธิ์ขึ้นประชันโฉมกับสาวงามจากทั่วโลกในเวทีมิสยูนิเวิร์สหรือไม่ต่อไป
"ฉันไม่เคยร้องขอสิทธิพิเศษใด ๆ ต้องการเพียงเข้าประกวดเท่านั้น ฉันหวังเพียงว่า คุณทรัมป์ จะพูดออกมาชัด ๆ ว่าหากชนะในการประกวดระดับประเทศ ฉันจะสามารถขึ้นเวทีมิสยูนิเวิร์สได้หรือไม่ จะได้เป็นตัวแทนของ แคนาดา บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส หรือไม่"
ที่มา: manager.co.th