พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ทุ่มพันกว่าล้านบาทเปิดอีก 2 สาขากลางปีนี้ และพัฒนาพื้นที่สาขาในเครือให้เข้ากับยุคเศรษฐกิจ และแนวโน้มเทคโนโลยี เชื่อนวัตกรรมใหม่ๆ จะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินได้ ขณะเดียวกันจับมือกับพันธมิตร 800 ร้านค้าอัดแคมเปญลดสะท้านวงการไอที ส่วนรายได้ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
นายวิษณุ หวังวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าไอที พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า กล่าวว่า ประมาณเดือนมิ.ย.หรือก.ค.จะเปิดอีก 2 สาขาคือที่สยามสแควร์ซึ่งเรียกว่าดิจิตอล เกตเวย์ จะใช้งบประมาณ 900 กว่าล้านบาท และบางกะปิซึ่งใช้ชื่อว่าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า จะใช้งบประมาณ 200 กว่าล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการตลาด โฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมถึงงบในการพัฒนาปรับเปลี่ยนพื้นที่สาขาต่างๆ ที่มีอยู่ 5 สาขา คือประตูน้ำ งามวงศ์วาน บางกะปิ เชียงใหม่ และที่สยามสแควร์ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งรวมแล้วประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท
สำหรับสาขาสยามสแควร์อยู่ระหว่างเจรจากับ 2 รายใหญ่ หากบรรลุข้อตกลงพื้นที่ก็เต็ม ส่วนสาขาปางกะปิมีผู้เช่าแล้วประมาณ 70-80% ส่วนราคาค่าเช่าอย่างสาขาประตูน้ำเฉลี่ย 900 บาทต่อเดือน ส่วนสยามสแควร์ประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อเดือน เพราะมีการพัฒนาพื้นที่หรือการรี-โนเวตให้เป็นแนวแฟชัน อินเทรนด์ โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ตัวเล็กๆ แต่ทันสมัย และออกแนวแฟร์ชัน
ส่วนสาขางามวงศ์วานก็จะมีกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างชั้น 8 จะจัดให้เป็นตลาดนัดสุดสัปดาห์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าราคาประหยัด ลดค่าใช้จ่ายในยุคเศรษฐกิจซบ สำหรับสินค้าจะเป็นประเภททั้งแฟร์ชัน สินค้าตกแต่งบ้าน สมุนไพร เป็นต้น ส่วนสาขาเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่ว่างประมาณ 30-40% จะเป็นลักษณะสินค้าประเภทโรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้ กวดวิชา สอนภาษา สอนคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ งานช่าง งานฝีมือ อบรม เป็นต้น
“เศรษฐกิจจะไม่ดีแต่เรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ จะช่วยให้ขับเคลื่อนธุรกิจเราไปได้ อย่างสาขาประตูน้ำยังงเป็นเรือธงมีออกไปแค่ 5-6 รายต่อปี แต่ที่น่าห่วงก็มีแค่เชียงใหม่ เพราะประชากรน้อย ก็ต้องอิงนักท่องเที่ยว เราก็มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใหม่ๆ ไปด้วย”
พร้อมกันนี้ พันธุ์ทิพย์ พลาซ่ายังได้ร่วมมือกับพันธมิตรร้านค้าและบริษัทไอทีชั้นนำต่างๆ กว่า 800 ร้านค้าเตรียมจัดแคมเปญใหญ่ Pantip Hot Sale 2009 ครั้งที่ 1 ขึ้นระหว่างวันที่ 28 ก.พ.- 8 มี.ค. 2552 ที่สาขาประตูน้ำ และสาขางามวงศ์วาน โดยแคมเปญดังกล่าวถือเป็นแคมเปญใหญ่ซึ่งได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 9 แล้ว
สำหรับแคมเปญ Pantip Hot Sale ที่ผ่านมาพบว่า ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศขณะนี้จะส่งผลให้ผู้บริโภคปรับตัวและชะลอการใช้จ่ายลงไปบ้าง แต่อัตราการเติบโตของยอดขายสินค้าไอทีในตลาดโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสินค้าและอุปกรณ์ไอทีในปัจจุบัน ผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการ และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้อย่างดี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในตลาด บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายสำหรับแคมเปญในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทในระยะเวลา 9 วันที่จัดงาน ทั้ง 2 สาขา และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานเฉลี่ยรวมกัน 2 สาขาไม่น้อยกว่า 80,000 คน ต่อวัน ส่วนประเภทสินค้าไอทีที่คาดว่าจะมียอดการจับจ่ายสูงสุด 3 อันดับได้แก่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, กล้องดิจิตอล, Accessory Gadget โดยบริษัทใช้งบในการจัดแคมเปญดังกล่าวกว่า 3 ล้านบาท
ความพิเศษของแคมเปญ Pantip Hot Sale 2009 ครั้งที่ 1 เป็นลดสะท้านวงการไอที ในครั้งนี้ นอกจากจะพบกับมหกรรมลดราคาสินค้าคอมพิวเตอร์และไอทีครั้งยิ่งใหญ่ที่ร้านค้าต่างๆพร้อมใจกันลดราคาสินค้าไอทีทั้งศูนย์การค้าแล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย การร่วมสนุกลุ้นรางวัลมากมายภายใต้กิจกรรม “พันธุ์ทิพย์แจกทองไม่ต้องลุ้น ชอปไอทีลุ้นรับโน้ตบุ๊กฟรีทุกวัน” ด้วย
นายพิษณุกล่าวว่า สำหรับรายได้ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักจะมาจากค่าเช่ากับค่าโฆษณา ส่วนรายได้รอบปีที่ผ่านมา 700 ล้านบาท