“ท็อป ณัฐเศรษฐ์” รับข่าวกิ๊ก
“ไอซ์ อภิษฎา” ควง
“เจนสุดา” มีผลกระทบกับครอบครัว เป็นชนวนหนึ่งให้มีปัญหากับ
“แพม” ภรรยา บอกตอนนี้อยู่ในช่วงทบทวนความสัมพันธ์ว่าจะอยู่หรือไป แต่ก็จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่คนๆ หนึ่งจะทำได้เพราะรักภรรยามาก
กลายเป็นเรื่องซะแล้วสำหรับพิธีกรหนุ่ม
“ท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี” กับภรรยาสาว
“แพม อรอาภา สุสมากุลวงศ์” อดีตดาวธรรมศาสตร์ ที่ใช้ชีวิตคู่มา 3 ปีแล้ว แต่ล่าสุดฝ่ายชายกลับมีข่าวว่าแอบไปกิ๊กกับ
“ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา” ขณะที่ไปทำงานร่วมกันที่ประเทศสเปน แถมยังมีภาพหลุดหนุ่มท็อปควงสาว
“เจน เจนสุดา ปานโต” ด้วยท่าทีสนิทสนม จนลือกันหนาหูว่าข่าวดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้ภรรยาถึงขั้นอาจแตกหัก เมื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับหนุ่มท็อปเจ้าตัวก็ตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างตนกับภรรยาสาวอยู่ในช่วงที่มีปัญหากันจริง แต่ยังไม่ถึงขั้นเตรียมหย่าอย่างที่เป็นข่าว
“หลายๆ คนงงกับเรื่องของเรา ตอนนี้เหมือนกับมีข่าวหลายๆ ออกมาพร้อมๆ กัน แพมเขาก็ถามครับ อยากบอกว่าตอนนี้มีหลายข่าวมากมาย อย่างเรื่องงอนมันเริ่มมาจากตอนแรกที่มีข่าวออกมาว่าท็อปกับแพมหย่ากัน เผอิญข่าวนี้มันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมมีข่าวกับไอซ์และยังมีข่าวเจน (เจนสุดา ปานโต) เข้ามาอีก”
“ผมกับแพมก็คุยกันเรื่องนี้อยู่บ้างแต่ถามว่าถึงขนาดหย่าหรือเปล่า ไม่มีครับเราเคลียร์กันเข้าใจ แพมเขารู้สึกเหนื่อยกับที่ผ่านมาและพยายามทำตัวให้ชินกับมัน เพราะเจอหลายๆ เรื่องในเวลาติดๆ กัน ท็อปกับแพมแต่งงานอยู่ด้วยกันจะ 3 ปีแล้วในวันจันทร์ 19 ธันวาคมก็ครบ3ปี มันก็คงมีช่วงพักบ้าง ไปคิดบ้าง”
“เรื่องข่าวจริงๆ มันอาจจะเป็นแค่หนึ่งปัจจัยเพราะความจริงมันก็มีเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งเรื่องที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว แล้วก็เรื่องการทำงานด้วยเพราะว่าแพมเองก็ทำงานเยอะมาก ตัวผมก็ทำงานเยอะมากทำให้ต่างคนต่างโฟกัสเรื่องของงาน หลายคนก็เริ่มพูดแล้วว่า ถ้าเกิดเราสองคนใช้ชีวิตแบบนี้มันก็จะทำให้ไม่ราบรื่น สำหรับเราอยู่ด้วยกันก็โอเคนะครับ ตอนนี้แต่ละคนจะโฟกัสเรื่องของงานเหมือนกับว่าแต่ละคนตั้งใจทำงานมากจนกระทั่งไม่มีช่องสำหรับเราสองคนที่อยู่ด้วยกัน แต่เราก็พยายามทำช่องนี้ให้มันเติมเต็มให้ได้มากที่สุด”
ลั่นตอนนี้อยู่ในช่วงพยายามพิสูจน์ตัวเอง ต่างฝ่ายต่างทบทวนความสัมพันธ์ว่าจะอยู่หรือไป แต่ก็ไม่กล้าชัดเจนว่ากำลังห่างกันเพราะกลัวจะห่างกันจริง รับสถานการณ์ตอนนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจริง และเดาใจภรรยาไม่ออกว่ากังวลข่าวเรื่องมือที่ 3 หรือไม่หลังจากที่มีข่าวกับสาวอื่น
“จริงๆ ผมก็พยายามมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เราก็พยายาม มาตอนนี้เราก็ต้องพยายามมากขึ้นเข้าไปอีก เพราะอย่างที่ท็อปบอกว่าแพมเขายุ่ง งานของเขาเยอะ เราเองก็ต้องเข้าใจเขาและเราเองก็ต้องพยายามมากขึ้น มันไม่ได้มีเรื่องนี้อย่างเดียว มันเรื่องของข่าวเรื่องนั้นเรื่องนี้ผสมปนเปกันเต็มไปหมด ซึ่งตอนนี้ผมต้องพยายามมากขึ้นเพื่อพิสูจน์ให้เขาเห็นครับ ตัวแพมเองเขาไม่ค่อยได้อ่านข่าวครับเพราะเขายุ่งมาก แต่เขาก็คงได้ยินมาบ้างเพราะมีคนไปถามเขา ตอนนี้ผมรู้สึกสงสารแพม บางทีถามแพม ณ วันนี้เขาก็ยังไม่มีอะไรต้องพูด ผมเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ผมก็พูดได้คำเดียวว่าผมก็เต็มที่ที่สุดเท่าที่คนๆ หนึ่งจะทำได้ อยากให้มันเวิร์คที่สุดเพราะผมรักแพมมาก”
“กับความสัมพันธ์ของเราตอนนี้เอาตรงๆ ผมยังงงอยู่เลยครับ ผมเองก็ไม่ได้มีคำตอบตรงนี้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไง มันจะอยู่หรือจะไม่อยู่ จะไปหรือไม่ไป ณ ตอนนี้เป็นช่วงที่เราจะรอให้มันตกตะกอน เพราะเป็นช่วงที่เราให้เวลากับตัวเองและทั้งสองคนที่จะได้คิดหรือได้ตัดสินใจอะไรบางอย่าง ถ้าจะให้ระบุชัดเจนก็ยังเรียกว่าเราอยู่ด้วยกัน เราก็ยังเป็นสามีภรรยา กัน เราก็ยังรักกัน ถึงตอนนี้จะมีข่าวว่าเราแยกกันถึงขั้นจะเตรียมหย่า แต่ความจริงตรงนี้ยังไม่มี”
“แต่หลายคนก็อาจจะคิดอย่างนั้นได้ครับเพราะผมกับแพมไม่ได้ออกงานด้วยกันมานานมากแล้ว และไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเลย หลายๆ คนก็จะมองว่าผมใช้ชีวิตแบบโสดมากๆ เต็มที่กับชีวิตมากๆ และในขณะเดียวกันแพมเองก็เต็มที่กับชีวิตและในงานของเขา อันนี้ก็เป็นสิ่งที่คนได้เห็นและมันก็เป็นแบบนี้จริงๆ พอมารวมกับข่าวทั้งไอซ์ทั้งเจนก็เลยไปกันใหญ่ ผมกับแพมเราไม่ได้ทะเลาะกันเลยนะครับ เราเป็นคนที่คุยกันด้วยเหตุผลตลอด ข่าวมันก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเท่านั้นเอง แต่ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ”
“พอมีข่าวถามว่าแพมเขากลัวเรื่องของมือที่สามมั้ย เอาจริงๆ ในความคิดผมตอนนี้มันก็เป็นไปได้ เพราะงานที่ผมทำอยู่และงานที่แพมทำอยู่มันคนละสายกัน เขาอยู่ในสายธุรกิจการเงิน ผมอยู่สายพิธีกรในแวดวงบันเทิงมันก็ต้องมีข่าวแบบนี้บ้าง ซึ่งผมไม่ได้ตั้งใจจะมีแต่มันก็มีให้เห็น ระยะหลังๆ จะมีมาเรื่อยๆ ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วแพมคิดอย่างไร เขาอาจจะบอกว่าไม่ เราไม่รู้ว่าผู้หญิงเขาคิดอย่างไรครับ”
“ในช่วงความสัมพันธ์แบบนี้หลายๆ คนอาจจะเรียกว่าอยู่ในช่วงพักให้ต่างคนต่างได้คิดทบทวน แต่ผมไม่กล้าเรียกเพราะเวลามันพักปั๊บมันจะพักกันยาว มันจะมีความเสี่ยง ผมไม่อยากให้มีความเสี่ยงตรงนั้น อย่างที่บอกตอนนี้ทำทุกวิถีทางและพยายามมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความเป็นครอบครัวเรายังอยู่ครับ แต่อาจจะมีปัญหานิดนึงที่กำลังรอการปรับตัวเข้าหากัน ผมเองก็ต้องปรับตัวเข้าหาเขา เขาก็ต้องปรับตัวเข้าหาผม ยอมรับนะครับว่าผมเองเคยกลัวว่าระหว่างเราจะไม่เหมือนเดิม แต่ว่าตอนนี้เราก็เต็มที่กับมันและผมกับแพมก็เป็นคนที่คุยด้วยเหตุและผลอยู่ตลอด ตอนนี้ก็คงเป็นช่วงเวลาให้ซึ่งกันและกัน ให้เวลากับตัวเอง และให้เวลาคู่กันมากที่สุดครับ”
เผยหลายคนแนะนำให้มีลูกไว้เป็นโซ่ทองคล้องใจ แต่สำหรับตนมองว่าก่อนที่จะมีลูกจะต้องสร้างรากฐานความรักให้แข็งแรงกว่านี้ก่อน ลั่นตอนนี้ต่างคนต่างทุ่มเทเวลาให้กับงานจึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาใช้ชีวิตคู่ความสัมพันธ์จึงเกิดช่องว่าง
“เรื่องการมีลูกหลายคนก็จะพูดเหมือนกันว่าจะมีลูกหรือเปล่า แต่ผมกับแพมมันไม่ได้มีเวลาเพราะต่างคนต่างทำงาน ไม่ใช่ไม่อยากมีลูกนะ แต่มันยังไม่มีช่องตรงนั้น ตอนนี้หลายคนก็พูดว่าควรมีลูกนะเพื่อเป็นโซ่ทองคล้องใจ แต่สำหรับผมเองกลับคิดว่าเราสองคนต้องแข็งแรงมากๆ ก่อนที่จะไปมีตรงนั้น ถ้าเราสองคนยังไม่แข็งแรงกันมากๆ วันหนึ่งมีลูกขึ้นมามันก็จะกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกสเต็ปหนึ่ง แค่สเต็ปแรกที่เราใช้ชีวิตคู่กันตอนนี้ยังค่อนข้างยากเลย”
“ผมเองคุยกับแพมตลอดนะครับว่าเรามีเงินให้น้อยกว่านี้ก็ได้ เราก็ใช้อย่างพอเพียงจริงๆ หลายคนบอกว่าหรืออาจเป็นเพราะว่าเราแต่งงานกันเร็วเกินไปเพราะตอนนี้เราต่างสนุกกับงานของเรา มันเป็นเรื่องที่พูดยาก(หัวเราะ) ช่วงแรกมันเป็นผมขอให้แพมเขาทำงานน้อยลง แต่ตอนนี้ผมก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะผมเองงานก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ และเราต่างก็สนุกกับงานของเรามากขึ้น ถ้าถามเรื่องลูกตอนนี้ลูกของผมคงเป็นงานมากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเรามีเรื่องงานแล้วจะไม่ได้คิดถึงแพมและไม่ได้รักแพม แต่ด้วยระยะเวลาเราไม่ได้มีอยู่ด้วยกันจริงๆ ครับมันก็เลยเกิดช่องขึ้น”
ที่มา: manager.co.th