Author Topic: "แท็บเล็ต"พลิกโฉมวิดีโอออนไลน์ !?!  (Read 989 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


การสำรวจพบ แท็บเล็ตคืออุปกรณ์ที่ผู้ใช้ชมวิดีโอนานกว่าสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล


คลิปวิดีโอความยาว 10 นาทีขึ้นไปนั้นถูกชมบนสมาร์ทโฟน 30% ของเวลาการชมวิดีโอทั้งหมด


Kindle Fire แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจากอเมซอน

การสำรวจล่าสุดพบพฤติกรรมการบริโภคมัลติมีเดียของชาวไอทีเปลี่ยนไป ปรากฏว่าไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ทั้งรุ่นตั้งโต๊ะ-วางตัก แต่เป็นเท็บเล็ตที่คว้าแชมป์อุปกรณ์ที่มีอัตราการเปิดชมวิดีโอ คิดเป็นเวลานานที่สุด หลายเสียงเชื่อพฤติกรรมใหม่ของชาวโลกในยุคดิจิตอลนี้จะเป็นแนวทางปฏิวัติธุรกิจวิดีโอออนไลน์ในอนาคต ขณะที่แท็บเล็ตที่พ่วงบริการวิดีโอออนไลน์ของอเมซอนอย่าง "คินเดิลไฟร์ (Kindle Fire)" ถูกจับตาว่าจะเปลี่ยนเกมในตลาดแท็บเล็ตได้ในระยะยาว
       
       การสำรวจของบริษัทโอยาลา (Ooyala) ผู้ให้บริการระบบวิดีโอออนไลน์แก่ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาด พบว่าผู้ใช้แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป นั้นมีระยะเวลาการชมวิดีโอเฉลี่ยมากกว่าผู้บริโภคที่ชมวิดีโอบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะถึง 30% สาเหตุหลักเนื่องจากแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้สามารถพกพาติดตัวได้ง่ายกว่า ทำให้อัตราการชมวิดีโอจบบนแท็บเล็ตสูงกว่าคอมพิวเตอร์ถึง 30%
       
       หากคิดเป็นนาที ใน 1 นาทีที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะชมวิดีโอ ผู้ใช้แท็บเล็ตจะชมวิดีโอนานกว่า 1 นาที 17 วินาที คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 28%
       
       ข้อมูลจากโอยาลาพบว่า คอมพิวเตอร์ทั้งตั๊งโต๊ะและวางตักนั้นถูกใช้ในการชมวิดีโอออนไลน์ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอสั้นมากที่สุด ขณะที่แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือ ทีวีอินเทอร์เน็ต และเกมคอนโซลถูกใช้ชมวิดีโอที่เป็นภาพยนตร์ชนิดกลางและยาวมากที่สุด โดยคลิปวิดีโอความยาว 10 นาทีขึ้นไปนั้นถูกชมบนสมาร์ทโฟน 30% ของเวลาการชมวิดีโอทั้งหมด ขณะที่คิดเป็น 42% บนแท็บเล็ต และ 75% บนทีวีอินเทอร์เน็ตและเกมคอนโซล
       
       การสำรวจพบว่าขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญของการชมวิดีโอ แต่เป็นความสามารถในการผูกติดหรือพกพาระหว่างอุปกรณ์และผู้ใช้ โดยผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่สามารถชมวิดีโอเกิน 3 ใน 4 ของเรื่องมีอยู่มากกว่า 20% ขณะที่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมีเพียง 18% เท่านั้น
       
       เป็นไปตามคาด ผู้ชมทีวีอินเทอร์เน็ตและทีวีที่ต่อเครื่องเล่นเกมคอนโซลมีเปอร์เซ็นต์การชมวิดีโอจบเรื่องมากที่สุดเมื่อเทียบกับนานาอุปกรณ์ทุกชนิด สอดคล้องกับผลสำรวจก่อนหน้านี้ที่พบว่า เครื่องวิดีโอเกมคอนโซลคืออุปกรณ์ยอดฮิตสำหรับชาวอเมริกันในการชมสารพัดคอนเทนต์ออนไลน์บนทีวี
       
       การสำรวจชี้ว่าไอแพด (iPad) คือแท็บเล็ตยอดฮิตที่ถูกเปิดชมวิดีโอออนไลน์มากที่สุดช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วน 97.7% ของกลุ่มตัวอย่าง ขณะที่ไอโฟน (iPhone) คิดเป็นสัดส่วน 56% ของสมาร์ทโฟนที่กลุ่มตัวอย่างเปิดชมวิดีโอ ถือว่ายังสูงกว่า 36.8% ของอุปกรณ์แอนดรอยด์ แต่ในแง่ของจำนวนนาทีที่ชม แอนดรอยด์สามารถครองส่วนแบ่งการชมได้มากกว่าคือ 49% เทียบกับไอโฟนที่มี 44%
       
       ข้อมูลเหล่านี้สรุปได้จากฐานข้อมูลของโอยาลาและพันธมิตรซึ่งถูกอ้างว่ามีจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่า 100 ล้านรายในกว่า 100 ประเทศ โดยผลการสำรวจครั้งนี้ถูกเปิดเผยก่อนวันจัดส่ง Kindle Fire แท็บเล็ตราคาประหยัดจากอเมซอนเพียง 1 วัน (กำหนดจัดส่งแก่ผู้ซื้อคือวันที่ 15 พ.ย.) แท็บเล็ตดังกล่าวมีจุดขายที่การเป็นเครื่องรับนานาบริการคอนเทนต์ออนไลน์ตระกูลอเมซอน ซึ่งอเมซอนจะคิดค่าบริการเป็นรายเดือนราว 79 เหรียญ ผลการสำรวจนี้มีส่วนทำให้ความคิดที่ว่าแท็บเล็ตพร้อมบริการคอนเทนต์ของอเมซอนจะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมคอนเทนต์ออนไลน์ในอนาคตนั้นมีน้ำหนักมากขึ้น
       
       การเปิดตลาดของ Kindle Fire นั้นถูกจับตาอย่างมาก เนื่องจากการยั่วใจผู้บริโภคด้วยราคาที่ต่ำเพียง 199 เหรียญ (ราว 6,000 บาท) ทิ้งห่างจากราคามาตรฐานแท็บเล็ตทั่วไปที่จำหน่ายในราคา 500 เหรียญ (ราว 15,000 บาท) ราคาประหยัดเช่นนี้โดนใจผู้ที่ต้องการซื้ออุปกรณ์ราคาไม่แพงเพื่อการอ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง และเล่นเกม ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ต้องการอุปกรณ์หน้าจอใหญ่เพื่อการสนทนาผ่านวิดีโอ ที่ต้องมองหาไอแพดหรือแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่รุ่นอื่น
       
       ผู้ซื้อ Kindle Fire จะได้สิทธิ์ทดลองใช้บริการนานาคอนเทนท์ของอเมซอน Amazon Prime เป็นเวลา 30 วันฟรี โดยหากต้องการใช้ต่อ จะต้องเสียค่าสมาชิก 79 เหรียญต่อปีเพื่อรับบริการวิดีโอและเพลงสตรีมมิ่ง ทั้งหมดนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า Kindle Fire จะทำให้อเมซอนมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 32% เป็น 64,600 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2012
       
       ที่สำคัญ นักวิเคราะห์เชื่อว่า Kindle Fire จะสร้างแรงกดดันให้แท็บเล็ตแบรนด์อื่นในตลาดต้องลดราคาลง พร้อมกับมั่นใจว่า 5 อันดับแท็บเล็ตโลกในปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
       
       Company Related Link :
       Amazon

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6247 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
7882 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick
0 Replies
4443 Views
Last post January 11, 2011, 01:45:43 PM
by Nick
0 Replies
7617 Views
Last post January 13, 2011, 04:29:26 PM
by Nick
0 Replies
5318 Views
Last post February 27, 2011, 11:13:31 PM
by Nick
0 Replies
6770 Views
Last post March 11, 2011, 04:59:35 PM
by Nick
0 Replies
3162 Views
Last post April 16, 2011, 03:17:14 PM
by Nick
0 Replies
3175 Views
Last post May 03, 2011, 02:41:58 PM
by Nick
0 Replies
3537 Views
Last post July 03, 2011, 09:25:17 AM
by Nick
0 Replies
3399 Views
Last post July 08, 2011, 03:26:19 PM
by Nick