Author Topic: “หมออ้อย” มั่น! บอกอยู่กินกับ “มิกกี้” มา 2 ปียังฟีเจอริ่งกันดีอยู่ ให้เวลาอีก 1 ปีถ้าไม่แต่ง  (Read 1520 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


       “หมออ้อย” สุดมั่น! บอกอยู่กินกับ “มิกกี้” มา 2 ปียังฟีเจอริ่งกันดีอยู่ ลั่นให้เวลาอีก 1 ปีถ้าไม่แต่งคงต้องเลิกสถานเดียวเพราะถือว่าไม่ให้เกียรติกัน เผยถ้าเลิกกับมิกกี้คงไม่มีแฟนอีก รู้ตัวอายุเยอะแล้วคงหาคนมาแต่งงานด้วยยาก แต่ถ้าจะให้ไปเอาผู้ชายหัวล้านลงพุงก็ไม่เอาเหมือนกัน
       
       เคยประกาศผ่านสื่อว่าจะแต่งงานกัน จนแล้วจนรอดผ่านไปเป็นปีก็ยังไม่มีวี่แววว่า “หมออ้อย จุฑารัตน์ เทียมสุวรรณ” จะแต่งงานกับ “มิกกี้ ณัฐพงศ์ ชอบชื่น” แฟนรุ่นน้องซักที ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจว่าอยู่กินกันมา 2 ปีแล้ว ให้เวลาอีก 1 ปีถ้าไม่มาขอซะทีก็คงต้องทางใครทางมัน
       
       “เวลาเรารักกันใหม่ๆ เนี่ย มันก็จะมีความหวาน อยากจะแต่งงานโน้นนี่ แล้วแฟนเราเป็นช่วงที่อยู่ในวัยทำงาน อยากมีครอบครัว มันก็เป็นภาวะของอารมณ์ในช่วงนั้น แต่ถ้าพูดจริงๆ ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกันแล้วล่ะ อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง แล้วเราอยู่กันมา 2 ปีแล้ว และในเรื่องของการแต่งงานมันก็จะไม่ตื่นเต้นเร้าใจแล้ว คือเรานอนกอดกันทุกวันอยู่แล้ว เรื่องแต่งงานเลยเป็นเรื่องรองลงไป”
       
       “เรื่องการแต่งงานก็แล้วแต่เขาเลย จะแต่งไม่แต่ง แล้วถ้าไม่แต่ง เราก็คงให้โอกาสอีกแค่ปีสองปี ถ้าไม่แต่งก็คงต้องออกไปเพราะถือว่าไม่ให้เกียรติ แต่ตอนนี้ก็ยังบอกได้เต็มปากเลยว่ารักเขา แต่โดยปกติแล้วภาพหมออ้อยจะเป็นคนกินเด็ก เจ้าชู้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ถ้าคนที่เขารู้จัก เขาก็จะรู้เลยว่าถ้าคบใครแล้วก็จะรัก แล้วก็รักจริงๆ แล้วตอนที่คบกับแฟนเก่าก็รักกันมา 13 ปี หลายคนก็คงจะรู้ดี ไม่เคยคบใครปีสองปีแล้วเลิก เรื่องนี้ไม่มี”
       
       บอกอยู่กินกันมา 2 ปีแล้ว จะให้เวลาแฟนอีก 1 ปี ถ้ายังไม่มาขอก็ต้องคุยกัน เจ้าตัวบอกคนเราถ้าอยู่ๆ กันไปครบ 3 ปีอาจจะไม่รักกันแล้วก็ได้ แต่ตอนนี้ยังฟีเจอริ่งกันอยู่ แสดงว่ายังรักกันฉะนั้นก็ยังให้โอกาส
       
       “จริงๆ คนเราคบกัน ถ้าไม่แต่งงาน 3 ปีก็น่าจะพอแล้วนะ ตอนนี้เหลืออีกปี เพราะครบ 2 ปีล่ะ แล้วคนเราถ้าครบ 3 ปีแล้วอาจจะไม่รักกันแล้วก็ได้ มันก็จะยังเหลือแค่ความผูกพัน แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยังอยู่กับเรา เรื่องของความผูกพันก็เป็นเรื่องของความผูกพัน ก็อาจจะเป็นพี่เป็นน้องกันก็ได้”
       
       “แล้วก่อนที่จะมาเจอคนนี้มันก็เหลือแค่ความผูกพัน จะให้มาฟีเจอริ่งมันไม่มีแล้ว เหมือนกับว่าเราอยู่กันมานานมาก แล้วเหมือนกับเราไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลย มันก็ไม่ใช่แล้ว ก็ควรเป็นพี่น้อง แล้วถ้าเรายังคบกันไป แล้วไม่ฟีเจอริ่งกันเนี่ย ก็คงต้องมาคุยกันใหม่แล้ว ขนาดยังไม่แต่งงานยังไม่ฟีเจอริ่งแล้ว แล้วอนาคตล่ะ แต่บอกก่อนว่าตอนนี้ยังฟีเจอริ่งอยู่นะคะ”
       
       “ทีนี้ถ้าจะแต่งงานมันก็จะมีเรื่องเงินเข้ามาเป็นปัญหา ว่าถ้าเราจะแต่งงานจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ แล้วก็ต้องเข้าใจว่าหมออ้อยไม่ได้มีสามีเป็นไฮโซ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่สามารถจะมาแต่งงานกับเราด้วยเงินจำนาน 8-9 ล้านได้ คือเรื่องแบบนี้มันต้องหา แล้วถ้าหามันก็เหนื่อยกันพอสมควร ทีนี้เราก็รู้สึกว่าพร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เรามั่นใจได้ ก็อย่ามีคนอื่นเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีที่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด”
       
       “เราก็ไม่ได้สงสัยอะไร แต่ตอนนี้เมื่อก่อนเราอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง แต่ตอนนี้ก็เหมือนจะต้องห่างไป เพื่อที่จะมีกลุ่มสังคม มีเพื่อนอะไรก็แล้วแต่โดยที่ตอนนี้ตัวเราหยุดแล้ว ด้วยเรื่องของอายุอานาม เราก็จะทำงานเสร็จกลับบ้านๆ ส่วนเรื่องความหวานก็ต้องมีจืดลงไปบ้าง ก็มีทะเลาะกันบ้าง”
       
       เผยถ้าเลิกกับแฟนคนนี้แล้วจะไม่มีแฟนใหม่ เพราะยากที่จะหาคนมาแต่งงานด้วย
       
       “ตอนนี้เราคิดว่าถ้าเลิกไปแล้วจะไม่มีแฟนใหม่ เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง เพราะเราทิ้งครอบครัวมานานมาก แล้วก็หาโอกาสยากแล้วที่จะหาคนมาแต่งงานด้วย เพราะเราอายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว คนที่จะแต่งงานจริงใจกับเราจริงๆ น่าจะยาก แล้วถ้าเราอายุเยอะๆ แล้วไปเจอคนที่หัวล้าน หน้าเป็นสิว พุงป่อง มันก็ไม่ได้เพราะเราเป็นคนรักสวยรักงาม”
       
       “ตอนนี้เราจะไม่เอาเด็กแล้ว ถ้าอายุต่ำกว่า 35 ก็ไม่เอาแล้ว เพราะความเป็นไปได้มันยากมากเลย แล้วเราก็ต้องเสียเวลา แล้วสำหรับแฟนเรา ถ้าอีกปีนึงเขายังไม่พัฒนา เราก็ต้องขอคุยแล้วว่า เราจะไม่มีสเตตัสแบบนี้แล้ว เพราะว่าการที่เราอยู่กับเขามันก็มีเงื่อนไขอยู่ว่าเราไปไหนกับใครไม่ได้ ไม่เคยแม้แต่จะไปค้างที่บ้าน ก็เพราะกลัวว่าเขาจะโกรธ”
       
       “ส่วนตอนนี้เข้าก็ไม่ได้จัดรายการแล้ว เพราะว่าเขาก็ต้องการไปโต แต่ช่วงแรกๆ ก็จะมีกระแสข่าวว่าเกาะหมออ้อยดังหรือเปล่า แล้วเขาเป็นผู้ชาย เขาก็จะไม่ความรู้สึกไม่สบายใจ ว่ามีข่าวเกาะกระแสแฟนดัง หรือว่าเกาะหมออ้อยรวย เขาก็เลยพยายามที่จะออกไปเพื่อที่จะโตด้วยตัวของเขาเอง ส่วนรายการเซ็กซี่ไนท์ที่ตอนนี้เราเป็นพิธีกรหลัก แล้วตอนที่เขาไม่ได้เป็นแฟนเขาก็เป็นพิธีกรร่วมได้ คนเรามันอยู่ด้วยกันมานาน เขาก็ต้องมีศักดิ์ศรี แล้วก็ไม่มั่นใจ เขาก็เลยขอออกไปทำกับเพื่อนเป็นพิธีกรเดี่ยวๆ”




ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)