นายมอนตี้ หว่อง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนลซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย)
เอชพีมั่นใจตลาดไทยกำลังซื้อไอทีสูง เตรียมส่งสินค้าที่มีนวัตกรรมตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค เน้นทำกิจกรรมร่วมกับพาร์ตเนอร์ขยายตลาดเต็มสูบ หลังส่วนแบ่งไตรมาสแรกกระเตื้อง ส่วนแท็บเล็ตขอเวลาดูตลาดก่อนส่งเข้าไทย
นายมอนตี้ หว่อง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนลซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) กล่าวว่าประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญตลาดหนึ่งในภูมิภาคนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีกำลังซื้อที่สูง อันเห็นได้จากข้อมูลอัตราการว่างงานของประเทศไทยมีเพียง 0.7% เท่านั้น ซึ่งบ่งบอกว่า ประชาชนของประเทศมีงานทำ มีรายได้ประจำจึงมีกำลังซื้อที่สูง เมื่อเปรียบเทียบประเทศอื่นในเอเชียที่ส่วนมากอยู่ราว 4-5% นอกจากนี้ ระบบสาธารณูปโภค และการเติบโตของจีดีพีระดับ 3-5% และภาคส่งออกยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น
จากการคาดการณ์ของไอดีซี ตลาดไอทีของประเทศไทยโดยรวมน่าจะโตสูงถึง 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากหน่ายงานภาครัฐและเอกชนที่เริ่มมีการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงโครงการต่างๆ ของภาครัฐ
กลยุทธ์ที่เอชพีจะใช้รุกตลาดในปีนี้ จะเน้นไปที่การนำเสนอนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์เป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Beats Audio และเทคโนโลยี HP CoolSense ที่ตอบโจทย์ตรงใจสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มโมบิลิตี้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ลูกค้าในกลุ่มที่เป็นครอบครัว เอชพีก็เป็นผู้นำในกลุ่มคอมพิวเตอร์แบบออลอินวันด้วยเช่นกัน
'ตลอดเวลาที่ผ่านมา เอชพีเน้นย้ำถึงความสำคัญของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์การใช้งานให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ซึ่งเอชพีมุ่งไปในทิศทางของความเป็นผู้นำในนวัตกรรมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มากกว่าการเป็นผู้นำในด้านราคา'
นายมอร์ตี้ ยังได้กล่าวถึงกระแสของตลาดแท็บเล็ตที่กำลังมาแรงว่า หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าเวลานั้น ทุกคนพูดถึงแต่ มินิโน้ตบุ๊ก หรือเน็ตบุ๊ก พอเวลาผ่านไป เมื่อผู้ใช้งานได้เรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น กระแสตรงนี้ก็เงียบลง กระแสเกี่ยวกับแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์แกดเจ็ต ฟอร์มแฟกเตอร์ หมายถึงมีรูปแบบเหมือนแกดเจ็ต คือ มีขนาดเล็กกะทัดรัด เพรียวบาง น้ำหนักเบา
แต่เอชพีมองว่า ด้วยปัจจัยความใหม่ของตัวผลิตภัณฑ์ ทุกคนจึงตื่นเต้น สนใจ ทว่าตัวผลิตภัณฑ์เองก็ยังมีข้อจำกัดในด้านการใช้งานอยู่พอสมควร หากใช้งานเบื้องต้น เช่น การอ่านอีเมล์ การเข้าใช้งานเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และการเล่นเกมที่ไม่ได้ต้องการการประมวลผลอย่างหนักหน่วง
'เอชพี เราก็ไม่ละเลยตลาดในส่วนนี้ เช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัว HP TouchPad ไปในงานแถลงข่าวภูมิภาคแล้ว ส่วนแผนการนำเข้ามาทำตลาดในไทยนั้นยังไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่า จะนำเข้ามาทำตลาดเมื่อไร'
ในส่วนของช่องทางจัดจำหน่าย เอชพีจะสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจแก่พาร์ตเนอร์ คู่ค้า และตัวแทนจำหน่าย โดยลงทุนสนับสนุนทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมงานโดยเฉพาะที่มาช่วยประสานความร่วมมือ
เวลานี้ เอชพีมีตัวแทนจำหน่ายหลัก อยู่ 4 ราย และมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ โดยมีแผนที่จะขยายเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ โดยเอชพีจะโฟกัสในตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น เพราะในปัจจุบันตลาดกรุงเทพฯ ค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว รวมไปถึงการลงทุนกับตัวแทนจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ที่จุดขาย การลงผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น การปรับปรุงร้านค้า และการมีกิจกรรมส่งเสริมการขายมาซัปพอร์ต ช่วยให้พาร์ตเนอร์ที่เป็นร้านค้าต่างๆ ยินดีที่จะขายสินค้าของเอชพีเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการที่เอชพีมีส่วนแบ่งการตลาดในปีที่แล้วลดลงนั้น นายมอนตี้กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดไตรมาสแรกของปี 2554 ไอดีซีระบุว่า เอชพีมีส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.5% เป็นผลมาจากการเดินหน้าเปิดตัวนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำงานของทีมงานเอชพีที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
'มั่นใจว่า เราเดินมาถูกทางแล้วสำหรับกลยุทธ์ ปัจจุบัน ดังเห็นได้จากตัวเลขที่ดีขึ้น'
Company Related Link :
HP
ที่มา: manager.co.th