“เอกชัย” เป็นโต้โผจัดคอนเสิร์ต “ศรีวิชัยโชว์ ช่วยซับน้ำตาพี่น้องชาวใต้” เจ้าตัวเผย ลงไปช่วยแจกสิ่งของให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ แล้วได้ไปเจอรูปตัวเองที่แฟนเพลงเก็บไว้ตามบ้าน ถึงกับน้ำตาแตกด้วยความตื้นตัน ฮึดหาทางช่วยอย่างเต็มกำลัง ติงรัฐควรช่วยให้เร็วกว่านี้ พร้อมฝากขอบคุณคนไทยที่ไม่ทิ้งกัน
เห็นคนบ้านเดียวกันเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยแล้วรู้สึกเห็นใจ ทำให้นักร้องขวัญใจพี่น้องชาวใต้อย่าง “เอกชัย ศรีวิชัย” ถึงกับลุกขึ้นมาเป็นแกนนำรวมพลดาราศิลปินสายเลือดสะตอ อาทิ พระเอกหนุ่ม ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์, หลวงไก่, บ่าววี หรือแม้กระทั่งศิลปินลูกทุ่งที่ไม่ใช่คนใต้ อย่าง ฮาย อาภาพร นครสวรรค์, ยิ่งยง ยอดบัวงาม และอีกหลายต่อหลายชีวิตที่ต่างก็มาช่วยกันอย่างเต็มใจ โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2554 ณ โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเอกชัยในฐานะโต้โผใหญ่ได้เปิดใจถึงการช่วยเหลือครั้งนี้ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าว่า...
“ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคนด้วยนะครับ ที่ยังเห็นความสำคัญในกับความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในภาคใต้ แล้วอยากจะขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนทุกคนด้วยซ้ำไป ว่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ในช่วงอายุ 50 ปี อย่างผมนี้ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ มันหนักหนาสากันต์ และสิ่งที่ได้รับความช่วยเหลืออันดับแรกก่อนต้องบอกเลยว่ามาจากพี่น้องสื่อมวลชนที่ได้ช่วยกันกระจายข่าวลงไปทำข่าว และนำเสนอความทุกข์ร้อนของประชาชนออกมา”
“ในส่วนกลางต้องบอกว่าน่าจะเป็นองค์กรแรกที่เข้าไป และก็ทำให้พี่น้องที่ถูกอุทกภัยครั้งนี้ได้รับการช่วยเหลือเป็นเจ้าแรกๆ และก็ถัดมาเป็นเอกชนทุกองค์กร และถัดมาก็ดาราและพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผมพูดได้เลยว่าในฐานะเป็นตัวแทนของคนใต้คนหนึ่งก็อยากจะขอบคุณจริงๆ เพื่อนพี่น้องทั้งประเทศไทยที่มีน้ำใจกันเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้คนไทยรักกันมากด้วยซ้ำไป ทุกๆ กลุ่มโดยเฉพาะองค์กรเอกชนต่างคนต่างทำงาน”
“ผมจัดคอนเสิร์ตวันที่ 21 เมษายนนี้ ผมอยากจะสร้างความสุขให้กับคนในท้องถิ่นที่เดือดร้อนจริงๆ ได้มีเสียงหัวเราะบ้าง ก็คือจัดในพื้นที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบ้านเกิดผมด้วยและเที่ยวนี้ถูกหนักที่สุดก็ในอำเภอท่าศาลา แต่จริงๆ แล้วมันก็แชร์ๆ ความเสียหายกันไปต้องบอกว่าเกือบทุกจังหวัดที่โดนน้ำท่วมแต่ว่าผมก็ต้องแชร์ไปทำงาน โดยตัวคนเดียวบางทีมันก็ไม่ทัน และก็เลือกที่จะเล่นในอำเภอท่าศาลา จริงๆ แล้วด้วยเหตุผลนี้พี่น้องที่ชมรายการนี้อยู่ ก็คงรู้นะว่าทำไมผมต้องไปที่บ้านเกิด”
เผย นาทีที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของทหารเข้าไปช่วยแจกสิ่งของพื้นที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก สิ่งที่ทำเอาร้องไห้เลยคือไปเจอรูปตัวเองในบ้านของผู้ประสบอุทุกภัย เลยยิ่งทำให้อยากจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
“ผมได้เข้าไปพื้นที่แรกๆ ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ของทหารเอาของไปแจกด้วยตัวเองในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมา ซึ่งต้องบอกว่าในชีวิตไม่เคยใช้คำว่ารักทหารมากที่สุดเลย วันนี้ผมขออนุญาตที่จะพูด บางคนไม่ได้กินข้าว ผมคิดว่ามันเป็นมากกว่าหน้าที่เขา แต่เป็นความรับผิดชอบทางด้านหัวใจ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นความประทับใจมากที่สุดเลย ผมก็เลยจัดคอนเสิร์ตวันที่ 21 เมษายน ผมก็เลยขอรับบริจาคกับผู้ใหญ่ทุกๆ คนที่เป็นหน่วยงานใดๆ ก็ตาม รวมทั้งเพื่อนฝูงผมคือมี 14 ตำบลที่เดือดร้อนหนักๆ”
“ผมจะเล่นคอนเสิร์ตให้เขาดูโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จะมีศิลปินใต้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มาร่วมคอนเสิร์ต โดยจะบอกๆ เอาใครว่างก็มาช่วยกันคือสร้างความสุขให้กัน โดยใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า รวมใจเอกชัย ซับน้ำตาที่โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช”
“ที่อำเภอพุนพิน ผมไปแล้ว ร้องไห้โฮเลย แล้วของที่เขาเอาไปวางไว้บนหลังคามีหมอน หนึ่งในนั้นมีรูปผมอยู่ด้วย และเชื่อไหมว่าบ้านที่เดือดร้อน 10 บ้านมีรูปผม 7-8 บ้าน คือแบบวันนั้นผมสุดๆ เลยแบกข้าวสารจนลืมอายุแก่เลย(น้ำตาคลอ) อีกอย่างผมก็จะขอผู้ใหญ่หลายๆ ท่านจะขอข้าวสารเยอะๆ แบบว่าครอบครัวหนึ่งกินได้นานๆ อย่างเมื่อวานผมไปสั่งของจากมาเลเซียได้เสื้อผ้ามาหลายหมื่นตัวและมีเงินที่บริจาค”
“ผมขอให้พลังศรัทธานี้ถึงครอบครัว ถึงพ่อแม่ ถึงทุกคนในครอบครัวและก็อย่าได้มาเจอเหมือนคนใต้บ้านผมอีกคนไทยทั้งประเทศอย่าได้มาเจอเรื่องแบบนี้อีกเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจชาวใต้ทุกคนครับ วันนี้ความทุกข์ยากที่บ้านเรามันไม่ได้เป็นเพราะเราทำหรือเป็นเพราะใครสั่งให้มาทำ อยากให้ตั้งสติให้ได้และอยากให้พี่น้องคิดว่าองค์กรหน่วยไหนก็แล้วแต่ไม่ใช่บริษัทประกันภัยที่จะหยิบยื่นมือมาช่วย”
“บางคนถูกช่วยบางคนไม่ถูกช่วยก็โกรธ ต้องใจเย็นๆ และตัวผมเองก็ไม่มีความสามารถที่จะไปในบ้านทุกๆ หลัง เพราะแต่ละคนก็มีภารกิจทุกวัน เราก็ทำได้เท่าที่ทำได้ คนไหนที่ผมไปไม่ถึงก็ต้องขอโทษนะครับ และอยากจะฝากบอกถึงพี่น้องถึงเวลาแล้วที่เราจะมามองคนที่ตัดไม้ทำลายป่า เราต้องหันดูสิ่งแวดล้อมรอบๆ ว่าสิ่งที่เราละเลยไปให้คนมาตัดไม้จนเกิดแบบนี้ เราก็รู้แล้วว่าความเดือดร้อนมันเกิดขึ้นจริงๆ ก็ช่วยเป็นหูเป็นตาไว้ไม่ใช่เพื่อรุ่นเรา แต่เป็นรุ่นลูกรุ่นหลานเรา”
วอน รัฐบาลยื่นมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็ว ควรลดเงื่อนไขทางราชการเพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ส่วนที่เคยบอกจะจัดสรรที่ทำกินให้ชาวบ้านก็ควรรีบทำ เพื่อลดปัญหาการบุกรุกทำลายป่า
“ถามว่าทำไมผมไม่พูดถึงรัฐบาลเลย จริงๆ แล้วมันมีพิธีการเยอะ พิธีการที่จะผ่าตัดคนที่เป็นมะเร็งหรือคนที่เป็นโรคร้ายนี้บางทีเรามัวแต่ไปถามหาบัตรประชาชน อยู่ว่าอยู่จังหวัดไหน บางทีมันก็ไม่ทันกิน ก็ผู้ใหญ่ควรจะฟังๆ กันบ้างนะครับ มันควรจะต้องผ่าตัดเลย และก็ทำอะไรเลยช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีบ้านจะอยู่ไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ มันไม่ควรที่จะถามหาบัตรประชาชนหรือบ้านเลขที่ มันควรที่จะให้เขาเลยโดยวิธีการไหนก็แล้วแต่ แต่ในขณะเดียวกันสิ่งต่างๆ ที่ถูกบรรเทาไปได้ผมว่ามาจากองค์กรเอกชน และพี่น้องสื่อมวลชนและเหล่าศิลปินดาราทุกคน”
“วิธีการที่ช่วยเหลือมันถูกต้องแล้ว แต่กลัวจะเป็นไฟไหม้ฟางในช่วงระยะหนึ่งแต่การช่วยเหลือระยะยาวผมว่า คือช่วงนี้รัฐบาลกำลังจะเลือกตั้ง ทุกคนก็จะพูดได้แล้ว ไม่รู้ว่ามีรัฐบาลแล้วใครจะช่วยเหลือได้บ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วใครจะช่วยได้สำหรับบาดแผลที่เกิดขึ้นบางคนไม่มีพ่อแม่ บางคนลูกสูญหาย ทรัพย์สินเสียหายหมด ผมก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะมีการเยียวยายังไง แต่ผมว่าน่าจะมีกองทุนซักกองหนึ่ง อาจจะเล่นคอนเสิร์ตในเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้แล้วเงินที่ได้จากคอนเสิร์ตก็ไว้คอยช่วยทุนการศึกษาไว้ระยะยาวๆ”
“แต่ถ้าเป็นฝ่ายรัฐบาลก็จะบอกว่าโครงการที่จะแจกที่ทำมาหากินรื้อมาเถอะครับ ทำจริงๆ ซักทีอย่าพูดแต่ปากกัน แจกที่ทำกินให้กับชาวบ้านทุกที่ เพราะมันยังมีพื้นที่ในประเทศไทยอีกมากที่ไม่ได้ทำพื้นที่ให้สำเร็จ และชาวบ้านพวกนี้แหละครับจะได้ไม่ไปบุกรุกพื้นที่ป่า ไม่ไปบุกรุกที่ของหลวง ถ้าเกิดเราแบ่งสันปันส่วนพื้นที่ตรงนี้ได้เวลาที่เราไม่พอทำมาหากินกับที่มันเยอะ เราไม่มีใครอยากอดตาย มันก็ต้องไปบุกรุกที่ป่าและแน่นอนก็ต้องมีคนมาตัดไม้ทำลาย เราห้ามเขาไม่ได้ ในเมื่อท้องหิวก็ต้องปากกัดตีนถีบต่อไป เพราะฉะนั้นใครที่มีความจริงใจต่อประเทศจริงๆ ก็ช่วยเถอะครับ จัดสรรที่ทำมาหากินแก่ประชาชนด้วย”
ที่มา: manager.co.th